พบผลลัพธ์ทั้งหมด 161 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซ่อมแซมบ้านของผู้อื่นโดยไม่ได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่ทำให้เกิดกรรมสิทธิ์ร่วม
บ้านพิพาทเป็นบ้านที่ ป. มีมาแต่เดิมก่อนสมรสอยู่กินกับโจทก์ ป. จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวการที่โจทก์อยู่กินกับ ป.ฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส แม้จะได้ออกเงินซ่อมแซมทำนุบำรุงบ้านพิพาทก็เพื่อให้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นเท่านั้น หาทำให้โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาท: การซ่อมแซมบ้านโดยภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส ไม่ทำให้มีกรรมสิทธิ์ร่วม
บ้านพิพาทเป็นบ้านที่ ป. มีมาแต่เดิมก่อนสมรสอยู่กินกับโจทก์ ป. จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวการที่โจทก์อยู่กินกับ ป.ฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส แม้จะได้ออกเงินซ่อมแซมทำนุบำรุงบ้านพิพาทก็เพื่อให้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นเท่านั้น หาทำให้โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กิจการเฉพาะตัวไม่เป็นมรดก การเป็นหุ้นส่วนต้องมีหลักฐานชัดเจน
กิจการแพปลาซึ่ง ผ.มารดาของโจทก์จำเลยประกอบอาชีพอยู่ก่อนถึงแก่กรรมนั้น ไม่ปรากฏว่านอกจากเงินสดและเงินที่ผ.ให้ชาวประมงยืมไปเป็นทุนแล้ว ยังมีทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอีก กิจการแพปลาจึงเป็นเพียงการงานอาชีพของผ.อันเป็นกิจการเฉพาะตัวโดยแท้ และย่อมไม่เป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์จำเลย การที่จำเลยประกอบกิจการแพปลาต่อมาหาทำให้โจทก์มีสิทธิเป็นเจ้าของกิจการแพปลาร่วมกับจำเลยด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กิจการเฉพาะตัวไม่เป็นมรดก, สิทธิในกิจการแพปลาหลังแม่เสียชีวิต, การเป็นหุ้นส่วนต้องมีหลักฐาน
กิจการแพปลาซึ่ง ผ.มารดาของโจทก์จำเลยประกอบอาชีพอยู่ก่อนถึงแก่กรรมนั้น ไม่ปรากฏว่านอกจากเงินสดและเงินที่ผ.ให้ชาวประมงยืมไปเป็นทุนแล้ว ยังมีทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอีก กิจการแพปลาจึงเป็นเพียงการงานอาชีพของ ผ.อันเป็นกิจการเฉพาะตัวโดยแท้ และย่อมไม่เป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์จำเลย การที่จำเลยประกอบกิจการแพปลาต่อมาหาทำให้โจทก์มีสิทธิเป็นเจ้าของกิจการแพปลาร่วมกับจำเลยด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญและการรับฟังใบรับเงินค่าหุ้นแม้ไม่มีอากรแสตมป์
โจทก์กับพวกได้นำเงินมาลงหุ้นกับจำเลยและ ว. ตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เมื่อหุ้นส่วนตายห้างหุ้นส่วนย่อมเลิกกัน โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนได้
ใบเสร็จรับเงินค่าหุ้นโจทก์ได้ส่งภาพถ่ายมาพร้อมกับคำฟ้อง จำเลยให้การรับว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์และผู้ขอลงทุน ได้ระบุเป็นการล่วงหน้าว่ารับเงินเป็นค่าลงหุ้น แต่ความจริงเป็นการรับเงินกู้ยืม เมื่อโจทก์ส่งต้นฉบับในชั้นพิจารณา จำเลยก็เบิกความว่าเป็นใบรับเงินที่จำเลยทำขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานอีก แม้ใบรับเงินที่โจทก์อ้างจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังได้ว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์ตามที่จำเลยให้การและเบิกความรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา84 (1)
ใบเสร็จรับเงินค่าหุ้นโจทก์ได้ส่งภาพถ่ายมาพร้อมกับคำฟ้อง จำเลยให้การรับว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์และผู้ขอลงทุน ได้ระบุเป็นการล่วงหน้าว่ารับเงินเป็นค่าลงหุ้น แต่ความจริงเป็นการรับเงินกู้ยืม เมื่อโจทก์ส่งต้นฉบับในชั้นพิจารณา จำเลยก็เบิกความว่าเป็นใบรับเงินที่จำเลยทำขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานอีก แม้ใบรับเงินที่โจทก์อ้างจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังได้ว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์ตามที่จำเลยให้การและเบิกความรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา84 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญเมื่อหุ้นส่วนถึงแก่ความตาย และการใช้ใบรับเงินเป็นหลักฐาน
โจทก์กับพวกได้นำเงินมาลงหุ้นกับจำเลยและ ว.ตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เมื่อหุ้นส่วนตายห้างหุ้นส่วนย่อมเลิกกัน โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนได้
