คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ ไม่ถือเป็นการจำนำ ยึดถือโดยมิชอบเป็นละเมิด
หนังสือที่เรียกว่าสัญญาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ข้อความแสดงว่าผู้โอนไม่มีเจตนาโอนความเป็นเจ้าของรถยนต์ให้แก่ผู้รับโอน
โจทก์กับจำเลยทำหนังสือสัญญาไว้ต่อกัน มีความหมายว่าโจทก์ยอมให้รถยนต์เป็นประกันเงินที่โจทก์รับล่วงหน้าไป แต่คู่กรณีก็ตกลงให้รถยนต์อยู่ที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการจำนำ จำเลยจึงไม่มีอำนาจยึดถือรถยนต์ในฐานะผู้รับจำนำ ไม่มีสิทธิไปยึดเอารถยนต์ของโจทก์ตามลำพัง เมื่อไปยึดมาจึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่ปราศจากเจตนาโอนกรรมสิทธิ์ การยึดทรัพย์โดยมิชอบเป็นละเมิด
หนังสือที่เรียกว่าสัญญาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ข้อความแสดงว่าผู้โอนไม่มีเจตนาโอนความเป็นเจ้าของรถยนต์ให้แก่ผู้รับโอน
โจทก์กับจำเลยทำหนังสือสัญญาไว้ต่อกัน มีความหมายว่าโจทก์ย่อมให้รถยนต์เป็นประกันเงินที่โจทก์รับล่วงหน้าไป แต่คู่กรณีก็ตกลงให้รถยนต์อยู่ที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการจำนำ จำเลยจึงไม่มีอำนาจยึดถือรถยนต์ในฐานะผู้รับจำนำ ไม่มีสิทธิไปยึดเอารถยนต์ของโจทก์ตามลำพัง เมื่อไปยึดมาจึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดเรือของกลางโดยพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นการละเมิด
พนักงานสอบสวนยึดเรือของกลางไว้เกี่ยวกับคดีอาญาเพื่อดำเนินการสอบสวย โดยสมควรภายในกรอบอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 ย่อมไม่เป็นละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ที่รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ หน้าที่การนำสืบของโจทก์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 มีข้อความระบุว่าจะต้องเป็นนิติกรรมที่ลูกหนี้ได้กระทำลงโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ การรู้ดังกล่าวนี้จะต้องรู้อยู่ขณะที่ทำนิติกรรมการโอน และฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างถึงเหตุดังกล่าวนี้ ฝ่ายจำเลยให้การปฏิเสธจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำสืบให้รับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์มรดกโดยตัวแทน ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
การตั้งตัวแทนแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาทไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ เพราะไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ หรือสัญญายกทรัพย์ให้แก่กัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก เจ้าของรวมตกลงแบ่งทรัพย์สิน ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ
ที่พิพาทเป็นมรดก โจทก์จำเลยต่างเป็นหลานเจ้าของมรดก โจทก์กับจำเลยและญาติอื่น ๆ ได้ทำสัญญาแบ่งนาพิพาทและทรัพย์มรดกอื่น ๆ โดยฝ่ายโจทก์รู้เห็นยินยอมให้พี่ชายลงชื่อแทน เป็นเรื่องเจ้าของรวมตกลงแบ่งทรัพย์สินที่รวมกัน ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ หรือสัญญายกทรัพย์ให้แก่กัน การตั้งตัวแทนแบ่งทรัพย์กันจึงไม่จำเป็นจะต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งจากการเสียชีวิต จำเป็นต้องพิสูจน์การกระทำที่ทำให้ถึงแก่ความตาย
ความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 ซึ่งให้สิทธิผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมายที่จะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้นั้น ต้องเป็นกรณีที่ผู้ทำละเมิดทำให้เขาถึงตาย หากมีการทำละเมิดแต่ไม่ถึงตาย ผู้ทำละเมิดก็ไม่ต้องรับผิดต่อผู้ที่อ้างว่าขาดไร้อุปการะ
โจทก์บรรยายฟ้องขอให้จำเลยรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 โดยคำฟ้องไม่มีข้อความให้รับผิดตามมาตราอื่น และแถลงร่วมกับจำเลยให้ถือเอาผลของคำพิพากษาฎีกาซึ่งจำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นหลักเกณฑ์ให้ศาลกำหนดค่าเสียหายโดยต่างไม่สืบพยาน ปรากฏในคำพิพากษาฎีกาดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้ตายถึงบาดเจ็บตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟังไม่ได้ถนัดว่าจำเลยเป็นผู้ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย คดีลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาไม่ได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ได้ความดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 และไม่มีทางที่จะถือเอาคำพิพากษาฎีกา ดังกล่าวมาพิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดต่อผู้ขาดไร้อุปการะ ต้องพิสูจน์การตายจากละเมิดของผู้ทำละเมิด
ความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 ซึ่งให้สิทธิผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎมายที่จะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้นั้น ต้องเป็นกรณีที่ผู้ทำละเมิดทำให้เขาถึงตาย หากมีการทำละเมิดแต่ไม่ถึงตาย ผู้ทำละเมิดก็ไม่ต้องรับผิดต่อผู้ที่อ้างว่าขาดไร้อุปการะ
โจท์กบรรยายฟ้องขอให้จำเลยรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 443 โดยคำฟ้องไม่มีข้อความให้รับผิดตามมาตราอื่นและแถลงร่วมกับจำเลย ให้ถือเอาผลของคำพิพากษาฎีกาซึ่งจำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นหลักเกณฑ์ให้ศาลกำหนดค่าเสียหายโดยต่างไม่สืบพยาน ปรากฎในคำพิพากษาฎีกาดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้ตายถึงบาดเจ็บตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟังไม่ได้ถนัดว่าจำเลยเป็นผู้ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย คดีลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาไม่ได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ได้ความดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 และไม่มีทางที่จะถือเอาคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวมาพิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินที่มีข้อความเพิ่มเติมถึงการขายที่ดิน ไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย หากไม่มีเจตนาผูกพันโดยตรง
ทำสัญญากู้เงินและมอบโฉนดไว้เป็นประกันโดยมีข้อความเพิ่มเติมไว้ด้วยว่าที่ดินแปลงนี้จะขายให้แก่ผู้ให้กู้จะไม่ขายให้ใครภายใน 3 ปี ตามราคาสองหมื่นบาท เมื่อถึงราคาสองหมื่นบาทจึงจะขาย จึงจะโอนให้ ดังนี้ เป็นเรื่องกู้เงินเท่านั้น ไม่มีลักษณะเป็นสัญญาจะขายเป็นเพียงคำปรารภของผู้กู้ฝ่ายเดียว มิใช่มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์จึงไม่ใช่คำมั่นหรือสัญญาจะขายที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีข้อความเพิ่มเติมเรื่องการขายที่ดิน ไม่ถือเป็นสัญญาจะขาย
ทำสัญญากู้เงินและมอบโฉนดไว้เป็นประกันโดยมีข้อความเพิ่มเติมไว้ด้วยว่าที่ดินแปลงนี้จะขายให้แก่ผู้ให้กู้ จะไม่ช่วยให้ใครภายใน 3 ปี ตามราคาสองหมื่นบาทเมื่อถึงราคาสองหมื่นบาทจึงจะขาย จึงจะโอนให้ ดังนี้ เป็นเรื่องกู้เงินเท่านั้น ไม่มีลักษณะเป็นสัญญาจะขาย เป็นเพียงคำปรารภของผู้กู้ฝ่ายเดียว มิใช่มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ จึงไม่ใช่คำมั่นหรือสัญญาจะขายที่ดิน
of 75