คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสำคัญในการบุกรุกทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยสุจริตเชื่อว่าทรัพย์สินเป็นของผู้อื่น ทำให้ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
เรือนพิพาทจะเป็นของโจทก์หรือไม่ก็ตาม แต่บุตรเขยโจทก์ยินยอมให้รื้อเรือนนี้ และบุตรเขยโจทก์ก็ได้มาอยู่จัดการรื้อเรือนด้วย จำเลยจึงรื้อ แสดงว่าจำเลยคิดว่าเรือนเป็นของบุตรเขยโจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 362 เพราะขาดเจตนาตามมาตรา 59 วรรค 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการรื้อถอนเรือน: การปฏิบัติหน้าที่สุจริตและเชื่อว่าเรือนเป็นของบุตรเขย ทำให้ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
เรือนพิพาทจะเป็นของโจทก์หรือไม่ก็ตาม แต่บุตรเขยโจทก์ยินยอมให้รื้อเรือนนี้และบุตรเขยโจทก์ก็ได้มาอยู่จัดการรื้อเรือนด้วย จำเลยจึงรื้อ แสดงว่าจำเลยคิดว่าเรือนเป็นของบุตรเขยโจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,362 เพราะขาดเจตนาตามมาตรา 59 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758-1762/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการเช่าเพื่อประกอบการค้าหรืออยู่อาศัยเกิดขึ้นเมื่อจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง
ในคดีที่ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากตึกแถวที่ให้เช่า จะมีประเด็นว่า จำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ต่อเมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ เมื่อกรณีจะเกิดเป็นประเด็นต่อเมื่อจำเลยอ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวเป็นประเด็นมาในฟ้อง (ว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือว่าจำเลยทำการค้าในตึกพิพาท)
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าการเช่าของจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้ตามที่ตนอ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758-1762/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกแถว: การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เกิดขึ้นเมื่อจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้
ในคดีที่ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากตึกแถวที่ให้เช่าจะมีประเด็นว่าจำเลยผู้เช่า เช่าเพื่อประกอบการค้าหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ต่อเมื่อจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อกรณีจะเกิดเป็นประเด็นต่อเมื่อจำเลยอ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ก็ไม่จำต้องกล่าวเป็นประเด็นมาในฟ้องในข้อนี้
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานกับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง และฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดิน โดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน กับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์กรณีการยักยอกเงินของสนามม้า
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึก มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหลายของสนามม้า เช่นการอนุญาตให้แข่งม้า รายได้รายจ่ายผลกำไรขาดทุนการตรวจรับรองบัญชีเงิน และปกครองบังคับบัญชาคนงาน เมื่อมีผู้ยักยอกเงินของสนามม้าไป นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยและมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: นายสนามม้าองค์การทหารผ่านศึกมีฐานะเป็นผู้เสียหายได้
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกมีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาคนทำงานและรับผิดชอบในกิจการแข่งม้า เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกเงินของสนามม้าขึ้น นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย และมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจาพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1663/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาข้อเท็จจริงหลังการตรวจสภาพสถานที่ - สิทธิในการโต้แย้งถูกจำกัดเมื่อศาลได้วินิจฉัยจากหลักฐานที่นำเสนอแล้ว
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งคู่ความท้ากันให้ศาลไปตรวจห้องพิพาทโดยขอให้พิจารณาเองว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าทำการค้าหรือใช้อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่เพียงข้อเดียว นอกนั้นไม่ติดใจว่ากล่าวกันต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยใช้ห้องพิพาททำการค้าเป็นส่วนใหญ่ เช่นนี้ จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงเช่นนั้นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือแทน vs. ยึดถือเพื่อตน: การบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงฐานะสำคัญต่อการเริ่มนับระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแพ่งการยึดถือเป็นเพื่อตน ก็ต้องบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึกถือที่ดินแทนโจทก์ต่อไปเสียก่อน การเปลี่ยนเจตนายึดถือโดยไม่บอกกล่าว ไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงฐานะจากยึดถือแทนไปได้
of 75