ใบเสร็จรับเงินค่าหุ้นโจทก์ได้ส่งภาพถ่ายมาพร้อมกับคำฟ้องจำเลยให้การรับว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์และผู้ขอลงทุนได้ระบุเป็นการล่วงหน้าว่ารับเงินเป็นค่าลงหุ้นแต่ความจริงเป็นการรับเงินกู้ยืม เมื่อโจทก์ส่งต้นฉบับในชั้นพิจารณา จำเลยก็เบิกความว่าเป็นใบรับเงินที่จำเลยทำขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานอีก แม้ใบรับเงินที่โจทก์อ้างจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังได้ว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์ตามที่จำเลยให้การและเบิกความรับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา84(1)
ใบเสร็จรับเงินค่าหุ้นโจทก์ได้ส่งภาพถ่ายมาพร้อมกับคำฟ้องจำเลยให้การรับว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์และผู้ขอลงทุนได้ระบุเป็นการล่วงหน้าว่ารับเงินเป็นค่าลงหุ้นแต่ความจริงเป็นการรับเงินกู้ยืม เมื่อโจทก์ส่งต้นฉบับในชั้นพิจารณา จำเลยก็เบิกความว่าเป็นใบรับเงินที่จำเลยทำขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานอีก แม้ใบรับเงินที่โจทก์อ้างจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังได้ว่าเป็นใบรับเงินที่ออกให้โจทก์ตามที่จำเลยให้การและเบิกความรับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา84(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดรับผิดร่วมกันในสัญญาซื้อขายที่ดินและอาคาร แม้ใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนเป็นตัวแทน
ภายหลังจากที่จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 แล้วผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสามคือ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และ ซ. ได้ทำข้อตกลงพิเศษกันไว้เป็นส่วนตัวให้ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมคือรับจัดให้ได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยพร้อมที่ดิน ซึ่งหมายถึงการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารสร้างอาคารขายอันมิใช่วัตถุประสงค์ของห้าง และเมื่อมีกำไร ยอมยกให้จำเลยที่ 3 ครึ่งหนึ่ง ส่วนสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจำเลยที่ 2 ที่ 3 มีสิทธิคนละครึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นกิจการของห้างจำเลยที่ 1 แต่แท้จริงมุ่งหมายผูกพันกันระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3 โดยตรงเพียงแต่ใช้ชื่อห้างจำเลยที่ 1 ออกหน้าเท่านั้น ทั้งทางปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3 เกี่ยวกับการใช้จ่ายดำเนินกิจการซื้อที่ดินมาปลูกอาคารขายก็มีลักษณะของการลงเงินเป็นหุ้นแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะส่วนตัวเป็นหุ้นส่วนกันในกิจการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารตึกแถวขายพร้อมที่ดิน อาคารพิพาทและที่ดินจึงเป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งผิดสัญญาซื้อขายอาคารพิพาทและที่ดินที่ทำไว้กับโจทก์ โดยก่อสร้างอาคารพิพาทไม่แล้วเสร็จ และไม่โอนอาคารพิพาทและที่ดินให้โจทก์ จำเลยที่ 3 ผู้เป็นหุ้นสวนอีกคนหนึ่งจึงต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดรับผิดชอบร่วมกันในสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ใช้ชื่อห้างเป็นคู่สัญญา หากมีข้อตกลงพิเศษและลงหุ้นร่วมกัน
ภายหลังจากที่จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 แล้วผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสามคือ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และ ซ.ได้ทำข้อตกลงพิเศษกันไว้เป็นส่วนตัวให้ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมคือรับจัดให้ได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยพร้อมที่ดิน ซึ่งหมายถึงการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารขายอันมิใช่วัตถุประสงค์ของห้าง และเมื่อมีกำไร ยอมยกให้จำเลยที่ 3 ครึ่งหนึ่ง ส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจำเลยที่ 2 ที่ 3 มีสิทธิคนละครึ่งข้อตกลงดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นกิจการของห้างจำเลยที่ 1 แต่แท้จริงมุ่งหมายผูกพันกันระหว่างจำเลยที่2 ที่ 3 โดยตรงเพียงแต่ใช้ชื่อห้างจำเลยที่ 1 ออกหน้าเท่านั้นทั้งทางปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3เกี่ยวกับการใช้จ่ายดำเนินกิจการซื้อที่ดินมาปลูกอาคารขายก็มีลักษณะของการลงเงินเป็นหุ้นแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะส่วนตัวเป็นหุ้นส่วนกันในกิจการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารตึกแถวขายพร้อมที่ดิน อาคารพิพาทและที่ดินจึงเป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งผิดสัญญาซื้อขายอาคารพิพาทและที่ดินที่ทำไว้กับโจทก์โดยก่อสร้างอาคารพิพาทไม่แล้วเสร็จ และไม่โอนอาคารพิพาทและที่ดินให้โจทก์ จำเลยที่ 3 ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งจึงต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2174-2175/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกโดยหนังสือสัญญา ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวมหรือกงสี
