พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ในคดีขัดทรัพย์: ผู้อ้างสิทธิเหนือทรัพย์สินมีหน้าที่พิสูจน์สิทธิของตน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ย่อมมีฐานะเป็นโจทก์ในคดีชั้นขัดทรัพย์ส่วนโจทก์เดิมอยู่ในฐานะผู้คัดค้าน
ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่านาที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลยโจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องได้สละสิทธิยกให้จำเลยแล้วเช่นนี้เท่ากับว่าโจทก์ปฏิเสธว่านาไม่ใช่ของผู้ร้อง ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าข้อเท็จจริงยังโต้เถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้ครอบครองหน้าที่นำสืบจึงตกแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยานก็ต้องแพ้คดี
ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่านาที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลยโจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องได้สละสิทธิยกให้จำเลยแล้วเช่นนี้เท่ากับว่าโจทก์ปฏิเสธว่านาไม่ใช่ของผู้ร้อง ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าข้อเท็จจริงยังโต้เถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้ครอบครองหน้าที่นำสืบจึงตกแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยานก็ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ใช่ผู้ขาย/สั่งของ แม้เปิดเครดิต/จัดหาตัวแทนตรวจของ การฟ้องผิดสัญญาต้องระบุหน้าที่จำเลยชัดเจน
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคาร รับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทน ดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้อง ศาบไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้อง ศาบไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ใช่ผู้ขายหรือสั่งของ แม้เปิดเครดิตและจัดหาตัวแทนตรวจของ ศาลไม่รับวินิจฉัยเรื่องนอกฟ้อง
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคารรับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทนดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้องศาลไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้องศาลไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674-675/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากเหตุทำร้ายร่างกายด้วยไม้ไผ่ ศาลลดโทษจากเจตนาฆ่า
จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ทีถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลช้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมาสุรามิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตายหากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาความเมาสุราไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็นเครื่องหยั่งเจตนาประกอบการกระทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674-675/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากเหตุทำร้ายร่างกาย ศาลลดโทษจากเจตนาเป็นไม่เจตนา
จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ที ถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลซ้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิต ในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมารถมิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตาย หากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ความเมารถเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็น+
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ผู้ที่เคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันและอาศัยอยู่กับโจทก์ โดยไม่ได้เป็นผู้เช่าร่วม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่คดีจึงพิพาทกันเพียงว่าจำเลยอาศัยโจทก์จริงหรือไม่แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทเรื่องการอาศัยและการเช่าตึก แม้เคยเป็นสามีภริยากัน แต่รูปคดีไม่ได้เกี่ยวกับสิทธิครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณา
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่ คดีจึงพิพาทกันเพียงว่าจำเลยอาศัยโจทก์จริงหรือไม่ แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไป ไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขายและการเรียกร้องค่าเสียหาย แม้จะมีการเลิกสัญญาแล้วก็ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้
โจทกจำเลยทำสัญญาซื้อขายกัน จำเลยผิดสัญญาแม้โจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้วก็ยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหลังบอกเลิกสัญญา แม้คืนสู่ฐานะเดิมก็ยังมีสิทธิ
โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกัน จำเลยผิดสัญญา แม้โจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้วก็ยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับใบแทนโฉนดไม่สุจริต ไม่มีสิทธิฟ้องครอบครองที่ดินเดิม
ผู้ได้ใบแทนโฉนดตลอดจนการจดทะเบียนสิทธิมาโดยไม่สุจริตย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนและยึดถือโฉนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมิได้แก้หลักฐานทางทะเบียนแต่อย่างใด