พบผลลัพธ์ทั้งหมด 288 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาใหม่: ศาลฎีกามีอำนาจดุลพินิจพิจารณาตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากเหตุผลประกอบ
ในวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ ทนายจำเลยขอเลื่อน แต่ศาลที่รับประเด็นไม่อนุญาต และดำเนินการสืบพยานไปโดยทนายจำเลยไม่ได้ซักค้าน ดังนี้ แม้จะถือว่าศาลที่รับประเด็นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา แต่การที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือไม่ นั้นก็เป็นดุลพินิจของศาลฎีกา โดยคำนึงถึงเหตุอันสมควรเป็นเรื่อง ๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาใหม่: ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงเหตุผล
ในวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ ทนายจำเลยขอเลื่อน แต่ศาลที่รับประเด็นไม่อนุญาต และดำเนินการสืบพยานไปโดยทนายจำเลยไม่ได้ซักค้าน ดังนี้ แม้จะถือว่าศาลที่รับประเด็นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา แต่การที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือไม่ นั้นก็เป็นดุลพินิจของศาลฎีกา โดยคำนึงถึงเหตุอันสมควรเป็นเรื่อง ๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาใหม่ ศาลฏีกามีดุลพินิจในการสั่งให้พิจารณาใหม่ได้
ในวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ ทนายจำเลยขอเลื่อน แต่ศาลที่รับประเด็นไม่อนุญาตและดำเนินการสืบพยานไปโดยทนายจำเลยไม่ได้คัดค้าน ดังนี้ แม้จะถือว่าศาลที่รับประเด็นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความแห่งว่าด้วยการพิจารณา แต่การที่ศาลฏีกาจะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือไม่นั้น ก็เป็นดุจพินิจของศาลฏีกา โดยคำนึงถึงเหตุอันสมควรเป็นเรื่องๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลควบคุมการพิจารณาคดีและการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา
คำสั่งของศาลที่ให้สืบตัวจำเลยในฐานะเป็นพยานของโจทก์และจำเลยพร้อมกัน หลังจากที่โจทก์นำสืบพยานโจทก์คนอื่นๆหมดแล้วนั้น หาใช่คำสั่งที่ไม่ให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานไม่ แต่เป็นคำสั่งที่ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามหน้าที่ที่เป็นผู้ควบคุมการพิจารณาคดีให้รวดเร็วและเที่ยงธรรม เป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 239 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้วเท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 239 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้วเท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการสืบพยานและการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจเพื่อความรวดเร็วและเที่ยงธรรม
คำสั่งของศาลที่ให้สืบตัวจำเลยในฐานะเป็นพยานของโจทก์และจำเลยพร้อมกัน หลังจากที่โจทก์นำสืบพยานโจทก์คนอื่นๆหมดแล้วนั้น. หาใช่คำสั่งที่ไม่ให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานไม่. แต่เป็นคำสั่งที่ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามหน้าที่ที่เป็นผู้ควบคุมการพิจารณาคดีให้รวดเร็วและเที่ยงธรรม เป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว.
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี. ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้.ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 239. เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้วเท่านั้น.
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ. จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้.ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2).
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี. ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้.ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 239. เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้วเท่านั้น.
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ. จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้.ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการยึดที่ดินของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในที่ดินที่มีผู้ซื้อรายอื่นยังไม่ได้จดทะเบียน
คำสั่งของศาลที่ได้สืบตัวจำเลยในฐานะเป็นพยานของโจทก์และจำเลยพร้อมกัน หลังจากที่โจทก์นำสืบพยานโจทก์คนอื่น ๆ หมดแล้วนั้น หาใช่คำสั่งที่ไม่ให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานไม่ แต่เป็นคำสั่งใช้ดุลพินิจสั่งตามหน้าที่ที่เป็นผู้ควบคุมการพิจารณาคดีให้รวดเร็วและเที่ยงธรรม เป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว เท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว เท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้การเป็นปรปักษ์ ถือเป็นเหตุให้ต้องยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีที่มีคู่ความสามฝ่าย จำเลยร่วมให้การเป็นปรปักษ์กับจำเลย จำเลยได้ยกประเด็นที่ว่านี้อุทธรณ์ศาลชั้นต้นมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วม ศาลฎีกาจึงต้องยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เสีย ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมเสียก่อน แล้วให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมที่มีส่วนได้เสียในประเด็นที่อุทธรณ์ ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นโมฆะ
ในคดีที่มีคู่ความสามฝ่าย จำเลยร่วมให้การเป็นปรปักษ์กับจำเลย. จำเลยได้ยกประเด็นที่ว่านี้อุทธรณ์.ศาลชั้นต้นมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วม. ศาลฎีกาจึงต้องยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เสีย. ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมเสียก่อน. แล้วให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมที่มีส่วนได้เสียในประเด็นที่อุทธรณ์ ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต้องถูกยก
ในคดีที่มีคู่ความสามฝ่าย จำเลยร่วมให้การเป็นปรปักษ์กับจำเลย จำเลยได้ยกประเด็นที่ว่านี้อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วม ศาลฎีกาจึงต้องยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เสีย ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยร่วมเสียก่อน แล้วให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลสั่งสืบพยานจำกัดประเด็น แล้ววินิจฉัยประเด็นอื่นที่ไม่ได้สั่งสืบ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีมีประเด็นข้อเท็จจริง 4 ข้อ ศาลชั้นต้นสั่งให้คู่ความนำพยานสืบสำหรับประเด็นข้อ 1 ข้อเดียว. ส่วนประเด็นอื่นเห็นว่าวินิจฉัยได้เอง. เมื่อคู่ความได้ดำเนินการตามที่ศาลสั่งแล้ว ศาลกลับวินิจฉัยว่าโจทก์มีภาระต้องพิสูจน์ประเด็นข้อ 3 แล้วไม่พิสูจน์. จึงพิพากษายกฟ้อง. เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบ.