คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากยักยอกทรัพย์ (มาตรา 353) เป็นเอาทรัพย์ (มาตรา 314) ทำให้การฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานยักยอกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำเลยยักยอกเงิน 2 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกัน จำคุกจำเลยกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง 5 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314 ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี
ดังนี้ถือว่าแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503) (ควรเทียบดูฎีกาที่ 619/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจากยักยอกทรัพย์ ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษฐานจากประมวลกฎหมายอาญาเป็นกฎหมายลักษณะอาญา ทำให้ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำเลยยักยอกเงิน 2 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกันจำคุกจำเลยกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง 5 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314 ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 1ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี
ดังนี้ถือว่าแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503) (ควรเทียบดูกับฎีกาที่ 619/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งไม่ตัดสิทธิฟ้องใหม่เมื่อยกฟ้องเรื่องอำนาจฟ้อง โดยไม่เกินคำฟ้อง
ศาลย่อมมีอำนาจที่ระบุไว้ในคำพิพากษานั้นด้วยว่า ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 (3) ไม่เป็นการพิพากษาหรือสั่งเกินคำฟ้อง และไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 เพราะมาตรา 142 กับมาตรา148 นั้น ต้องพิจารณาประกอบกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการระบุว่าคำพิพากษายกฟ้องไม่ตัดสิทธิโจทก์ฟ้องใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลย่อมมีอำนาจที่จะระบุไว้ในคำพิพากษานั้นด้วยว่าไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(3) ไม่เป็นการพิพากษาหรือสั่งเกินคำฟ้อง และไม่ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 เพราะมาตรา142 กับมาตรา 148 นั้น ต้องพิจารณาประกอบกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์: นายอำเภอ vs กรมที่ดิน
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4มิได้ยกเลิกพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 117,122บัญญัติให้กรมการอำเภอดูแลรักษาที่อันเป็นสาธารณประโยชน์ และจะว่าขัดกับประมวลกฎหมายที่ดินอันจะต้องยกเลิกไป ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4(15)ก็ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 8 ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในเมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 117บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์: กรมการอำเภอและอธิบดีกรมที่ดิน
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4 มิได้ยกเลิก พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117, 122 บัญญัติให้กรมการอำเภอดูแลรักษาที่อันเป็นสาธารณประโยชน์ และว่าจะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4 (15) ก็ไม่ได้เพราะ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 8 ให้อธิบดีกรมที่ดินทีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดิน ทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในเมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117 บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและ พ.ร.บ. ระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าแก่ทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อการศึกษา
ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 3)พ.ศ.2497 มาตรา 3 ทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะใช้เพื่อประโยชน์ในการสร้างสถานศึกษานั้น ถ้าอยู่ภายในเขตที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศแล้ว ก็ได้รับการยกเว้นไม่อยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นค่าเช่าสำหรับทรัพย์สินจุฬาฯ เพื่อการศึกษา แม้ยังไม่มีงบประมาณสร้าง
ตามพ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะใช้เพื่อประโยชน์ในการสร้างสถานศึกษานั้น ถ้าอยู่ภายในเขตที่ได้มีพระราชกฤษฎีกา ประกาศแล้ว ก็ได้รับการยกเว้นไม่อยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้าและการลวงสาธารณชน จำเป็นต้องพิจารณาความแตกต่างโดยรวม ไม่ใช่แค่รายละเอียดปลีกย่อย
กล่องยาของโจทก์ใช้สีชมภู แต่กล่องยาของจำเลยใช้สีน้ำเงินอ่อนและสีเหลืองซึ่งไม่เป็นข้อสำคัญ เพราะโจทก์ได้จดทะเบียนไว้ไม่จำกัดสีที่จะใช้ ต่อไปชื่อยาโจทก์ใช้อักษรโรมันล้อมทุกด้านของกล่องว่า ASPRO เป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีม่วง ส่วนชื่อยาบนกล่องของจำเลยใช้คำว่าTHAIPRO เป็นตัวอักษรโรมันด้านหนึ่งและเป็นตัวอักษรไทยว่า"ไทยโปร" อีกด้านหนึ่งเป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีดำต่อไปในด้านข้างของกล่อง โจทก์ใช้ชื่อยา ASPROตัวอักษรสีขาวบนพื้นม่วงแล้วมีตัวอักษรจีนตัวเล็กๆ กำกับทั้งสองด้านส่วนกล่องของจำเลยด้านข้างหนึ่งมีตัวอักษรจีนเต็มข้าง ด้านอีกข้างหนึ่งมีตัวอักษรอาหรับเต็มข้าง ทั้งสองข้างไม่มีชื่อไทยโปรเป็นตัวอักษรโรมันหรืออักษรไทย ด้านสกัดบนและล่างของกล่องทั้งของโจทก์และจำเลยมีตัวอักษรไทยเหมือนกัน ด้านบนบอกวิธีรับประทาน ด้านล่างบอกว่ายาสามัญประจำบ้านบนลิ้นกล่องมีตัวอักษรโรมันเล็กๆ เหมือนกัน ของโจทก์บอกชื่อบริษัทผู้ผลิตของจำเลยบอกว่าสารเคมีมาจากประเทศเยอรมันขนาดกล่องของโจทก์ใหญ่กว่าของจำเลยเล็กน้อย ดังนี้ถือว่า ลักษณะเครื่องหมายการค้าบนกล่องยาจำเลยไม่คล้ายกับของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้าต้องมีความแตกต่างอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการหลงผิดของผู้บริโภค แม้ความแตกต่างนั้นจะปรากฏในหลายองค์ประกอบ
กล่องยาของโจทก์ใช้สีชมภู แต่กล่องยาของจำเลยใช้สีน้ำเงิน อ่อน และสีเหลืองซึ่งไม่เป็นข้อสำคัญ เพราะโจทก์ได้จดทะเบียนไว้ไม่จำกัดสีที่จะใช้ ต่อไปชื่อยาโจทก์ใช้อักษรโรมันล้อมทุกด้านของกล่องว่า ASPRO เป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีม่วง ส่วนชื่อยาบนกล่อง ของจำเลยใช้คำว่า THAIPRO เป็นตัวอักษรโรมันด้านหนึ่งและเป็นตัวอักษรไทยว่า ไทยโปร อีกด้านหนึ่งเป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีดำ ต่อไปในด้านข้างของกล่อง โจทก์ใช้ชื่อยา ASPRO ตัวอักษรสีขาวบนพื้นม่วง แล้วมีตัวอักษรจีนตัวเล็ก ๆ กำกับทั้งสองด้าน ส่วนกล่อง ของจำเลยด้านข้างหนึ่งมีตัวอักษรอาหรับเต็มข้าง ด้านอีกข้างหนึ่งมีตัวอักษรอาหรับเต็มข้างทั้งสองข้างไม่มีชื่อไทยโปรเป็นตัวอักษรโรมันหรืออักษรไทย ด้านสกัดบนและล่างของกล่องทั้งของโจทก์และจำเลยมีตัวอักษรไทยเหมือนกัน ด้านบนบอกวิธีรับประทาน ด้านล่างบอกว่ายาสามัญประจำบ้านบนลิ้นกล่องมีตัวอักษรโรมันเล็ก ๆ เหมือนกันของโจทก์ นอกชื่อบริษัทผู้ผลิตของจำเลยบอกว่าสารเคมีมาจากประเทศเยอรมัน ขนาดกล่องของโจทก์ใหญ่กว่า ของจำเลยเล็กน้อย ดังนี้ถือว่า ลักษณะเครื่องหมายการค้าบนกล่องยาจำเลยไม่คล้ายกับของโจทก์จนนับได้ว่า เป็นการลวงสาธารณะชน
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2503)
of 75