คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทรรศน์ปฏิภาณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเฉพาะคู่กรณี และสิทธิในการโต้แย้งของบุคคลภายนอก
คำพิพากษาย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น
คดีนี้โจทก์ชนะคดีจำเลยตามคำพิพากษาและได้ยึดเงินจำเลยไว้จำนวนหนึ่งแต่มีผู้ร้องอีก 7 รายซึ่งต่างเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้โจทก์คัดค้านว่าผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำเลยได้กู้เงินผู้ร้องทั้ง 7 รายไปเป็นการส่วนตัวและได้สมยอมกับผู้ร้องแกล้งเอานามของห้างหุ้นส่วนเข้าเป็นจำเลยในคดีเพื่อให้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและอ้างเหตุอื่นอีกหลายประการว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้
ดังนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิด้วยเหตุต่างๆ ดังกล่าวนั้นเพราะคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องกู้หนี้ยืมสินในคดีระหว่างผู้ร้องทั้ง 7 รายกับจำเลยย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้นไม่เป็นการผูกมัดคนภายนอกมิให้โต้แย้งเป็นอื่น ชอบที่ศาลชั้นต้นจะได้พิจารณาข้อคัดค้านของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเฉพาะคู่กรณี: สิทธิในการโต้แย้งของบุคคลภายนอก
คำพิพากษาย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น
คดีนี้โจทก์ชนะคดีจำเลยตามคำพิพากษาและได้ยึดเงินจำเลยไว้จำนวนหนึ่ง แต่มีผู้ร้องอีก 7 ราย ซึ่งต่างเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้ โจทก์คัดค้านว่าผู้จัดการห้างหุ้นสวนจำเลยได้กู้เงินผู้ร้องทั้ง 7 รายไปเป็นการส่วนตัว และได้สมยอมกับผู้ร้องแกล้งเอานามของห้างหุ้นส่วนเข้าเป็นจำเลยในคดีเพื่อให้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและอ้างเหตุอื่นอีกหลายประการว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้
ดังนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิด้วยเหตุต่าง ๆ ดังกล่าวนั้น เพราะคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องกู้หนี้ยืมสินในคดีระหว่างผู้ร้องทั้ง 7 รายกับจำเลยย่อมมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่เป็นการผูกมัดคนภายนอกมิให้โต้แย้งเป็นอื่น ชอบที่ศาลชั้นต้นจะได้พิจารณาข้อคัดค้านของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม – การระบุเหตุแห่งความรับผิดชัดเจน – ความรับผิดของข้าราชการต่อการยักยอกเงิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า'จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้ เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้วเป็นเหตุให้นายนัดนายไปรษณีย์จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ 'ทั้งคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่จึงเป็นเหตุให้นายไปรษณีย์ยักยอกเอาเงินไปได้ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้ เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: จำเลยต้องรับผิดต่อการยักยอกเงินหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุรายละเอียดการบกพร่องหน้าที่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้ เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้วเป็นเหตุให้นายนัดนายไปรษณีย์ จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ" ทั้งคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่จึงเป็นเหตุให้นายไปรษณีย์ยักยอกเอาเงินไปได้ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: แม้ไม่มีหลักฐานผู้กระทำผิด แต่ของกลางต้องริบ
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานสืบให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ทำเลียนแบบเครื่องหมายการค้า (ฉลากปิดขวดสุราของกรมโรงงานอุตสาหกรรม)ก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 237 ไม่ได้แต่ของกลางต้องริบตาม มาตรา239

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและการริบของกลาง แม้ไม่มีหลักฐานการกระทำผิด
