คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สัญญา ธรรมศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 742 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความเสียหายจากฟันหักเพื่อประเมินอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3)
คำว่า อวัยวะอื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3) หมายถึงอวัยวะส่วนสำคัญ เช่น แขน ขา มือ เท้า นิ้ว ดังระบุไว้ในตอนต้น
ฟันทั้งหมดในปากรวมกัน ก็เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ถ้าฟันหักไปหลายซี่ เป็นเหตุให้ส่วนที่เหลืออยู่ใช้การไม่ได้ตามสภาพของฟัน เช่น เคี้ยวอาหารไม่ได้ไปแถบหนึ่ง ก็ถือได้ว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญอันเป็นอันตรายสาหัส เพียงแต่ได้ความว่าฟันแท้บนด้านหน้าหักไป 3 ซี่ จะถือว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญยังมิได้ เว้นแต่โจทก์จะนำสืบให้เห็นว่า เมื่อถูกทำร้ายแล้ว ผู้เสียหายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารไม่ได้ ตามนัยที่กล่าวข้างต้น.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2508).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความรุนแรงของการทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3) โดยพิจารณาจากผลกระทบต่อการใช้งานอวัยวะ
คำว่า อวัยวะอื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3)หมายถึง อวัยวะส่วนสำคัญ เช่น แขน ขา มือ เท้า นิ้วดังระบุไว้ในตอนต้น
ฟันทั้งหมดในปากรวมกันก็เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ถ้าฟันหักไปหลายซี่ เป็นเหตุให้ส่วนที่เหลืออยู่ใช้การไม่ได้ตามสภาพของฟัน เช่นเคี้ยวอาหารไม่ได้ไปแถบหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญอันเป็นอันตรายสาหัสเพียงแต่ได้ความว่าฟันแท้บนด้านหน้าหักไป 3 ซี่จะถือว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญยังมิได้เว้นแต่โจทก์จะนำสืบให้เห็นว่าเมื่อถูกทำร้ายแล้วผู้เสียหายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามนัยที่กล่าวข้างต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินเสียหาย (ธงชาติ) โดยไม่มีเจตนาเหยียดหยาม
ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน ฯลฯโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นปืนของบุคคลอื่นมีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้องดังนี้ ข้อแตกต่างมิใช่ข้อสารสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่หรือไม่ซึ่งจำเลยรับแล้วว่ามีโดยมิได้รับอนุญาตจริง
ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนหาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหายจึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรามิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินเสียหาย (ธงชาติ)
ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานฯลฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นปืนของบุคคลอื่น มีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้อง ดังนี้ ข้อแตกต่างมิใช่ข้อสารสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่หรือไม่ ซึ่งจำเลยรับแล้วว่ามีโดยมิได้รับอนุญาตจริง ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียน หาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่ จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหาย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรา มิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำโดยมีเหตุโกรธเคืองและเตรียมอาวุธ
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบ จำเลยก็พากันไป ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคน พอจำเลยที่ 1,2 กับพวก เห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำร่วมกัน การเตรียมอาวุธ และเจตนาฆ่า
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบจำเลยก็พากันไปต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคนพอจำเลยที่ 1,2 กับพวกเห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินอย่างชัดเจน
คำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่นั้น ต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลนั้นด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ฉะนั้น คำร้องขอที่แสดงเพียงเหตุที่จำเลยมาศาลตามกำหนดนัดมิได้แต่อย่างเดียว ศาลย่อมยกคำร้องขอนั้นเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินอย่างชัดเจน
คำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่นั้น ต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลนั้นด้วย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 ฉะนั้น คำร้องขอที่แสดงเพียงเหตุที่จำเลยมาศาลตามกำหนดนัดมิได้แต่อย่างเดียว ศาลย่อมยกคำร้องขอนั้นเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่ากรณีผิดสัญญาเช่าช่วง และการอุทธรณ์ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงนั้นให้ ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249
ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่า โดยเอาห้องพิพาทไปให้เช่าช่วงอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 544 นั้น การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำต้องกำหนดให้เวลาผู้เช่าเหมือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 560 และ 566.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่ากรณีผู้เช่าให้เช่าช่วงและการอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงที่ถูกจำกัด
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงนั้นให้ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่า โดยเอาห้องพิพาทไปให้เช่าช่วงอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา544 นั้น การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำต้องกำหนดให้เวลาผู้เช่าเหมือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 560 และ 566
of 75