คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม. 15

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงในคดีฟ้องเท็จ: ศาลแขวงไม่มีอำนาจพิจารณาคดีอัตราโทษสูงกว่าที่กำหนด
คดีฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ซึ่งเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษานั้น เมื่อไต่สวนเห็นว่าคดีมีมูลแล้ว ศาลแขวงไม่มีอำนาจจะยกมาตรา 176 มาบังคับแก่คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงจำกัดในคดีฟ้องเท็จ แม้มีมูลก็ไม่อาจพิจารณาได้เกินกรอบอัตราโทษที่กำหนด
คดีฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ซึ่งเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษานั้น เมื่อไต่สวนสั่งว่าคดีมีมูลแล้ว ศาลแขวงไม่มีอำนาจจะยกมาตรา 176มาบังคับแก่คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงตาม พ.ร.บ. 2499: บทบาทอัยการและผู้ว่าคดี, ศาลต้องรับฟ้อง
คดีเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ใช้บังคับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ. 2499 ส่วนพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 ยังมิได้ออกใช้บังคับ เมื่อผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงธนบุรี ศาลแขวง ธนบุรีไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า คดีมีมูลฐานวิ่งราวทรัพย์ (ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลอาญา) และให้ประทับฟ้องไว้ อัยการได้รับสำนวนจากศาลแขวงธนบุรี และพิจารณาแล้วสั่งไม่ฟ้องฐานวิ่งราว คงสั่งฟ้องฐานลักทรัพย์ (ซึ่งเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง) เมื่อพนักงานอัยการฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญา ศาลอาญาจำต้องรับคดีนี้ไว้พิจารณา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2503)
ความในพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 14 (2) ที่ให้อยู่ในดุลยพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นในศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงนั้น ใช้ได้แต่ในระบบที่ศาลแขวงมิได้เป็นศาลไต่สวนความผิดอาญาทั่วไปเท่านั้น
นอกจากราษฎรฟ้องกันเอง แล้ว ย่อมเป็นหน้าที่ของผู้ว่าคดีตามความในมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ. 2499 เท่านั้น ที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีในศาลแขวงตามพระราชบัญญัตินี้ได้ อัยการหาอาจเป็นโจทก์ในศาลแขวงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. 2499 นี้ได้ไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงตาม พ.ร.บ.ศาลแขวงฯ พ.ศ.2499: บทบาทผู้ว่าคดีและอัยการ
คดีเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ใช้บังคับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 ส่วนพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2503 ยังมิได้ออกใช้บังคับ เมื่อผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงธนบุรี ศาลแขวงธนบุรีไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า คดีมีมูลฐานวิ่งราวทรัพย์(ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลอาญา) และให้ประทับฟ้องไว้ อัยการได้รับสำนวนจากศาลแขวงธนบุรีและพิจารณาแล้วสั่งไม่ฟ้องฐานวิ่งราวคงสั่งฟ้องฐานลักทรัพย์ (ซึ่งเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง) เช่นนี้เมื่ออัยการฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญาศาลอาญาจำต้องรับคดีนี้ไว้พิจารณา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2503)
ความในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(2) ที่ให้อยู่ในดุลพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นในศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงนั้น ใช้ได้แต่ในระบบที่ศาลแขวงมิได้เป็นศาลไต่สวนความผิดอาญาทั่วไปเท่านั้น
นอกจากราษฎรฟ้องกันเองแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของผู้ว่าคดีตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 เท่านั้นที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีในศาลแขวงตามพระราชบัญญัตินี้ได้ อัยการหาอาจเป็นโจทก์ในศาลแขวงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 นี้ได้ไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงคดีเกินอำนาจ: อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีอาญาเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษาเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีอาญาเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษา เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งกรรมสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากและการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา 8000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์บ้านที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง: คดีมีทุนทรัพย์
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8,000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลย โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝาก และการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา8,000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินปลูกตึกและตึกตกเป็นของเจ้าของที่ดินเมื่อครบกำหนด สิทธิในตึกเป็นส่วนควบของที่ดิน ไม่ต้องโอน
เช่าที่ดินปลูกตึกโดยมีข้อสัญญาว่าจะให้ตึกที่ปลูกตกเป็นของเจ้าของที่ดินในภายหน้านั้น เมื่อถึงกำหนดแล้วตึกย่อมตกเป็นของเจ้าของที่ดินตามสัญญาในฐานะเป็นส่วนควบที่ดินหาจำต้องไปทำการโอนไม่(อ้างฎีกาที่ 561/2488)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินปลูกตึกโดยตกลงให้ตึกตกเป็นของโจทก์ครบกำหนดตามสัญญาแล้วจำเลยไม่ยอมโอนตึกให้เป็นของโจทก์ จึงขอให้ศาลแสดงว่า ตึกตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และขอให้จำเลยไปทำการโอนให้ดังนี้เป็นเรื่องขอให้ศาลแสดงสิทธิตามสัญญาและบังคับให้จำเลยไปทำการโอนตามสัญญา แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าตามสัญญาตึกยังคงเป็นของจำเลย ก็เป็นเรื่องต่อสู้ในทางแปลสัญญา จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ตกอยู่ในอำนาจศาลแขวงตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะฟ้องแย้งเรียกจำนวนเงินเกินอำนาจของศาลแขวง ก็ไม่ทำให้คดีเดิมที่โจทก์ฟ้องเสียไปเพราะคดีเดิมโจทก์ฟ้องอยู่ในอำนาจศาลแขวงอยู่แล้ว เมื่อจำเลยนำคดีของตนไปฟ้องแย้งยังศาลแขวง ศาลแขวงก็บังคับให้ตามคำฟ้องแย้งของจำเลยไม่ได้ คงถือว่า ข้อที่จำเลยฟ้องแย้งเป็นแต่เพียงข้อต่อสู้ฟ้องเดิมของโจทก์ข้อหนึ่งเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงพิจารณาเรื่องใช้ราคาทรัพย์ในคดียักยอกทรัพย์ แม้ราคาสูงเกินกว่าที่ศาลแขวงปกติจะพิจารณาได้
ในคดีเรื่องยักยอกทรัพย์ซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้นแม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใดศาลแขวงก็มีอำนาจพิพากษาได้
ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)
of 5