พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าและการบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม แม้มีการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา ศาลยังคงบังคับคดีให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่าเดิมได้
ศาลล่างพิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลยรือถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ต่อมาภายหลังศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ที่ดินที่พิพาทยังว่าเปล่าอยู่เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าสภาพแห่งหนี้ยังเปิดช่องให้ศาลบังคับคดีให้โจทก์ยอมให้จำเลยเข้ามาปลูกสร้างในที่เช่าที่พิพาทได้ ไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่ายังคงมีอยู่ แม้ศาลยกฟ้องคดีขับไล่ สั่งบังคับคดีให้ปฏิบัติตามสัญญาเดิมได้
ศาลล่างพิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีต่อมาภายหลังศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ที่ดินที่พิพาทยังว่างเปล่าอยู่ เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าสภาพแห่งหนี้ยังเปิดช่องให้ศาลบังคับคดีให้โจทก์ยอมให้จำเลยเข้ามาปลูกสร้างในที่เช่าที่พิพาทได้ ไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีอาญาชั่วคราวรอผลคดีแพ่ง – การต่อสู้กรรมสิทธิ
อัยการฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุก จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ ต่อมาผู้เสียหายได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่ง จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน ศาลย่อมอาจใช้ดุลยพินิจที่จะเลื่อนคดีอาญาไว้รอฟังผลคดีแพ่งเสียก่อนหรือไม่ก็ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีอาญาเพื่อรอฟังผลคดีแพ่งเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน: ศาลมีดุลยพินิจ
อัยการฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ต่อมาผู้เสียหายได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่ง จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิ์เช่นเดียวกัน ศาลย่อมอาจใช้ดุลพินิจที่จะเลื่อนคดีอาญาไว้รอฟังผลคดีแพ่งเสียก่อนหรือไม่ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีศาสนสมบัติ, การแต่งตั้งทนายของผู้พ้นตำแหน่ง, และการบอกเลิกสัญญาเช่า
กรมการศาสนามีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาสนสมบัติของวัดได้เพราะมีระเบียบตราไว้ให้มีอำนาจจัดการผลประโยชน์ของวัด
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้วแต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงาน ย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใดๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้วแต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงาน ย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใดๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีศาสนสมบัติ, การแต่งตั้งทนาย, และการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินวัด
กรมการศาสนามีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาสนสมบัติของวัดได้เพราะมีระเบียบตราไว้ให้มีอำนาจจัดการผลประโยชน์ของวัด
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงานย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใด ๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้.
อธิบดีผู้ซึ่งมีกระแสพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งและยังไม่ได้ส่งมอบงานย่อมยังมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมได้
เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงย่อมมีอำนาจตั้งข้าราชการชั้นใด ๆ ก็ได้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดี ในเมื่อเห็นเป็นการสมควรผู้รักษาการผู้ได้รับคำสั่งนั้นย่อมมีอำนาจตั้งทนายแทนกรมนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทานบนที่ทำกับบุคคลที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นผลผูกพันบังคับได้ และศาลไม่แก้ไขคำพิพากษาเดิมเมื่อจำเลยไม่ฎีกา
ฟ้องขอหย่าและให้ริบทรัพย์โดยอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดทานบล เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว เรื่องผิดทานบลจึงเป็นเพียงข้อตกลงกันตามธรรมดา เมื่อไม่มีมูลหนี้ผูกพันกันตาม ก.ม.ก็บังคับกันไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทานบนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทานบนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข.
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทานบนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทานบนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทานบนหลังไม่จดทะเบียนสมรส: ข้อตกลงธรรมดา ไม่ผูกพันทางกฎหมาย, ศาลไม่แก้ไขคำพิพากษาแบ่งทรัพย์ที่โจทก์ไม่ฎีกา
ฟ้องขอหย่าและให้ริบทรัพย์โดยอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดทัณฑ์บน เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เรื่องผิดทัณฑ์บนจึงเป็นเพียงข้อตกลงกันตามธรรมดา เมื่อไม่มีมูลหนี้ผูกพันกันตามกฎหมายก็บังคับกันไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทัณฑ์บนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทัณฑ์บนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทัณฑ์บนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทัณฑ์บนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนและการสมคบเพื่อกระทำความผิดทางอาญา
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิงจนมีคนวิ่งมาร้องถาม ชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์แสดงเจตนาข่มขืนและการสมคบคิดเป็นตัวการในความผิดฐานพยายามข่มขืน
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิง จนมีคนวิ่งมาร้องถามชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย