คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีแย่งการครอบครอง: การถอนฟ้องและฟ้องใหม่ไม่ทำให้สิทธิเสื่อม
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เข้าแย่งการครอบครองแล้ว แต่ในระหว่างพิจารณาถูกจำเลยที่ 3 ที่ 4 ฟ้องเป็นจำเลย โดยจำเลยที่ 3 ที่ 4 หาว่าโจทก์นำชี้ทำแผนที่พิพาทรุกล้ำที่ของจำเลยที่ 3 ที่ 4 คู่ความทุกสำนวนจึงได้ตกลงกันต่างถอนฟ้องคดีของตนไป และให้โจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 3, 4 เป็นคดีใหม่เพื่อสะดวกในการดำเนินคดีของคู่ความทั้งสองฝ่าย ดังนี้ แม้โจทก์จะฟ้องคดีใหม่นั้นเกิน 1 ปีนับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เข้าแย่งการครอบครองก็ไม่ทำให้คดีใหม่ของโจทก์ขาดอายุความ การถอนฟ้องและฟ้องใหม่ในกรณีเช่นนี้ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องไว้เดิมเสื่อมเสียแต่ประการใด และกรณีไม่เข้ามาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งของข้ามแดนต้องเป็นไปตามช่องทางอนุมัติ แม้เจ้าหน้าที่อนุญาตก็ไม่เป็นเหตุให้พ้นผิดตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2480 มาตรา 5 บัญญัติว่า 'ห้ามมิให้ผู้ใดขนส่งของผ่านเขตแดนทางบกเข้าในราชอาณาจักรตามทางใดนอกจากทางอนุมัติฯ'ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นการห้ามไว้อย่างเด็ดขาดฉะนั้นแม้พนักงานศุลกากรจะได้อนุญาตให้จำเลยขนส่งของผ่านเขตแดนนอกทางอนุมัติก็ไม่อาจลบล้างข้อห้ามตามกฎหมายและไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งของข้ามแดนต้องเป็นไปตามทางอนุมัติ แม้ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ก็ไม่สามารถลบล้างข้อห้ามตามกฎหมายได้
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2480 มาตรา 5 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดขนส่งของผ่านเขตแดนทางบกเข้าในราชอาณาจักรตามทางใดนอกจากทางอนุมัติ ฯ" ดังนี้ เห็นด้วยว่าเป็นการห้ามไว้อย่างเด็ดขาด ฉะนั้น แม้พนักงานศุลกากรจะได้อนุญาตให้จำเลยขนส่งของผ่านเขตแดนนอกทางอนุมัติ ก็ไม่อาจลบล้างข้อห้ามตามกฎหมายและไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อหลักประกันค่านายหน้า: สิทธิเลิกตามสัญญา
จำเลยจ่ายเช็คให้เป็นหลักฐานป้องกันการโกงค่านายหน้าโดยตกลงกันว่า ถ้าการซื้อขายที่ดินไม่ตกลงกันก็เป็นอันยกเลิกเช็คนั้นดังนี้หากต่อมาไม่มีการซื้อขายที่ดินกัน สิทธิของนายหน้าอันจะได้เงินค่านายหน้าตามเช็คก็เป็นอันเลิกไปตามข้อสัญญาด้วย ฉะนั้น หากมีการนำเช็คไปขึ้นเงินและปรากฏว่าจำเลยมีเงินฝากบัญชีไม่พอจ่ายก็ดีจำเลยก็ยังไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อประกันค่านายหน้า หากซื้อขายไม่สำเร็จ สิทธิค่านายหน้าและเช็คเป็นอันเลิก สั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่ผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยจ่ายเช็คให้เป็นหลักฐานป้องกันการโกงค่านายหน้า โดยตกลงกันว่า ถ้าการซื้อขายที่ดินไม่ตกลงกันก็เป็นอันยกเลิกเช็คนั้น ดังนี้ หากต่อมาไม่มีการซื้อขายที่ดินกัน สิทธิของนายหน้าอันจะได้เงินค่านายหน้าตามเช็คก็เป็นอันเลิกไปตามข้อสัญญาด้วย ฉะนั้น หากมีการนำเช็คไปขึ้นเงินและปรากฏว่าจำเลยมีเงินฝากบัญชีไม่พอจ่ายก็ดี จำเลยก็ยังไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปลงศพตามประเพณี ต้องพิจารณาฐานานุรูปของผู้ตาย ไม่ใช่จำนวนเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 ซึ่งบัญญัติให้ผู้ทำละเมิดรับผิดใช้ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆ อีกด้วย นั้น จะต้องพิเคราะห์ตามฐานานุรูปของผู้ตาย มิใช่ว่าถ้ามีการใช้จ่ายเงินทำศพตามประเพณีเป็นจำนวนเท่าใดแล้วผู้ทำละเมิดจะต้องรับผิดทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สาธารณประโยชน์: เจตนาและองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยบังอาจทำลายทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยจำเลยขุดดินทำร่องน้ำทำคันนากั้นน้ำ แล้วปักดำข้าวลงในที่สาธารณประโยชน์ชื่อ 'กุดบ้านลาด' เป็นเหตุให้ประชาชนผู้มีสิทธิที่จะใช้ที่สาธารณประโยชน์เสียหายไร้ประโยชน์ที่จะใช้ร่วมกันขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 เป็นการแสดงให้เห็นได้ว่า โจทก์ได้ฟ้องหาว่าจำเลยทำลาย ทำให้เสียหาย และทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์อันครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา360 แล้ว
กระทำโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 2หมายถึงบุคคลกระทำโดยตั้งใจและประกอบด้วยประสงค์ต่อผลอย่างหนึ่งหรืออาจเล็งเห็นผลจากการกระทำนั้นอีกอย่างหนึ่งถ้าบุคคลกระทำการใดโดยตั้งใจ แม้ประสงค์ต่อผลอย่างอื่นแต่บุคคลนั้นอาจเล็งเห็นผลจะพึงบังเกิดขึ้นจากการกระทำของตนว่าจะบังเกิดผลอย่างใดแล้วก็ถือได้ว่า ผู้นั้นเจตนาต่อการกระทำอันจะบังเกิดผลเช่นนั้น
จำเลยมุ่งประสงค์ต่อการทำนาในหนองน้ำสาธารณ แต่การกระทำของจำเลยเป็นการทำลายหรือทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองนั้นซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะบังเกิดขึ้นดังกล่าว ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาทำลายหรือทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองน้ำนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สาธารณะ: เจตนาทำลายหรือทำให้เสียหาย แม้มีเจตนาอื่น ย่อมถือว่ามีเจตนาตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยบังอาจทำลายทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยจำเลยขุดดินทำร่องน้ำ ทำคันนากั้นน้ำ แล้วปักดำข้าวลงในที่สาธารณประโยชน์ ชื่อ "กุดบ้านลาด" เป็นเหตุให้ประชาชนผู้มีสิทธิที่จะใช้ที่สาธารณประโยชน์ เสียหายไร้ประโยชน์ที่จะใช้ร่วมกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 เป็นการแสดงให้เห็นได้ว่า โจทก์ได้ฟ้องหาว่าจำเลยทำลาย ทำให้เสียหาย และทำให้ไร้ประโยชน์อันครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 แล้ว
กระทำโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง หมายถึงบุคคลกระทำโดยตั้งใจและประกอบด้วยประสงค์ต่อผลอย่างหนึ่งหรืออาจเล็งเห็นผลจากการกระทำนั้นอีกอย่างหนึ่ง ถ้าบุคคลกระทำการใดโดยตั้งใจ แม้ประสงค์ต่อผลอย่างอื่น แต่บุคคลนั้นอาจเล็งเห็นผลจะพึงบังเกิดขึ้นจากการกระทำของตนว่าจะบังเกิดผลอย่างใดแล้ว ก็ถือได้ว่า ผู้นั้นเจตนาต่อการกระทำอันจะบังเกิดผลเช่นนั้น
จำเลยมุ่งประสงค์ต่อการทำนาในหนองน้ำสาธารณะ แต่การกระทำของจำเลยเป็นการทำลายหรือทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองน้ำ ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะบังเกิดขึ้นดังกล่าว ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาทำลายหรือทำให้เสียหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งหนองน้ำนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสัญญาซื้อขายด้วยการตกลงเลิกสัญญาใหม่ การนำสืบพยานบุคคลไม่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อของและผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ให้ครบการที่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยบอกคืนของที่ซื้อ ให้โจทก์ริบเงินมัดจำและโจทก์ยินยอมนั้น ย่อมเป็นข้อต่อสู้ว่าภายหลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้วคู่กรณีได้ทำความตกลงกันใหม่โดยเลิกสัญญาเดิมฉะนั้น จำเลยย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เรื่องเลิกสัญญาสื้อซื้อขายและการนำสืบพยาน การนำสืบพยานบุคคลเพื่อพิสูจน์ข้อตกลงใหม่หลังทำสัญญาซื้อขายเดิมไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อของและผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ให้ครบ การที่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยบอกคืนของที่ซื้อให้โจทก์ริบเงินมัดจำและโจทก์ยินยอมนั้น ย่อมเป็นข้อต่อสู้ว่าภายหลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้ว คู่กรณีได้ทำความตกลงกันใหม่ โดยเลิกสัญญาเดิม ฉะนั้น จำเลยย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
of 75