พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการล้มละลายก่อนมีคำพิพากษา: ไม่มีสถานะล้มละลาย จึงยกเลิกไม่ได้
ลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แล้วแต่ศาลยังมิได้พิพากษาให้ล้มละลายนั้น จะร้องขอให้สั่งยกเลิกการล้มละลายเสียตาม มาตรา 135(2) โดยอ้างเหตุว่าไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลายนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่มีการล้มละลายอย่างใดที่จะยกเลิก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้มละลาย: การยกเลิกการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วแต่ศาลยังมิได้พิพากษาให้ล้มละลายนั้น จะต้องให้สั่งยกเลิกการล้มละลายเสียตาม ม.135 (2) โดยอ้างเหตุว่าไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลายนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่มีการล้มละลายอย่างใดที่จะยกเลิก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้ยกเลิกการล้มละลายก่อนมีคำพิพากษา ศาลเห็นว่าไม่มีการล้มละลายเกิดขึ้น จึงไม่สามารถยกเลิกได้
ลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แล้วแต่ศาลยังมิได้พิพากษาให้ล้มละลายนั้น จะร้องขอให้สั่งยกเลิกการล้มละลายเสียตาม มาตรา 135(2) โดยอ้างเหตุว่าไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลายนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่มีการล้มละลายอย่างใดที่จะยกเลิก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดเมื่อสมรสกับชาวต่างชาติและไม่ได้สัญชาติสามี
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฎว่า ก.ม.ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้ว ก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วย ก.ม.ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2495 ม.16 ทวิ แล้วก็ตามหากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 ม.8 ไม่มีผิด ฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติกรณีสมรสกับคนต่างด้าวและการขอใบสำคัญคนต่างด้าว
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏว่า กฎหมาย ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้วก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 16ทวิ แล้วก็ตาม หากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มาตรา 8 ไม่มีผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติหลังสมรสกับคนต่างด้าว และการถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิชอบ
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏว่า กฎหมาย ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้วก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 16ทวิ แล้วก็ตาม หากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มาตรา 8 ไม่มีผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาให้สิ่งปลูกสร้างเป็นส่วนควบกับที่ดิน ทำให้เรือนเป็นของเจ้าของที่ดินตามหลักกฎหมาย
โจทก์ขออนุญาตปลูกเรือนพิพาทในที่วัดโดยตกลงกับวัดไว้ตามความตอนหนึ่ง ในหนังสือของโจทก์ที่มีไปถึงวัดดังนี้ " บ้านพักซึ่งหม่อมฉันปลูกไว้ในที่ดินขออาศัยนี้ หากหม่อมฉันเป็นตายร้ายดีลง หรือจะอยู่ในที่นั้นไม่ได้ต่อไป ก็ขอน้อมถวายให้เป็นสมบัติของวัดพระมหาธาตุต่อไปด้วย" เช่นนี้ย่อมเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาโดยชัดแจ้งว่าให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นส่วนควบกับที่ดินจะไม่รื้อถอนเอาไป เรือนพิพาทย่อมตกได้แก่เจ้าของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม มาตรา 109 ดังนี้เมื่อโจทก์ไม่พอใจอยู่บ้านนั้นต่อไปแล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิรื้อถอนเรือนไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินของผู้อื่น: การเป็นส่วนควบและการสิทธิในทรัพย์สิน
โจทก์ขออนุญาตปลูกเรือนพิพาทในที่วัดโดยตกลงกับวัดไว้ตามความตอนหนึ่ง ในหนังสือของโจทก์ที่มีไปถึงวัดดังนี้ " บ้านพักซึ่งหม่อมฉันปลูกไว้ในที่ดินขออาศัยนี้ หากหม่อมฉันเป็นตายร้ายดีลง หรือจะอยู่ในที่นั้นไม่ได้ต่อไป ก็ขอน้อมถวายให้เป็นสมบัติของวัดพระมหาธาตุต่อไปด้วย" เช่นนี้ย่อมเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาโดยชัดแจ้งว่าให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นส่วนควบกับที่ดินจะไม่รื้อถอนเอาไป เรือนพิพาทย่อมตกได้แก่เจ้าของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม มาตรา 109 ดังนี้เมื่อโจทก์ไม่พอใจอยู่บ้านนั้นต่อไปแล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิรื้อถอนเรือนไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างโดยเจตนาให้เป็นส่วนควบของที่ดิน กรณีตกลงมอบให้วัดหลังเลิกใช้
โจทก์ขออนุญาตปลูกเรือนพิพาทในที่วัดโดยตกลงกับวัดไว้ตามความตอนหนึ่ง ในหนังสือของโจทก์ที่มีไปถึงวัดดังนี้ "บ้านพักซึ่งหม่อมฉันปลูกไว้ในที่ดินขออาศัยนี้ หากหม่อมฉันเป็นตายร้ายดีหรือจะอยู่ในที่นั้นไม่ได้ต่อไป ก็ขอน้อถวายให้เป็นสมบัติของวัดพระมหาธาตุต่อไปด้วย" เช่นนี้ย่อมเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาโดยชัดแจ้งว่าให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นส่วนควบกับที่ดินจะไม่รื้อถอนเอาไป เรือนพิพาทย่อมตกได้แก่เจ้าของที่ดินตาม ป.พ.พ.ม. 107 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ม.109 ดังนี้เมื่อโจทก์ไม่พอใจอยู่บ้านนั้นต่อไปแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิรื้อถอนเรือนไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: พยานหลักฐานแน่นชัด ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กะทง ๆ หนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกะทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม ก.ม.อาญา ม.243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปี ส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กะทงเป็นจำคุก คนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้