พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์
การที่ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งหมายนัด และสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นโดยจงใจหรือหลงลืมก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์ของผู้ให้เช่าซื้อเมื่อผู้เช่าซื้อกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ ผู้ให้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิด
รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกไม้สัก อันยังมิได้แปรรูป.ไม่มีตราค่าภาคหลวง อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484มาตรา 69 นั้นเมื่อปรากฏว่าเป็นรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อมาจากผู้ร้อง ชำระเงินยังไม่ครบกรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ผู้ร้องมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดของจำเลยศาลต้องคืนรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไป เพราะ พระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มุ่งหมายที่จะลงโทษบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ของผู้เช่าซื้อที่ใช้ในการกระทำผิดป่าไม้ แม้เจ้าของมิได้รู้เห็นเป็นใจ
รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกไม้สักยังมิได้แปรรูป ไม่มีตราค่าภาคหลวงหรือรอยตราของรัฐบาลประทับ (อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 - มาตรา 69) ซึ่งจะต้องถูกริบตามมาตรา 74 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 นั้น เมื่อปรากฏว่ารถยนต์นั้นจำเลยเช่าซื้อมาจากผู้ร้องชำระเงินยังไม่ครบ กรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ การริบทรัพย์เป็นการลงโทษอย่างหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องมิได้มีส่วนกระทำหรือรู้เห็นด้วย ก็ต้องคืนรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไป เพราะพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มุ่งหมายที่จะลงโทษบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความหมายของคำว่า 'บังอาจ' ในความผิดฐานมีแสตมป์สุราปลอม เพียงพอต่อการฟ้องคดีอาญา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้บังอาจมีแสตมป์สุราปลอมและได้เสนอขายแสตมป์สุราปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 นั้น คำว่าบังอาจพอเป็นที่เข้าใจว่าจำเลยมีแสตมป์สุราปลอมโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา มาตรา 257: คำว่า 'บังอาจ' แสดงเจตนา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้บังอาจมีแสตมป์สุราปลอมและได้เสนอขายแสตมป์สุราปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 257 นั้นคำว่า 'บังอาจ'พอเป็นที่ให้เข้าใจว่า จำเลยมีแสตมป์สุราปลอมโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอมย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งเจตนาทุจริตและอำนาจฟ้องร้องในคดีเช็ค
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตออกเช็คจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คและกล่าวถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่แสดงว่า โจทก์ร่วมไม่มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ ฎีกาดังกล่าวเป็นการอ้างอิงพยานหลักฐานว่าควรจะฟังพยานหลักฐานดังที่จำเลยชี้แจงฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่ชัดเจน การยกข้อต่อสู้ต้องระบุเหตุผลและข้อกฎหมายรองรับ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาข้อหนึ่งมีจำเลยกล่าวว่า "โจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมด ดังข้อต่อสู้ของจำเลย" นั้นเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิง โดยชัดแจ้ง ศาลจึงไม่รับวินิจฉัยในข้อนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน: เหตุผลการไม่อนุมัติทรัพย์มรดกทั้งหมด และการอ้างอิงคำให้การแทนข้อกฎหมาย
ฎีกาที่บรรยายว่า 'โจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมดดังข้อต่อสู้ของจำเลย' เพียงเท่านี้มิได้กล่าวมาให้ชัดแจ้งว่าโจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์มรดกทั้งหมดเพราะเหตุใด หรือโจทก์ควรได้รับเท่าใด นั้น เป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งในฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 และจะไปอ้างอิงคำให้การมาเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาไม่ได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยในข้อนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการแบ่งมรดก: ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์การครอบครองร่วม หากพิสูจน์ไม่ได้ ฟ้องขาดอายุความ
โจทก์จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกซึ่งตายมาประมาณ6 ปีแล้ว โจทก์เพิ่งฟ้องขอแบ่งมรดกฝ่ายจำเลยสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ ฝ่ายโจทก์รับว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์มรดกอยู่แต่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกับจำเลยเป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์จะต้องนำสืบว่าฝ่ายโจทก์ได้ครอบครองมรดกร่วมกับฝ่ายจำเลย หากโจทก์นำสืบไม่ได้ ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการฟ้องแบ่งมรดก: ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์การครอบครองร่วม หากพิสูจน์ไม่ได้ ฟ้องขาดอายุความ
โจทก์จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก ซึ่งตายมาประมาณ 6 ปีแล้ว โจทก์ เพิ่งฟ้องขอแบ่งมรดก ฝ่ายจำเลยสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ ฝ่ายโจทก์รับว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ แต่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกับจำเลย เป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์จะต้องนำสืบว่า ฝ่ายโจทก์ได้ครอบครองมรดกร่วมกับฝ่ายจำเลย หากโจทก์นำสืบไม่ได้ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