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานสืบให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ทำเลียนแบบเครื่องหมายการค้า (ฉลากปิดขวดสุราของกรมโรงงานอุตสาหกรรม) ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.237 ไม่ได้ แต่ของกลางต้องริบตาม ม.239.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองการซื้อขายทรัพย์สินโดยผู้เยาว์และการเพิกเฉยต่อการแสดงกรรมสิทธิ์ของจำเลย ทำให้สิทธิในการแบ่งมรดกสิ้นสุดลง
ระหว่างเป็นผู้เยาว์โจทก์มีชกรรมสิทธิ์ร่วมในห้องพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ได้ขายห้องพิพาทนี้โดยจำเลยที่ 2 มิได้แสดงกรรมสิทธิรวมแต่ประการใด โจทก์ก็ได้ลงนามรับรองในหนังสือซื้อขายนั้นด้วย ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกออกจากห้องพิพาทจนได้คืนห้องพิพาทมา.โจทก์ก็มิได้คัดค้าน แสดงว่าโจทก์ได้จงใจรับรู้ให้จำเลยที่ 1 แสดงตนเป็นเจ้าของห้องพิพาทมาตั้งแต่ต้นกระทำให้จำเลย หลงผิดว่าห้องพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ดังนั้น โจทก์จะอ้างสิทธิแห่งความเป็นผู้เยาว์มาเพิกถอนการซื้อขายห้องพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง และขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์มีกรรมสิทธิคนละครึ่งกับจำเลยที่ 2 ย่อมไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมโดยปริยายและการสละสิทธิเรียกร้องของผู้เยาว์ในกรรมสิทธิ์รวม
ระหว่างเป็นผู้เยาว์โจทก์มีกรรมสิทธิ์ร่วมในห้องพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ได้ขายห้องพิพาทนี้โดยจำเลยที่ 2 มิได้แสดงกรรมสิทธิรวมแต่ประการใดโจทก์ก็ได้ลงนามรับรองในหนังสือซื้อขายนั้นด้วย ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกออกจากห้องพิพาทจนได้คืนห้องพิพาทมาโจทก์มิได้คัดค้าน แสดงว่าโจทก์ได้จงใจและละเลยให้จำเลยที่ 1 แสดงตนเป็นเจ้าของห้องพิพาทมาตั้งแต่ต้น กระทำให้จำเลยที่ 1 หลงผิดว่าห้องพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ดังนั้น โจทก์จะอ้างสิทธิแห่งความเป็นผู้เยาว์ทำเพิกถอนการซื้อขายห้องพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง และขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์มีกรรมสิทธิคนละครึ่งกับจำเลยที่ 2 ย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาญาแผ่นดินฐานเสื่อมเสียอิสรภาพ: สิทธิฟ้องของอัยการไม่ต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย
ความผิดฐานเสื่อมเสียอิสระภาพตาม กฎหมายอาญามาตรา268วรรคสามเป็นความผิดอาญาแผ่นดินโดยตรง มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวโดยปกติพนักงานอัยการย่อมมีสิทธิจะฟ้องร้องจำเลยในความผิดฐานนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหายเพียงแต่โจทก์บรรยายฟ้องถึงเรื่องข่มขืนกระทำชำเราด้วยเพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ตามรูปเรื่องซึ่งความจริงเรื่องข่มขืนกระทำชำเรานั้นผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะถอนได้แต่เฉพาะเรื่องที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้นไม่เกี่ยวกับความผิดอันเป็นอาญาแผ่นดินโดยตรงประการใดเลยและไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิฟ้องคดีของโจทก์ในเรื่องความผิดฐานเสื่อมเสียอิสระภาพดังกล่าวมาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเสื่อมเสียอิสระภาพเป็นอาญาแผ่นดิน พนักงานอัยการฟ้องได้โดยไม่จำต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย
ความผิดฐานเสื่อมเสียอิสระภาพตาม ก.ม.อาญา ม.268 วรรค 3 เป็นความผิดอาญาแผ่นดินโดยตรง มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวโดยปกติพนักงานอัยการย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องร้องจำเลยในความผิดฐานนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย เพียงแต่โจทก์บรรยายฟ้องถึงเรื่องข่มขืนกระทำชำเราด้วยเพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ตามรูปเรื่องซึ่งความจริงเรื่องข่มขืนกระทำชำเรานั้นผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะถอนได้แต่เฉพาะเรื่องที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้นไม่เกี่ยวกับความผิดอันเป็นอาญาแผ่นดินโดยตรงประการใดเลยและไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิฟ้องคดีของโจทก์ในเรื่องความผิดฐานเสื่อมเสียอิสสรภาพดังกล่าวมาแล้ว.
of 101