พบผลลัพธ์ทั้งหมด 58 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7065/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีไม่สมบูรณ์ แก้ไขได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
สำเนาหนังสือมอบอำนาจโจทก์เอกสารท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง มิได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ซึ่งไม่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการจดทะเบียนของโจทก์ แสดงว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่สมบูรณ์ โจทก์ได้กล่าวอ้างมาในอุทธรณ์และฎีกาว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจมีการประทับตราสำคัญของโจทก์ถูกต้อง แสดงถึงเจตนาจะทำการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจโจทก์ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.พ. มาตรา 66 สั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจเสียให้สมบูรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเสียให้สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2065/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดี, การบรรยายฟ้อง, และการคิดดอกเบี้ยผิดนัดในสัญญากู้
ฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่า คณะกรรมการโจทก์เป็นใครแต่การที่โจทก์มีหนังสือมอบอำนาจโดย ส. ซึ่งเป็นประธานกรรมการลงนามแทนคณะกรรมการบรรษัทโจทก์ มอบอำนาจให้ ศ.มีอำนาจกระทำกิจการอันเป็นธุรกิจของบรรษัทแทน ซึ่งรวมทั้งการฟ้องคดีส่งมาท้ายฟ้องด้วย แสดงว่า ส.และศ.เป็นผู้แทนโจทก์ ซึ่งจำเลยอาจใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 66 ได้ ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายให้แจ้งชัดว่า โจทก์คำนวณเปรียบเทียบอัตราเงินสกุลต่างประเทศมาเป็นเงินไทยในอัตราหน่วยละเท่าใดคิดอัตราเปรียบเทียบในวันที่เท่าใด คิดดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวตั้งแต่เมื่อใด และในอัตราดอกเบี้ยกี่เปอร์เซนต์นั้น เมื่อโจทก์ได้บรรยายถึงวิธีการคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยพร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยและวิธีการคิดดอกเบี้ยไว้ในฟ้องแล้วและได้ส่งรายละเอียดแห่งการเป็นหนี้ของจำเลยมาท้ายฟ้องด้วย ซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม ตามพระราชบัญญัติบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2502 มาตรา 22 บัญญัติไว้ว่า "ในส่วนกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกให้ผู้จัดการทั่วไปมีอำนาจกระทำการแทนบรรษัทแต่ผู้จัดการทั่วไปจะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำแทนตนในกิจการใดก็ได้" การฟ้องคดีเป็นส่วนกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ดังนั้นศ.ซึ่งเป็นกรรมการและผู้จัดการทั่วไปของโจทก์จึงมีอำนาจกระทำการแทนบรรษัทโจทก์ได้ โดยไม่จำต้องให้คณะกรรมการมอบอำนาจอีกปัญหาเรื่องโจทก์สละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาชำระหนี้ เพราะเมื่อจำเลยผิดนัดโจทก์คิดดอกเบี้ยเพิ่มมาตลอด โจทก์มิได้ถือข้อตกลงในสัญญากู้ที่ระบุว่าถ้าจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระเงินหรือดอกเบี้ยงวดใดงวดหนึ่ง ถือว่าผิดนัดทุกงวด เป็นสาระสำคัญหรือไม่นั้นจำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงมิใช่ปัญหาที่ว่ากันมาในศาลชั้นต้น แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยปัญหานี้มาก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันโดยชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการแก้ไขข้อบกพร่องของเอกสารมอบอำนาจ: ศาลแก้ไขได้หากไม่กระทบสิทธิคู่ความ
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ป. และ ส.ฟ้องคดีนี้ เพียงแต่สำเนาหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์แนบมาท้ายฟ้องกลับระบุว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องบุคคลอื่นไม่ใช่จำเลย แต่ต่อมาในระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นได้อนุญาตตามคำร้องของโจทก์ให้โจทก์ส่งหนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องได้ อันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 66 สั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว และโจทก์ได้แก้ไขแล้ว ฟ้องโจทก์และกระบวนพิจารณาทั้งหมดของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4787/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้สัตยาบันต่อกระบวนพิจารณาหลังศาลสั่งแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องหนังสือมอบอำนาจ
