พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการยอมความและการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของทางเดินสาธารณะหลังศาลพิพากษา
โจทก์จำเลยทำยอมความกันว่า ให้ถือตรอกทางเดินที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ และจำเลยยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปศาลพิพากษาตามยอมและจำเลยปฏิบัติตามยอมแล้วต่อมาโจทก์กลับปลูกสร้างขึ้นบนทางเดินนั้นดังนี้ จำเลยจะมาร้องขอในคดีเดิมให้บังคับโจทก์รื้อไม่ได้เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่ใช่กรณีตามยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญายอมความและการบังคับตามสัญญา: กรณีใหม่ไม่ผูกพันสัญญาเดิม
โจทก์จำเลยทำยอมความกันว่าให้ถือตรอกทางเดินที่พิพาทกันเป็นทางสาธารณ และจำเลยยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ศาลพิพากษาตามยอมและจำเลยปฏิบัติตามยอมแล้ว ต่อมาโจทก์กลับปลูกสร้างขึ้นบนทางเดินนั้น ดังนี้จำเลยจะมาร้องขอในคดีเดิมในบังคับโจทก์รื้อไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่ใช่กรณีตามยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฟ้องคดีอาญา: ดุลพินิจไม่อนุญาตฟ้องต่อศาลอาญาชอบด้วยกฎหมาย
ศาลล่าง 2 ศาล พิพากษาต้องกันให้คืนฟ้อง โจทก์ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ และจำเลยก็อยู่ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ตัวโจทก์ต้องถูกควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจ ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญาเป็นดุลพินิจที่ชอบ
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ และจำเลยก็อยู่ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ตัวโจทก์ต้องถูกควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจ ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญาเป็นดุลพินิจที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ดุลพินิจไม่อนุญาตฟ้องนอกเขต หากโจทก์สามารถมอบอำนาจทนายได้
ศาลล่าง 2 ศาลพิพากษาต้องกันให้คืนฟ้อง ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษและจำเลยก็อยู่ในห้องที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ตัวโจทก์ต้องควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญา เป็นดุลพินิจที่ชอบ
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษและจำเลยก็อยู่ในห้องที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ตัวโจทก์ต้องควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญา เป็นดุลพินิจที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อรักษาอายุความฟ้องร้องคดีเช็ค และการมีเจตนาออกเช็คโดยไม่ให้ธนาคารจ่ายเงิน
ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงินขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่าคำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อไม่ให้ขาดอายุความถือเป็นคำร้องทุกข์ได้ คดีเช็คไม่มีการจ่ายเงิน
ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงิน ขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่า คำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241-242/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงพลาดทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า แม้ผู้ยิงจะอยู่ในอาการเมาสุรา
การใช้ปืนยิงคนในร้านขายสุรา แม้ผู้ยิงจะเมาสุราก็ตามก็อาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ถูกยิงจะถึงตายได้ เมื่อกระสุนปืนที่ยิงพลาดไปถูกคนอื่นมีบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241-242/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนยิงแม้พลาดเป้า แต่มีเจตนาทำให้ถึงแก่ความตาย ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
การใช้ปืนยิงคนในร้านขายสุรา แม้ผู้ยิงจะเมาสุราก็ตาม ก็อาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ถูกยิงจะถึงตายได้ เมื่อกระสุนปืนที่ยิงพลาดไปถูกคนอื่นมีบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวัดในฐานะนิติบุคคลโดยมิได้ระบุผู้มีอำนาจลงนามสัญญา และการคิดดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
ในช่องคู่ความในฟ้องใส่ว่า วัดเป็นจำเลยที่ 1 ในคำบรรยายฟ้องมีความรวมๆ ว่าจำเลยจ้างเหมาโจทก์ โดยมิได้บรรยายว่าวัดซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างโดยใครเป็นผู้แทน คำฟ้องเช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้ฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลให้มีความรับผิดตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วยและวัดก็มิได้โต้แย้งว่าวัดมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์จึงไม่มีประเด็นว่าวัดไม่ต้องรับผิด เพราะมิได้เป็นคู่สัญญาแต่ประการใด
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลจากสัญญาจ้างเหมา แม้จะไม่ได้ระบุผู้แทนชัดเจน วัดต้องรับผิดหากไม่โต้แย้ง
ในช่องคู่ความในฟ้องใส่ว่า วัดเป็นจำเลยที่ 1 ในคำบรรยายฟ้องมีความรวมๆ ว่าจำเลยจ้างเหมาโจทก์ โดยมิได้บรรยายว่าวัดซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างโดยใครเป็นผู้แทน คำฟ้องเช่นนี้ก็ถือว่า โจทก์ได้ฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลให้มีความรับผิดขอบตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วย และวัดก็มิได้โต้แย้งว่าวัดมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ จึงไม่มีประเด็นว่าวัดไม่ต้องรับผิดเพราะมิได้เป็นคู่สัญญาแต่ประการใด
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2503
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2503