คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทรรศน์ปฏิภาณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษมาตรฐานโดยไม่คำนึงถึงพฤติการณ์อาจไม่เป็นธรรม ศาลสูงกว่ามีอำนาจพิจารณาโทษใหม่ได้
การกำหนดอัตราโทษเป็นมาตรฐาน โดยไม่คำนึงถึงพฤติการณ์ประกอบการกระทำผิดตามหลักวิชาธรรมศาสตร์ อาจก่อให้เกิดความอยุติธรรมได้ง่าย เมื่อศาลที่สูงกว่าไม่เห็นด้วยในดุลพินิจเช่นนั้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับเป็นข้อควรคำนึงในการอำนวยความยุติธรรมต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดแก้คดีและการขาดนัดพิจารณา: การนัดให้จำเลยแก้คดีไม่ใช่การนัดพิจารณาคดี และโจทก์ไม่ขาดนัด
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ ศาลนัดไต่สวนแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดีในวันที่ 22 มีนาคม 2499 และให้โจทก์เซ็นทราบไว้ด้วย ครั้นถึงวันที่ 22 มีนาคม 2499 จำเลยยื่นคำให้การ ศาลเรียกคู่ความเพื่อสอบถามคำให้การจำเลยแต่โจทก์ไม่มาศาลในวันนี้ ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียโดยหาว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไม่ได้ เพราะไม่มีการนัดเป็นกิจลักษณะว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณา และกรณีไม่เข้าตามมาตรา 174 แห่งวิธีพิจารณาความแพ่งฯไม่เป็นการทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดพิจารณาคดีและการขาดนัด: ศาลต้องนัดให้คู่ความมาพร้อมกันเพื่อสอบคำให้การ หากโจทก์ไม่มาถือว่าขาดนัดได้ต่อเมื่อมีการนัดพิจารณาอย่างชัดเจน
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ ศาลนัดไต่สวนแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดีในวันที่ 22 มีนาคม 2499 และให้โจทก์เซ็นทราบไว้ด้วย ครั้นถึงวันที่ 22 มีนาคม 2499 จำเลยยื่นคำให้การ ศาลเรียกคู่ความเพื่อสอบถามคำให้การจำเลย แต่โจทก์ไม่มาศาลในวันนี้ ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียโดยหาว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไม่ได้ เพราะไม่มีการนัดเป็นกิจลักษณะว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณา และกรณีไม่เข้าตามมาตรา 174 แห่งวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เป็นการทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286-1288/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ทุจริตยักยอกเงินผลประโยชน์ของรัฐ การรับเงินจากผู้ขอรับบริการเป็นหน้าที่นำส่งไม่ใช่การฝากส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจ ตำแหน่ง เสมียนยานพาหนะมีหน้าที่รับเงินจากผู้ยื่นคำร้องหรือเงินเสียภาษี จำเลยจะรับไว้จากสถานที่ใด (แม้ที่บ้านของจำเลยเองก็เป็นเงินผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องนำส่ง กรมตำรวจจึงเป็นผู้เสียหาย หาใช่เป็นการมอบฝากกันเป็นส่วนตัวไม่ เพราะถ้าจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะบุคคลผู้เกี่ยวข้องก็จะไม่มอบส่งเงินให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286-1288/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่รับเงินของประชาชนแล้วยักยอก เป็นความผิดต่อรัฐ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจ ตำแหน่งเสมียนยานพาหนะมีหน้าที่รับเงินจากผู้ยื่นคำร้องหรือเงินเสียภาษี จำเลยจะรับไว้จากสถานที่ใด (แม้ที่บ้านของจำเลยเอง) ก็เป็นเงินผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องนำส่งกรมตำรวจจึงเป็นผู้เสียหาย หาใช่เป็นการมอบฝากกันเป็นส่วนตัวไม่ เพราะถ้าจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะบุคคลผู้เกี่ยวข้องก็จะไม่มอบส่งเงินให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา การนำสืบข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่ระบุในฟ้อง และขอบเขตการนำสืบหลักฐาน
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2498 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกสมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาเงินและทรัพย์สินกัน โดยจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้เพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเข้าเล่นด้วยโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และมีสถานที่เกิดเหตุกับบทกฎหมายที่ขอให้ลงโทษ เช่นนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม วิธีการเล่นสลากกินรวบมีอยู่อย่างไร เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับประเด็นซึ่งโจทก์ย่อมนำสืบได้ในเวลาพิจารณาคดี ไม่ใช่เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นอย่างใด และเมื่อนำสืบฟังได้เช่นนั้นก็ไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากฤทธิ์สุรา: พิจารณาพฤติการณ์และเจตนาของผู้กระทำ
ใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งด้ามทั้งตัวประมาณ 1 คืบ แทงทะลุเข้าช่องปอด โดยเมาสุราพบกันก็แทงเอา 1 ทีแล้วหนีไป เป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายการกระทำและรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์กล่าวฟ้องใจความว่าโคของเจ้าทรัพย์เพริดไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2499 ตอนกลางวันครั้นตกเวลากลางคืนในวันเดียวกันนั้นเองปรากฏว่าจำเลยมีโคตัวนั้นไว้ในความครอบครองโดยในระยะเวลาระหว่าง 2 ตอนดังกล่าวนั้นจำเลยจับโคที่เพริดไปนั้นได้เองแล้วกลับยักยอกเอาไว้เสียโดยทุจริตหรือรับของโจรโคตัวนั้นไว้
เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมเพราะโจทก์บรรยายการกระทำและรายละเอียดชัดเจนพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีอยู่แล้ว ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) และความผิดฐานยักยอกของหายในลักษณะเช่นนี้กับความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกี่ยวพันกันอยู่เช่นเดียวกันกับความผิดฐานลักทรัพย์กับความผิดฐานรับของโจร ซึ่งย่อมฟ้องได้ในลักษณะทำนองเดียวกันนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีอาญา: ยักยอกทรัพย์/รับของโจร และความเกี่ยวพันของความผิด
โจทก์กล่าวฟ้องใจความว่าโคของเจ้าทรัพย์เพริดไปเมื่อวัน ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2499 ตอนกลางวัน ครั้นตกเวลากลางคืนในวันเดียวกันนั้นเองปรากฎว่าจำเลยมีโคตัวนั้นไว้ในความครอบครองโดยในระยะเวลาระหว่าง 2 ตอนดังกล่าวนั้น จำเลยจับโคที่เพริดไปนั้นได้เองแล้วกลับยักยอกเอาไว้เสียโดยทุจริตหรือรับของโจรโคตัวนั้นไว้
เช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม เพราะโจทก์บรรยายการกระทำและรายละเอียดชัดเจนพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีอยู่แล้ว ตาม ป.วิ.อาญา ม.158 (5) และความผิดฐานยักยอกของหายในลักษณะเช่นนี้ กับความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกี่ยวพันกันอยู่เช่นเดียวกันกับความผิดฐานลักทรัพย์กับความผิดฐานรับของโจร ซึ่งย่อมฟ้องได้ในลักษณะทำนองเดียวกันนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินสาธารณสมบัติที่กีดขวางการใช้ประโยชน์ที่ดินของเจ้าของ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่ ทางพิจารณาว่าที่ ๆ จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่สาธารณ คืออยู่ในที่น้ำท่วมถึง แต่ที่นี้อยู่หน้าที่พิพาทของโจทก์ เรือนโรงของจำเลยกีดขวางหน้าที่โจทก์ โจทก์เสียหายพิเศษ โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่ได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้ขับไล่จำเลย.
of 101