แม้ขณะยื่นคำให้การ จำเลยมิได้ยื่นใบมอบอำนาจให้ดำเนินคดีของตัวการต่อศาลก็ตาม แต่ต่อมาในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปรากฏว่า ศาลได้ใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 66 สั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวและจำเลยก็ได้ยื่นหนังสือมอบอำนาจของตัวการให้จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนดำเนินคดีได้ตามคำสั่งของศาลแล้ว ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ เมื่อได้ยื่นหนังสือมอบอำนาจเช่นนั้นแล้ว เท่ากับเป็นการให้สัตยาบันแก่กระบวนพิจารณาที่ได้ทำไปแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาทั้งหมดของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4622/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขความสามารถของจำเลย และอายุความฟ้องแย้งจากการผิดสัญญา
ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 56 คู่ความมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถของตนให้บริบูรณ์ได้ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา ทั้งตามมาตรา 66 ก็ได้ให้อำนาจศาลทำการสอบสวนและมีอำนาจยกฟ้อง หรือมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างอื่นได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม การที่จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2528 ว่าใบแต่งทนายความของจำเลยฉบับลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2527 มี ส.กรรมการของจำเลย ซึ่งมิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมกับ ธ.แต่งตั้งให้ อ.เป็นทนายความโดย ส.เข้าใจผิดว่าตนมีอำนาจ จำเลยจึงยื่นใบแต่งทนายความใหม่ให้ถูกต้องนั้น คำร้องของจำเลยดังกล่าวเป็นการขอแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องความสามารถดังนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตตามคำร้องดังกล่าวก่อนมีคำพิพากษาจึงเป็นคำสั่งที่ชอบและมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่สั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์จะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในคำให้การแก้ฟ้องแย้ง แต่เมื่อโจทก์ได้หยิบยกขึ้นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ก็วินิจฉัยให้ เมื่อโจทก์ฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรวินิจฉัยให้
จำเลยฟ้องแย้งว่า จำเลยจ้างโจทก์ซ่อมแซมคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น โจทก์ไม่สามารถซ่อมให้ใช้การได้และแล้วเสร็จตามสัญญาจำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ซ่อมให้ใช้การได้ แต่โจทก์เพิกเฉย ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์เพราะโจทก์ปฏิบัติผิดสัญญา หาใช่ฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดเพื่อการชำรุดบกร่อง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 600 ซึ่งมีอายุความ 1 ปีไม่ ดังนั้นฟ้องแย้งของจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมไม่ขาดอายุความ
จำเลยฟ้องแย้งว่า จำเลยจ้างโจทก์ซ่อมแซมคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น โจทก์ไม่สามารถซ่อมให้ใช้การได้และแล้วเสร็จตามสัญญาจำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ซ่อมให้ใช้การได้ แต่โจทก์เพิกเฉย ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์เพราะโจทก์ปฏิบัติผิดสัญญา หาใช่ฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดเพื่อการชำรุดบกร่อง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 600 ซึ่งมีอายุความ 1 ปีไม่ ดังนั้นฟ้องแย้งของจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4622/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแย้ง, สัญญาจ้างซ่อม, การปฏิบัติผิดสัญญา, การหักลดค่าจ้าง, ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 คู่ความ มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถ ของตนให้บริบูรณ์ได้ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อน มีคำพิพากษา ทั้งตามมาตรา 66 ก็ได้ให้อำนาจศาลทำการสอบสวนและ มีอำนาจยกฟ้อง หรือมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างอื่นได้ ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม การที่จำเลย ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2528 ว่าใบแต่งทนายความ ของจำเลยฉบับลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2527 มี ส. มีกรรมการ ของจำเลย ซึ่งมิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมกับ ธ.แต่งตั้งให้อ. เป็นทนายความโดย ส. เข้าใจผิดว่าตนมีอำนาจ จำเลยจึงยื่นใบแต่งทนายความใหม่ให้ถูกต้องนั้น คำร้องของจำเลยดังกล่าวเป็นการขอแก้ไขข้อบกพร่องเรื่อง ความสามารถ ดังนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตตามคำร้อง ดังกล่าวก่อนมีคำพิพากษาจึงเป็นคำสั่งที่ชอบและมีผลย้อนหลัง ไปถึงวันที่สั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย และปัญหาข้อนี้ เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในคำให้การแก้ฟ้องแย้งแต่เมื่อโจทก์ได้หยิบยกขึ้นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้เมื่อโจทก์ฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรวินิจฉัยให้ จำเลยฟ้องแย้งว่า จำเลยจ้างโจทก์ซ่อมแซมคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น