คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทรรศน์ปฏิภาณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าประกอบการค้า ไม่ถือเป็นที่อยู่อาศัย ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าได้ใช้ห้องพิพาทประกอบการค้าแม้ผู้เช่าหรือบริวารจะได้หลับนอนอยู่ในห้องพิพาท เพื่อเฝ้าสินค้า หาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าเพื่อค้าขายนอกเหนือจากที่อยู่อาศัย ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าได้ใช้ห้องพิพาทประกอบการค้าแม้ผู้เช่าหรือบริวารจะได้หลับนอนอยู่ในห้องพิพาท เพื่อเฝ้าสินค้า หาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิรวมและการสันนิษฐานเรื่องการครอบครองที่ดิน ศาลวินิจฉัยตามส่วนได้เสียจริง
ป.พ.พ.ม.1357 เป็นเรื่องของความสันนิษฐานในเบื้องต้นเท่านั้นคู่กรณีย่อมมีสิทธินำสืบหักล้างความสันนิษฐานทั้งนี้เสียได้ความว่าความจริงเป็นอย่างไร
โจทย์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยตามส่วนที่มีชื่อในโฉนด เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีส่วนไม่เท่ากันมาแต่เดิมและต่างครอบครองเป็นส่วนสัดแต่แรกก่อนออกโฉนดสืบตลอดมาดังนี้ ก็ต้องแบ่งที่ดินตามส่วนที่ผู้ใดเป็นเจ้าของอันแท้จริง เพราะเป็นเรื่องกรรมสิทธิรวมหาใช่เรื่องครอบครองโดยปรปักษ์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิรวมและการแบ่งที่ดินตามส่วนเดิม แม้มีชื่อในโฉนด แต่ต้องพิจารณาการครอบครองจริง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 เป็นเรื่องของความสันนิษฐานในเบื้องต้นเท่านั้น คู่กรณีย่อมมีสิทธินำสืบหักล้างความสันนิษฐานทั้งนี้เสียได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยตามส่วนที่มีชื่อในโฉนดเมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีส่วนไม่เท่ากันมาแต่เดิมและต่างครอบครอง เป็นส่วนสัดแต่แรกก่อนออกโฉนดสืบตลอดมาดังนี้ ก็ต้องแบ่งที่ดินตามส่วนที่ผู้ใดเป็นเจ้าของอันแท้จริง เพราะเป็นเรื่องกรรมสิทธิรวม หาใช่เรื่องครอบครองโดยปรปักษ์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยสิทธิ แม้ยังไม่มีกฎหมายรับรองสิทธินั้นโดยตรง
การโต้แย้งสิทธิตาม ป.วิ.แพ่ง ม.55 นั้นหาจำต้องมีกฎหมายรับรองสิทธินั้นไว้โดยตรงเสียก่อนอย่างใดไม่ เมื่อผู้ใดโต้แย้งผู้นั้นก็อาจมาขอความคุ้มครองจากศาลได้เสมอ เช่นในกรณีขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเมื่อมีข้อโต้แย้งว่าใครจะมีสิทธิดีกว่าในการที่จะจดทะเบียนก่อน ดังนี้ศาลก็ต้องรับวินิจฉัยให้ อย่าว่าแต่ในระหว่างผู้ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนด้วยกันเลยเจ้าของเครื่องหมายการค้าอ้นแท้จริงแม้จะยังมิได้จดทะเบียน จะยกขึ้นต่อสู้กับผู้ที่จดทะเบียนแล้วในศาลก็ยังได้ตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้ออุทธรณ์ใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วน (อ้างฎีกาที่ 277/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยสิทธิแม้ยังมิได้จดทะเบียน
การโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 นั้นหาจำต้องมีกฎหมายรับรองสิทธินั้นไว้โดยตรงเสียก่อนอย่างใดไม่ เมื่อผู้ใดโต้แย้งผู้นั้นก็อาจมาขอความคุ้มครองจากศาลได้เสมอเช่นในกรณีขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เมื่อมีข้อโต้แย้งว่าใครจะมีสิทธิดีกว่าในการที่จะจดทะเบียนก่อน ดังนี้ศาลก็ต้องรับวินิจฉัยให้ อย่าว่าแต่ในระหว่างผู้ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนด้วยกันเลย เจ้าของเครื่องหมายการค้าอันแท้จริงแม้จะยังมิได้จดทะเบียน จะยกขึ้นต่อสู้กับผู้ที่จดทะเบียนแล้วในศาลก็ยังได้ตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้ออุทธรณ์ใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วน (อ้างฎีกาที่ 277/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิสูจน์การเป็นนายหน้า: ต้องแสดงข้อตกลงมอบหมายและบทบาทในการซื้อขายสำเร็จ
โจทย์ฟ้องเรียกค่านายหน้าขายที่ดินจากจำเลย โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความ 2 ข้อ คือ 1. จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า 2. การซื้อขายที่ดินรายนี้ได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการเมื่อโจทก์สืบไม่ได้ก็ต้องแพ้จำเลย
เพียงแต่โจทก์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นจัดการเสนอหนังสือของจำเลยในตอนหลัง ภรรยาโจทก์นำจำเลยไปหาผู้ซื้อ และจำเลยเคยนำเงินไปให้ภรรยาโจทก์ แต่ภรรยาโจทก์ไม่รับ เหตุเหล่านี้ยังฟังไม่ได้ว่า ได้มีการตกลงให้เป็นนายหน้ากัน จะฟังได้ก็แต่เพียงเป็นการช่วยเหลืออนุเคราะห์กันโดยอัธยาศัยไมตรีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ข้อตกลงเป็นนายหน้าและผลสำเร็จจากการจัดการชี้ช่องเพื่อเรียกค่าตอบแทน
โจทก์ฟ้องเรียกค่านายหน้าขายที่ดินจากจำเลย โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความ 2 ข้อ คือ 1. จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า 2. การซื้อขายที่ดินรายนี้ได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการ เมื่อโจทก์สืบไม่ได้ก็ต้องแพ้จำเลย
เพียงแต่โจทก์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นจัดการเสนอหนังสือของจำเลยในตอนหลัง ภรรยาโจทก์นำจำเลยไปหาผู้ซื้อ และจำเลยเคยนำเงินไปให้ภรรยาโจทก์ แต่ภรรยาโจทก์ไม่รับ เหตุเหล่านี้ยังฟังไม่ได้ว่า ได้มีการตกลงให้เป็นนายหน้ากัน จะฟังได้ก็แต่เพียงเป็นการช่วยเหลืออนุเคราะห์กันโดยอัธยาศัยไมตรีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงที่ผิดสัญญาและการขัดขวางการรื้อถอนทรัพย์สินหลังบอกเลิกสัญญาเช่า
สัญญาเช่ามีกำหนด 1 ปีและห้ามเช่าช่วง ผู้เช่าจะขอสืบพยานว่าเป็นที่เข้าใจระหว่างคู่สัญญาว่าเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลาและผู้เช่ามีสิทธิให้เช่าช่วงได้นั้นเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.94
ผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่าและผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าผู้เช่ายังคงอยู่ต่อไปเมื่อครบสัญญาเช่าแล้วดังนี้ ผู้เช่ายังขืนอยู่ต่อไป จึงเป็นการละเมิดไม่ใช่เป็นการเช่าใหม่โดยไม่มีกำหนดเวลา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากำหนดเวลา การเช่าช่วง และผลของการขัดสัญญา การครอบครองหลังสัญญาหมดอายุไม่ถือเป็นการเช่าใหม่
สัญญาเช่ามีกำหนด 1 ปีและห้ามเช่าช่วง ผู้เช่าจะขอสืบพยานว่าเป็นที่เข้าใจระหว่างคู่สัญญาว่าเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา และผู้เช่ามีสิทธิให้เช่าช่วงได้นั้นเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่า และผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่ายังคงอยู่ต่อไปเมื่อครบสัญญาเช่าแล้วดังนี้ ผู้เช่ายังขืนอยู่ต่อไป จึงเป็นการละเมิดไม่ใช่เป็นการเช่าใหม่โดยไม่มีกำหนดเวลา
of 101