คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ แม้มีการนำไปใช้ในการกระทำผิด
จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานมา ยังชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่หมด จำเลยได้นำรถจักรยานนั้นไปออกรางวัลสลากกินรวม โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้รู้เห็นด้วย ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถจักรยานยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิร้องขอรับรถจักรยานของกลาง คืนไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ แม้ผู้เช่าซื้อนำไปใช้ในการกระทำผิด
จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานมา ยังชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่หมด จำเลยได้นำรถจักรยานนั้นไปออกรางวัลสลากกินรวบ โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้รู้เห็นด้วย ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถจักรยานยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิร้องขอรับรถจักรยานของกลางคืนไปได้
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันและริบจักรยาน 2 ล้อ ของกลางที่จำเลยใช้ออกเป็นรางวัลสลากกินรวบคดีถึงที่สุด ศาลชั้นต้น
ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถจักรยานของกลางไม่ใช่ของจำเลย หากเป็นรถของผู้ร้องได้ให้จำเลยเช่าซื้อมา จำเลยชำระราคายังไม่หมด การที่จำเลยเอารถจักรยานคันนี้ไปจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบ ผู้ร้องมิได้รู้เห็น จึงขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947-958/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินวัดโดยปริยายเพื่อขยายถนนหลวง การก่อสร้างในเขตทางหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิด
การที่วัดได้ยินยอมให้มีการขยายเขตถนนเดิมซึ่งได้ใช้เป็นทางหลวงอยู่แล้วเข้าไปในที่วัด และเมื่อทางหลวงนี้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน กรณีจึงเป็นว่า วัดได้อุทิศที่ดินส่วนนี้โดยปริยาย ให้เป็นทางหลวง
การอุทิศของวัดเช่นนี้มิได้ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 41 เพราะกรณีเช่นนี้ ไม่เข้าลักษณะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ตามที่กฎหมายนั้นระบุไว้ ฉะนั้น การที่จำเลยปลูกปักอาคารลงในเขตทางหลวงโดยมิได้รับอนุญาต ก็ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947-958/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินวัดโดยปริยายเพื่อขยายทางหลวง การปลูกสร้างอาคารในเขตทางหลวงเป็นความผิด
การที่วัดได้ยินยอมให้มีการขยายเขตถนนเดิมซึ่งได้ใช้เป็นทางหลวงอยู่แล้วเข้าไปในที่วัด และเมื่อทางหลวงนี้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน กรณีจึงเป็นว่า วัดได้อุทิศที่ดินส่วนนี้โดยปริยาย ให้เป็นทางหลวง
การอุทิศของวัดเช่นนี้มิได้ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2484 มาตรา 41 เพราะกรณีเช่นนี้ไม่เข้าลักษณะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ตามที่กฎหมายนั้นระบุไว้ ฉะนั้น การที่จำเลยปลูกปักอาคารลงในเขตทางหลวงโดยมิได้รับอนุญาต ก็ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้: ไม้ที่ได้มาโดยชอบ ไม่เข้าข่ายต้องริบ
ไม้ที่จำเลยทำการชักลากโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ไม่ใช่ไม้ที่ได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ จึงไม่ต้องถูกริบตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 (อ้างฎีกาที่ 354/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้ของกลาง: ไม้ที่ชักลากโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่ไม้ที่ได้มาจากการกระทำผิด จึงไม่ถูกริบ
ไม้ที่จำเลยทำการชักลากโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไม่ใช่ไม้ที่ได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงไม่ต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 354/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุผลความล่าช้าในการมาศาล: ศาลพิจารณาเหตุผลที่สมเหตุสมผลและไม่ได้เกิดจากความจงใจของฝ่ายโจทก์
วันนัดสืบพยานจำเลย ทนายโจทก์มาศาลล่าช้ากว่ากำหนดเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากรถยนต์ที่ทนายโจทก์เดินทางมาเกิดเครื่องยนต์ขัดข้อง ดังนี้ ถือได้ว่าฝ่ายโจทก์มิได้จงใจขาดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุสุดวิสัยและดุลพินิจศาลในการสั่งพิจารณาคดีใหม่
วันนัดสืบพยานจำเลย ทนายโจทก์มาศาลล่าช้ากว่ากำหนดเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจากรถยนต์ที่ทนายโจทก์เดินทางมาเกิดเครื่องยนต์ขัดข้อง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม - สัญญาซื้อขาย - การบังคับตามสัญญา - ภารจำยอมทางนิติกรรม - การจดทะเบียน
คดีแพ่ง ปัญหาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หากแต่เป็นเรื่องระหว่างโจทก์จำเลยโดยเฉพาะไม่กระทบกระเทือนถึงประชาชนหรือบุคคลภายนอกแต่ประการใด ถ้าจำเลยเห็นว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม จำเลยก็ชอบที่จะระวังผลประโยชน์ของตนเอง โดยต่อสู้ไว้เสียตั้งแต่ศาลชั้นต้น คดีแพ่งหาเหมือนกับคดีอาญาไม่ เมื่อจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้เป็นความบกพร่องของตนเอง ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยข้อนี้
จำเลยทำสัญญาขายส่วนหนึ่งของที่ดินมีโฉนดของคนให้โจทก์ โดยจำเลยยอมตกลงทำถนนในที่ดินของจำเลยแปลงที่ติดต่อกัน เพื่อโจทก์จะได้ใช้เป็นทางออกสู่ถนนหลวงได้ เมื่อโจทก์ผู้ซื้อได้ปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนแล้ว หากจำเลยไม่ยอมทำถนนดังกล่าว โจทก์ในฐานะคู่สัญญาย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ กรณีเช่นนี้ จำเลยจะเถียงว่า นิติกรรมรายนี้ยังไม่มีการจดทะเบียน ยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 หาได้ไม่ เพราะชั้นนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาไม่ใช่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องและอ้างว่ามีสิทธิทางเดินอยู่แล้ว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503 เฉพาะปัญหาข้อแรก)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม, สัญญาซื้อขายที่ดิน, การบังคับตามสัญญา, สิทธิทางเดิน, การจดทะเบียน
คดีแพ่ง ปัญหาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หากแต่เป็นเรื่องระหว่างโจทก์จำเลยโดยเฉพาะ ไม่กระทบกระเทือนถึงประชาชนหรือบุคคลภายนอกแต่ประการใด ถ้าจำเลยเห็นว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม จำเลยก็ชอบที่จะระวังผลประโยชน์ของตนเองโดยต่อสู้ไว้เสียตั้งแต่ศาลชั้นต้น คดีแพ่งหาเหมือนกับคดีอาญาไม่ เมื่อจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ก็เป็นความบกพร่องของตนเองไม่เกี่ยวกับผู้อื่น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยข้อนี้
จำเลยทำสัญญาขายส่วนหนึ่งของที่ดินมีโฉนดของตนให้โจทก์ โดยจำเลยยอมตกลงทำถนนในที่ดินของจำเลยแปลงที่ติดต่อกัน เพื่อโจทก์จะได้ใช้เป็นทางออกสู่ถนนหลวงได้ เมื่อโจทก์ผู้ซื้อได้ปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนแล้วหากจำเลยไม่ยอมทำถนนดังกล่าว โจทก์ในฐานะคู่สัญญาย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ กรณีเช่นนี้ จำเลยจะเถียงว่านิติกรรมรายนี้ยังไม่มีการจดทะเบียน ยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 หาได้ไม่ เพราะชั้นนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ไม่ใช่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องและอ้างว่ามีสิทธิทางเดินอยู่แล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2503 เฉพาะปัญหาข้อแรก)
of 75