โจทก์ไม่สามารถซ่อมให้ใช้การได้และแล้วเสร็จตามสัญญาจำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ซ่อมให้ใช้การได้ แต่โจทก์เพิกเฉย ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องแย้ง เรียกค่าเสียหายจากโจทก์ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยฟ้องแย้ง เรียกค่าเสียหายจากโจทก์เพราะโจทก์ปฏิบัติผิดสัญญา หาใช่ฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดเพื่อการชำรุดบกพร่อง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600 ซึ่งมีอายุความ1 ปี ไม่ ดังนั้นฟ้องแย้งของจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 ฟ้องแย้งของจำเลยย่อมไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4061/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความหนังสือมอบอำนาจต้องพิจารณาเอกสารทั้งฉบับและเจตนาของผู้มอบอำนาจ ไม่จำกัดเฉพาะข้อความบางส่วน
การแปลความเอกสารหาอาจพิเคราะห์เพียงข้อความตอนใดตอนหนึ่งของเอกสารเท่านั้นไม่ หากต้องพิจารณาเอกสารทั้งฉบับและความมุ่งหมายของผู้ทำเอกสารเป็นสำคัญอีกด้วย แม้ข้อความตอนแรก ๆ ของหนังสือมอบอำนาจจะกล่าวถึงกิจการที่มอบหมายให้ผู้รับมอบอำนาจกระทำในประเทศญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่ข้อความตอนต่อ ๆ มาก็มิได้จำกัดว่าจะต้องให้ผู้รับมอบอำนาจกระทำได้เฉพาะแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น การที่โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจขึ้นในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานสาขาของโจทก์และอ้างถึงการเป็นตัวแทนตามกฎหมายญี่ปุ่น หรือกิจการที่ผู้รับมอบอำนาจจะต้องกระทำในประเทศญี่ปุ่นบางประการ ย่อมไม่ได้หมายความจำกัดเฉพาะกิจการในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
เมื่อหนังสือมอบอำนาจมีข้อความมุ่งหมายจะมอบอำนาจให้ ท.เป็นผู้มีอำนาจทำการตามที่ระบุไว้ในกิจการอันเกี่ยวกับการรับประกันภัยทั้งสิ้นโดยไม่ได้จำกัดว่าให้กระทำได้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และยังได้มอบอำนาจให้ ท.มีอำนาจฟ้องคดีและมีอำนาจตั้งตัวแทนช่วงหรือผู้รับมอบอำนาจช่วงได้ท.จึงมอบอำนาจให้ พ.ซึ่งอยู่ในประเทศไทยฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์ได้
เมื่อหนังสือมอบอำนาจมีข้อความมุ่งหมายจะมอบอำนาจให้ ท.เป็นผู้มีอำนาจทำการตามที่ระบุไว้ในกิจการอันเกี่ยวกับการรับประกันภัยทั้งสิ้นโดยไม่ได้จำกัดว่าให้กระทำได้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และยังได้มอบอำนาจให้ ท.มีอำนาจฟ้องคดีและมีอำนาจตั้งตัวแทนช่วงหรือผู้รับมอบอำนาจช่วงได้ท.จึงมอบอำนาจให้ พ.ซึ่งอยู่ในประเทศไทยฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3795/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแก้ไขข้อบกพร่องใบมอบอำนาจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ข้อบังคับบริษัทโจทก์ระบุให้กรรมการสองคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทได้ การที่โจทก์มอบอำนาจให้ศ. ฟ้องและดำเนินคดีแทน โดยมีกรรมการ 2 คนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจ แต่ไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทย่อมทำให้ใบมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ แต่ก่อนพิพากษาศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องของใบมอบอำนาจก่อนพิพากษาเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้การที่บริษัทโจทก์มอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องคดีโดยกรรมการสองคนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจโดยไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ทำให้ใบมอบอำนาจนั้นไม่สมบูรณ์ก็ตามแต่ก่อนพิพากษาศาลย่อมมีอำนาจให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยสั่งให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์เข้ามาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของกรรมการบริษัท: หนังสือมอบอำนาจ & ข้อจำกัดในหนังสือรับรอง
หนังสือรับรองการจดทะเบียนท้ายฟ้องมิได้มีข้อจำกัดอำนาจของกรรมการไว้ ผู้ลงชื่อแทนโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจก็เป็นกรรมการของบริษัท และประทับตราสำคัญของบริษัท แม้โจทก์ไม่มีหนังสือรับรองของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทมาแสดงว่ากรรมการกี่คนมีอำนาจทำการแทนบริษัทได้ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุในฟ้องและนำสืบแล้วว่า กรรมการที่จะลงชื่อผูกพันบริษัทได้คือกรรมการสองคนลงชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท ซึ่งไม่ขัดกับหนังสือรับรองการจดทะเบียนท้ายฟ้อง ทั้งฝ่ายจำเลยก็มิได้โต้แย้งว่าไม่ถูกต้องอย่างใด หากศาลสงสัยว่าใบมอบอำนาจกระทำโดยผู้ไม่มีอำนาจ ศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้โจทก์ส่งหนังสือรับรองอำนาจจัดการของโจทก์ของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 66 ถือได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แล้ว.