พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: การกระทำที่แสดงเจตนา และการปฏิเสธความรับผิดชอบ
เจตนาทุจริตของจำเลยศาลไม่อาจหยั่งรู้ความในใจอันแท้จริงได้ นอกจากจะอนุโลมโดยอาศัยเหตุผลทั่วๆ ไปตามที่ปรากฏในท้องสำนวน
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกแก่เจ้าหนี้ว่าผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วนต้องส่งให้แต่ส่วนที่เหลือรับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีกพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริตคดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมาเงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือได้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันทีมิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกแก่เจ้าหนี้ว่าผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วนต้องส่งให้แต่ส่วนที่เหลือรับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีกพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริตคดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมาเงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือได้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันทีมิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: พฤติการณ์บ่งชี้เจตนาจากการใช้เงินผิดหน้าที่
เจตนาทุจริตของจำเลยศาลไม่อาจหยั่งรู้ควมในใจอันแท้จริงได้ นอกจากจะอนุโลมโดยอาศัยเหตุผลทั่ว ๆ ไปตามที่ปรากฎในท้องสำนวน
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกเจ้าหนี้ว่า ผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วน คงส่งให้แต่ส่วนที่เหลือ รับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีก พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริต คดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมา เงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือให้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันที มิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกเจ้าหนี้ว่า ผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วน คงส่งให้แต่ส่วนที่เหลือ รับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีก พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริต คดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมา เงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือให้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันที มิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดในที่สาธารณะ & การเพิ่มเติมฟ้องความเสียหายสืบเนื่อง
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถมคูและเปิดทางน้ำให้โจทก์แล้วโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องว่าเนื่องจากจำเลยขุดคูกั้นน้ำเป็นเหตุให้ต้นข้าวตาย เสียหาย 3,600 บาทขอให้จำเลยร่วมกันใช้ ดังนี้ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้เพราะคำฟ้องเพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องความเสียหายอันสืบเนื่องมาจากการละเมิดตามฟ้องเดิม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะเมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้วโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะเมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้วโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดต่อทางน้ำสาธารณะ และการเพิ่มเติมฟ้องความเสียหายสืบเนื่อง
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถมคูและเปิดทางน้ำให้โจทก์แล้ว โจทกืขอเพิ่มเติมฟ้องว่าเนื่องจากจำเลยขุดคูน้ำเป็นเหตุให้ต้นข้าวตาย เสียหาย 3600 บาทขอให้จำเลยร่วมกันใช้ ดังนี้ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้เพราะคำฟ้องเพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องความเสียหายอันสืบเนื่องมาจากการละเมิดตามฟ้องเดิม ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.179
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะ เมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ก็ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้ว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตาม วิ.แพ่ง ม.55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิจะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะ เมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ก็ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้ว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตาม วิ.แพ่ง ม.55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิจะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหักล้างเอกสารในคดีอาญา และการสอบสวนจากหนังสือกล่าวโทษ
ในคดีอาญาคู่ความมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบประกอบเพื่อแสดงว่า เอกสารที่อ้างอิงนั้นไม่ถูกต้องตรงกับความจริงได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวนสอบสวนตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวนสอบสวนตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำพยานบุคคลหักล้างเอกสารในคดีอาญา และการสอบสวนตามหนังสือกล่าวโทษ
ในคดีอาญาคู่ความมีสิทธินำพะยานบุคคลมาสืบประกอบเพื่อแสดงว่า เอกสารที่อ้างอิงนั้นไม่ถูกต้องตรงกับความจริงได้
วิ.อาญา ม. 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวน ๆ ตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเทห์
วิ.อาญา ม. 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวน ๆ ตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเทห์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาอัตราโทษสูง แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเหตุบรรเทาโทษได้เอง
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพมิได้นำพะยานเข้าสืบต่อสู้แต่ประการใดก็ตาม แต่ถ้าปรากฎต่อศาลว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นคุณแก่จำเลยอยู่ ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษคดีอาญา แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยพฤติการณ์ที่เป็นคุณได้
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพมิได้นำพยานเข้าสืบต่อสู้แต่ประการใดก็ตามแต่ถ้าปรากฏต่อศาลว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นคุณแก่จำเลยอยู่ ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า – ทำร้ายร่างกาย – พฤติการณ์เมา – พิจารณาจากอาวุธและเหตุการณ์ – ลดโทษ
จำเลยกับผู้เสียหายไม่มีสาเหตุต่อกัน จำเลยเมาใช้มีดพกเล็ก ๆ กว้าง 2ซม. ยาว 11 1/2 ซม. แทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าหรือไม่? การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดพก ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้
จำเลยกับผู้เสียหายไม่มีสาเหตุต่อกันจำเลยเมาใช้มีดพกเล็กๆกว้าง 2 ซม.ยาว111/2ซม. แทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย