พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-13/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมต้องเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์อื่น การฟ้องไม่ชัดแจ้ง และการสืบพยานสุขภาพ
อสังหาริมทรัพย์อาจตกอยู่ในภารจำยอมก็เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่นเท่านั้น จะอ้างว่าใช้ที่ดินนั้นเพื่อประโยชน์แก่การค้าน้ำแข็งหาได้ไม่
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอม คือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภารจำยอม โดยกล่าวว่าโจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้นว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอม คือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภารจำยอม โดยกล่าวว่าโจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้นว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์สัญญากู้ แม้จำเลยไม่ยินยอมชำระค่าอ้างรายงาน
โจทก์อ้างสัญญากู้และเสียค่าอ้างสำหรับสัญญากู้ไว้แล้วโดยชอบ จำเลยขอให้ศาลส่งสัญญากู้ไปให้ผู้ชำนาญตรวจพิสูจน์และขออ้างรายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้นด้วย ทั้งจำเลยได้ยอมชำระค่าธรรมเนียมการตรวจพิสูจน์โดยครบถ้วน ถึง 2,000 บาท รายงานผลการตรวจพิสูจน์จึงเป็นเอกสารอันแท้จริง ในสำนวนเมื่อรายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้นเป็นพิรุธแก่จำเลย และขัดแย้งกับคำพยานบุคคลของจำเลยจำเลยจึงไม่ยอมเสียค่ารายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้น โดยจำเลยเห็นว่า ศาลจะได้ไม่รับฟังรายงานผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อรายงานผลการพิสูจน์นี้ปรากฏต่อศาล ศาลก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ตามนัย ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีความผิดส่วนตัว ทำให้สิทธิฟ้องระงับตามกฎหมาย
มูลกรณีในคดีอาญา โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่ง และโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้โดยชัดแจ้งตามหลักฐานเอกสารว่า ทั้งสองฝ่ายยินยอมจะไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากันอีกต่อไป ดังนี้ เป็นการยอมความแก่กันแล้วในความผิดต่อส่วนตัว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญา: ผลกระทบต่อสิทธิในการฟ้องร้อง
มูลกรณีในคดีอาญา โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่ง และโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้โดยชัดแจ้งตามหลักฐานเอกสารว่า ทั้งสองฝ่ายยินยอมจะไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากันอีกต่อไป ดังนี้ เป็นการยอมความแก่กันแล้วในความผิดต่อส่วนตัว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(2) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องลักทรัพย์/รับของโจร แม้มีการกล่าวถึงการขายของกลางก่อน
การบรรยายฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยบรรยายตอนต้นว่า มีคนร้ายลักทรัพย์นั้น แม้จะได้บรรยายไว้ในตอนต่อมาอีกว่า จำเลยได้เอาทรัพย์ที่คนร้ายลักไปนั้นขายให้แก่ผู้มีชื่อ ทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์ฉันรับหรือมิฉนั้นจำเลยก็รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้ว่าได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด การที่โจทก์กล่าวในฟ้องถึงเรื่องจำเลยขายทรัพย์ของกลาง ย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยลักหรือรับของโจรไว้แล้วนั่นเอง โจทก์จะกล่าวเรื่องขายทรัพย์ของกลางก่อนหรือเรื่องลักทรัพย์กับรับของโจรก่อนอยู่ที่การเรียบเรียง เรื่องขายทรัพย์ของกลางจึงเป็นเพียงข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งอย่างน้อยก็แสดงถึงมูลเหตุที่ทำให้ได้ตัวจำเลยและของกลาง และแม้โจทก์ไม่กล่าวมาในฟ้องก็อาจนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องลักทรัพย์/รับของโจร แม้มีการกล่าวถึงการขายของกลางก่อน
การบรรยายฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโดยบรรยายตอนต้นว่า มีคนร้ายลักทรัพย์นั้น แม้จะได้บรรยายไว้ในตอนต่อมาอีกว่า จำเลยได้เอาทรัพย์ที่คนร้ายลักไปนั้นขายให้แก่ผู้มีชื่อ ทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์นั้นไป หรือมิฉะนั้นจำเลยก็รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้ว่าได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด การที่โจทก์กล่าวในฟ้องถึงเรื่องจำเลยขายทรัพย์ของกลาง ย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยลักหรือรับของโจรไว้แล้วนั่นเอง โจทก์จะกล่าวเรื่องขายทรัพย์ของกลางก่อนหรือเรื่องลักทรัพย์กับรับของโจรก่อนอยู่ที่การเรียบเรียง เรื่องขายทรัพย์ของกลางจึงเป็นเพียงข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งอย่างน้อยก็แสดงถึงมูลเหตุที่ทำให้ได้ตัวจำเลยและของกลาง และแม้โจทก์ไม่กล่าวมาในฟ้องก็อาจนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยมิชอบ ข่มขืนใจเอาทรัพย์ และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิด
จำเลยที่ 1 เป็นพลตำรวจสมัครประจำกองตำรวจภูธร ลามากิจธุระ ไม่แต่งเครื่องแบบ แต่มีเข็มขัดตำรวจคาดอยู่ จำเลยที่ 1 บอกผู้เสียหายซึ่งจับปลาในลำน้ำชีอันเป็นที่สาธารณะในฤดูปลามีไข่ อันเป็นความผิดต่อกฎหมายว่า ถ้าไม่ให้จับก็ให้ให้ปลาแก่จำเลยที่ 1 เสีย ผู้เสียหายกลัว จึงยอมให้ปลาแก่จำเลยที่ 1 เช่นนี้ แม้ในทางปฏิบัติกรมตำรวจได้วางระเบียบไว้ว่า พลตำรวจภูธรประจำกองตำรวจภูธรจะสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตจังหวัดนั้น จะต้องมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นผู้บังคับกองขึ้นไปก็ดี แต่เมื่อมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยไว้ว่า พลตำรวจภูธรไปปรากฏตัว ณ ที่ใดแม้จะเป็นนอกเขตอำนาจของพลตำรวจผู้นั้น ถ้าปรากฏว่ามีผู้กระทำผิดซึ่งหน้าพลตำรวจภูธรผู้นั้นก็มีอำนาจจับได้ ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานผู้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมอบปลาให้เป็นประโยชน์แก่ตน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นครูประชาบาลมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับจำเลยที่ 1 และในขณะที่จำเลยที่ 1 พูดกับผู้เสียหายว่า ถ้าจะไม่ให้จับ ก็ให้ให้ปลาเสียนั้น จำเลยที่ 2 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายต่อเนื่องกันไปว่า ทำผิดกฎหมายแล้ว เอาปลาให้ตำรวจเสีย จะได้ไม่ถูกจับ และในที่สุดเมื่อผู้เสียหายยอมให้ปลาแล้ว จำเลยที่ 1 หิ้วถังปลาไปจำเลยที่ 2 ก็เดินตามไปพร้อม ๆ กันด้วย พฤติการณ์เช่นนี้ เข้าลักษณะที่ว่าเป็นการช่วยเหลือในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดในขณะกระทำความผิดอันเป็นลักษณะของผู้สนับสนุน ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิดแล้ว
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นครูประชาบาลมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับจำเลยที่ 1 และในขณะที่จำเลยที่ 1 พูดกับผู้เสียหายว่า ถ้าจะไม่ให้จับ ก็ให้ให้ปลาเสียนั้น จำเลยที่ 2 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายต่อเนื่องกันไปว่า ทำผิดกฎหมายแล้ว เอาปลาให้ตำรวจเสีย จะได้ไม่ถูกจับ และในที่สุดเมื่อผู้เสียหายยอมให้ปลาแล้ว จำเลยที่ 1 หิ้วถังปลาไปจำเลยที่ 2 ก็เดินตามไปพร้อม ๆ กันด้วย พฤติการณ์เช่นนี้ เข้าลักษณะที่ว่าเป็นการช่วยเหลือในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดในขณะกระทำความผิดอันเป็นลักษณะของผู้สนับสนุน ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยมิชอบ ข่มขืนใจเอาทรัพย์สิน และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิด
จำเลยที่ 1 เป็นพลตำรวจสมัครประจำกองตำรวจภูธร ลามากิจธุระ ไม่แต่งเครื่องแบบ แต่มีเข็มขัดตำรวจคาดอยู่ จำเลยที่ 1 บอกผู้เสียหายซึ่งจับปลาในลำน้ำชีอันเป็นที่สาธารณะในฤดูปลามีไข่ อันเป็นความผิดต่อกฎหมายว่าถ้าไม่ให้จับ ก็ให้ให้ปลาแก่จำเลยที่ 1 เสีย ผู้เสียหายกลัว จึงยอมให้ปลาแก่จำเลยที่ 1 เช่นนี้แม้ในทางปฏิบัติกรมตำรวจได้วางระเบียบไว้ว่า พลตำรวจภูธรประจำกองตำรวจภูธรจะสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตจังหวัดนั้น จะต้องมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นผู้บังคับกองขึ้นไปก็ดี แต่เมื่อมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยไว้ว่า พลตำรวจภูธรไปปรากฏตัว ณ ที่ใดแม้จะเป็นที่นอกเขตอำนาจของพลตำรวจผู้นั้น ถ้าปรากฏว่ามีผู้กระทำผิดซึ่งหน้าพลตำรวจภูธรผู้นั้นก็มีอำนาจจับได้ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานผู้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมอบปลาให้เป็นประโยชน์แก่ตน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นครูประชาบาลมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับจำเลยที่ 1และในขณะที่จำเลยที่ 1 พูดกับผู้เสียหายว่า ถ้าจะไม่ให้จับ ก็ให้ให้ปลาเสียนั้นจำเลยที่ 2 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายต่อเนื่องกันไปว่าทำผิดกฎหมายแล้ว เอาปลาให้ตำรวจเสีย จะได้ไม่ถูกจับและในที่สุดเมื่อผู้เสียหายยอมให้ปลาแล้ว จำเลยที่ 1 หิ้วถังปลาไปจำเลยที่ 2 ก็เดินตามไปพร้อมๆ กันด้วยพฤติการณ์เช่นนี้เข้าลักษณะที่ว่าเป็นการช่วยเหลือในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดในขณะกระทำความผิดอันเป็นลักษณะของผู้สนับสนุนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิดแล้ว
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นครูประชาบาลมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับจำเลยที่ 1และในขณะที่จำเลยที่ 1 พูดกับผู้เสียหายว่า ถ้าจะไม่ให้จับ ก็ให้ให้ปลาเสียนั้นจำเลยที่ 2 ก็ได้พูดกับผู้เสียหายต่อเนื่องกันไปว่าทำผิดกฎหมายแล้ว เอาปลาให้ตำรวจเสีย จะได้ไม่ถูกจับและในที่สุดเมื่อผู้เสียหายยอมให้ปลาแล้ว จำเลยที่ 1 หิ้วถังปลาไปจำเลยที่ 2 ก็เดินตามไปพร้อมๆ กันด้วยพฤติการณ์เช่นนี้เข้าลักษณะที่ว่าเป็นการช่วยเหลือในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดในขณะกระทำความผิดอันเป็นลักษณะของผู้สนับสนุนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์: จำเลยยังไม่เป็นคู่ความก่อนศาลประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้ยกฟ้อง แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องหรือพิพากษาตามรูปคดีต่อไปเช่นนี้ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิฎีกาเพราะก่อนที่ศาลประทับฟ้อง จำเลยยังไม่เข้ามาสู่ฐานะเป็นคู่ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาของจำเลยในคดีราษฎรเป็นโจทก์: จำเลยยังไม่เป็นคู่ความจนกว่าศาลประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้ยกฟ้อง แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องหรือพิพากษาตามรูปคดีต่อไปเช่นนี้ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิฎีกาเพราะก่อนที่ศาลประทับฟ้อง จำเลยยังไม่เข้ามาสู่ฐานะเป็นคู่ความ