พบผลลัพธ์ทั้งหมด 161 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกหุ้นส่วนกรณีผิดสัญญา: ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหากผู้เป็นหุ้นส่วนฝ่ายหนึ่งจงใจผิดสัญญา
การฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งซึ่งมิใช่ผู้ฟ้องร้องได้จงใจล่วงละเมิดบทบังคับอันเป็นสาระสำคัญซึ่งสัญญาหุ้นส่วนกำหนดไว้แก่ตนเป็นกรณีที่ต้องด้วยบทมาตรา 1057(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งฯ ย่อมฟ้องร้องได้ทันที ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือคอยระยะเวลาสิ้นรอบปีในทางบัญชีเงินตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1056 แห่งประมวลแพ่งฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกหุ้นส่วนกรณีผิดสัญญา: ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องเลิกได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
การฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งซึ่งมิใช่ผู้ฟ้องร้อง ได้จงใจล่วงละเมิดบทบังคับอันเป็นสาระสำคัญซึ่งสัญญาหุ้นส่วนกำหนดไว้แก่ตน เป็นกรณีที่ต้องด้วยบทมาตรา 1057(1) แห่งประมวลแพ่งฯ ย่อมฟ้องร้องได้ทันที ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือคอยระยะเวลาสิ้นรอบปีในทางบัญชีเงินตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1056 แห่งประมวลแพ่งฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำลายคันดินกั้นน้ำ แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และสิทธิการเป็นโจทก์ร่วม
ชายหญิงเป็นสามีภรรยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสและได้ทำนาร่วมกันมา จำเลยทำละเมิดต่อที่นาแปลงนั้น ชายมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ในนามของตนเอง และหญิงก็ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้เพราะมีส่วนได้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายวงแชร์มีสิทธิเรียกเงินจากลูกวงที่ผิดนัดชำระหนี้ได้ คล้ายค้ำประกัน
การที่โจทก์ผู้เป็นนายวงแชร์ออกเงินแทนจำเลยลูกวงผู้ประมูลแชร์ไปแล้วและ ไม่ส่งเงินที่ต้องส่งให้ครบ การกระทำเช่นนี้ไม่เข้าลักษณะเป็นการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นการเข้าหุ้นส่วนและไม่เป็นการเล่นการพนันขันต่อพฤติการณ์ระหว่างนายวงแชร์กับลูกวงใกล้ไปทางค้ำประกันเมื่อโจทก์ออกเงินแทนจำเลยไป โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยชดใช้คืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายวงแชร์มีสิทธิเรียกเงินจากลูกวงที่ผิดนัดชำระ แม้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
การที่โจทก์ผู้เป็นนายวงแชร์ออกเงินแทนจำเลยลูกวงผู้ประมูลแชร์ไปแล้วและไม่ส่งเงินที่ต้องส่งให้ครบ การกระทำเช่นนี้ไม่เข้าลักษณะเป็นการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นการเข้าหุ้นส่วนและไม่เป็นการเล่นการพนันขันต่อ พฤติการณ์ระหว่างนายวงแชร์กับลูกวงใกล้ไปทางค้ำประกัน เมื่อโจทก์ออกเงินแทนจำเลยไป โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยชดใช้คืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงเป็นของหุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และ
สัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่า บริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จะทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตน
นั่นเอง./
สัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่า บริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จะทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตน
นั่นเอง./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงอยู่ที่หุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกันต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่าบริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตนนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมในสวนยาง & การโอนสิทธิหุ้นส่วน: สิทธิสมบูรณ์ต้องจดทะเบียน
การรวมทุนกันประกอบกิจการมีและทำสวนยาง อีกนัยหนึ่งก็คือการร่วมกันมีที่ดินสวนยางหรือทำเป็นสวนยาง เพื่อแสวงหาดอกผลธรรมดาจากสวนยางนั้น แม้จะเรียกว่าห้างหุ้นส่วนสามัญ(โดยมิได้จดทะเบียน)ก็ตามความสัมพันธ์เช่นนี้ จะต้องบังคับตามกฎหมายอันว่าด้วยกรรมสิทธิ์รวมในอสังหาริมทรัพย์นั้น จะบังคับตามกฎหมายเรื่องหุ้นส่วนแต่อย่างเดียวไม่ได้เพราะทรัพย์สินอันเป็นประธานที่ผู้เป็นหุ้นส่วนมีอยู่ร่วมกันคือที่ดินสวนยางและส่วนของหุ้นส่วนในเรื่องนี้ก็คือส่วนหนึ่งในสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมในสวนยาง อันเป็นอสังหาริมทรัพย์จะมีตราจองหรือไม่ ก็ย่อมเป็นสิทธิในอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะมีสิทธิทำนิติกรรมจำหน่ายส่วนของตนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1361 ก็ตาม แต่ก็ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไปแก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้วภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการอันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไปแก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้วภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการอันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิรวมในอสังหาริมทรัพย์ ห้างหุ้นส่วนสามัญ การซื้อขายสิทธิ และการร้องสอด
การรวมทุนกันประกอบกิจการมี และสวนยาง อีกนัยหนึ่ง ก็คือ การร่วมกันมีที่ดินสวนยางหรือทำเป็นสวนยาง เพื่อแสวงหาดอกผลธรรมดาจากสวนยางนั้น แม้จะเรียกว่าห้างหุ้นส่วนสามัญ (โดยมิได้จดทะเบียน) ก็ตาม ความสัมพันธ์เช่นนี้ จะต้องบังคับตามกฎหมายอันว่าด้วยกรรมสิทธิรวมในอสังหาริมททรัพย์นั้น จะบังคับตามกฎหมายเรื่องหุ้นส่วนแต่อย่างเดียวไม่ได้ เพราะทรัพย์สินอันเป็นประธานที่ผู้เป็นหุ้นส่วนมีอยู่ร่วมกัน คือที่ดินสวนยาง
และส่วนของหุ้นส่วนในเรื่องนี้ก็คือส่วนหนึ่งในสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมในสวนยาง อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ จะมีตราจองหรือไม่ ก็ย่อมเป็นสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกัน แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะมีสิทธิทำนิติกรรมจำหน่ายส่วนของตนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1361 ก็ตาม แต่ก็ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไป แก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้ว ภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานนะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการ อันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
และส่วนของหุ้นส่วนในเรื่องนี้ก็คือส่วนหนึ่งในสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมในสวนยาง อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ จะมีตราจองหรือไม่ ก็ย่อมเป็นสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกัน แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะมีสิทธิทำนิติกรรมจำหน่ายส่วนของตนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1361 ก็ตาม แต่ก็ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไป แก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้ว ภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานนะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการ อันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาทำนาแบ่งผลผลิต: ไม่ใช่เช่าหรือเข้าหุ้นส่วน
โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยเป็นแรงทำนาส่วนโจทก์มีนาพันธ์ข้าวปลูกและออกเงินค่าจ้างแรงกระบือเหยียบที่กล้า เมื่อทำนาได้ข้าวเท่าใดแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยได้ครึ่งหนึ่ง กรณีเช่นนี้ เป็นสัญญาธรรมดา มิใช่เป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งมิใช่เป็นเรื่องเข้าหุ้นส่วนกันเมื่อจำเลยไม่ทำให้เสร็จตามที่ตกลงโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์