หนังสือสัญญามีข้อความว่า "อำแดงยิ้ม ยายผู้รักษาทรัพย์สมบัตรของจีนตืออากรบุตรเชย อำแดงเป้อบุตรสายได้ทำหนังสือบริคณห์สัญญาแบ่งทรัพย์สมบัติของจีนอากรตือบุตรเชย อำแดงเป้อบุตรสาวให้แก่จีนกิมฮะ จีนกิมติด อำแดงหลี อำแดงแดง จีนกิมฮก จีนกิมจู อำแดงเปียก หลานๆ ได้เห็นชอบและยินยอมพร้อมใจกันตามที่อำแพงยิ้ม ยายได้แบ่งปันทรัพย์นั้นจึงให้ถ้อยคำทำหนังสือบริคนห์สัญญาไว้ต่อกันมีข้อความดังจะกล่าวต่อไปนี้คือ
ข้อ 1. เดิมจีนตืออากร อำแดงเป้อได้อยู่กินเป็นสามีภริยาได้ประกอบการทำมาหากินด้วยกัน มีทรัพย์สมบัติหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเป็นอวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์ ครั้งมา ณ วินฯ 12 1 ค่ำปีกุน เอกศก อำแดงเป้อตาย ณ วันที่ 24 ค่ำ เอกศก จีนตืออากรตาย บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรและของอำแดงเป้อนั้น อำแดงยิ้มได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้ทั้งสิ้น บัดนี้ อำแดงยิ้มจะได้เอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นออกแจกปันให้แก่บุตรจีนตืออากร อำแดงเป้อซึ่งเป็นหลานอำแดงยิ้มเป็นส่วนส่วนดังนี้
ข้อ 2. คือแบ่งปันให้จีนกิมฮะเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่ง จีนกิมติดเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่น อำแดงหลีเงินตราห้าร้อยชั่ง อำแดงแดงเงินตราห้าร้อยชั่ง จีนกิมฮกเงินตราห้าร้อยชั่ง จีนกิมจูเงินตราห้าร้อยชั่ง อำแดงเปียกเงินตราห้าร้อยชั่ง รวมเป็นเงินที่ได้แบ่งปันนี้เป็นเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่ง
ข้อ 3. บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากร อำแดงเป้อ นอกจากเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งได้แบ่งปันนี้ ยังมีอยู่คือ บ้านเรือน สวน นา สิ่งของทองรูปประพรรณ สารกรมธรรมทาษลูกหนี้ สะวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์ อำแดงยิ้ม ได้แบ่งปันให้กับอำแดงหลีบุตรจีนตืออากร อำแดงเป้อทั้งสิ้น แต่ส่วนทองคำเนื้อแปด ให้แบ่งปันกันแก่อำแดงแดง หนักแปดสิบแปดบาท อำแดงเปียกหนักแปดสิบแปดบาท กับเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งจะได้แบ่งปันกันนั้น อำแดงยิ้มยายมอบให้ให้อำแดงหลีหลานเป็นผู้เก็บรักษาไว้สืบต่อไป
ข้อ 4. จีนกิมฮะ จีนกิมติด อำแดงหลี อำแดงแดง จีนกิมฮก จีนกิมจู อำแดงเปียกซึ่งเป็นผู้จะได้รับหุ้นส่วนนั้น ได้เห็นชอบยินยอมที่อำแดงยิ้มยายแบ่งปันตั้งแต่วันทำหนังสือบริคณห์สัญญาฉบับนี้แล้ว ผู้ซึ่งจะได้รับหุ้นส่วนนั้นเมื่อได้รับเงินตราวันใด ให้ทำหนังสือสำคัญซึ่งเป็นหลักฐาน ให้แก่อำแดงหลีซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์
ข้อ 5. ตั้งแต่วันที่ได้ทำหนังสือบริคนสัญญาแบ่งปันฉบับนี้ อำแดงยิ้มยายผู้แบ่งปัน จีนกิมฮะ จีนกิมติด อำแดงหลี อำแดงแดง จีนกิมฮก จีนกิมจู อำแดงเปียกต้องนับถือหนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นหลักฐาน ถ้าผู้ใดกระทำผิดข้อสัญญาฉบับนี้ก็ให้ฟ้องร้องยังโรงศาล ให้พิจารณาตามบริคนสัญญานี้เทอญ ข้าพเจ้าจดหมายลงชื่อไว้เป็นสำคัญ"
หนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นเรื่องการแบ่งปันทรัพย์มรดกของ ต. และป. ผู้วายชนม์ให้แก่บุตรซึ่งเป็นทายาท ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวมหรือกงสี
คำว่า "ผู้จะได้รับหุ้นส่วน" หมายถึง "ผู้จะได้รับส่วนแบ่ง" นั่นเอง กรณีหาใช่ผู้เป็นหุ้นส่วนนำเงินมาเข้าหุ้นกันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไร อันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นไม่
ข้อ 1. เดิมจีนตืออากร อำแดงเป้อได้อยู่กินเป็นสามีภริยาได้ประกอบการทำมาหากินด้วยกัน มีทรัพย์สมบัติหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเป็นอวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์ ครั้งมา ณ วินฯ 12 1 ค่ำปีกุน เอกศก อำแดงเป้อตาย ณ วันที่ 24 ค่ำ เอกศก จีนตืออากรตาย บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรและของอำแดงเป้อนั้น อำแดงยิ้มได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้ทั้งสิ้น บัดนี้ อำแดงยิ้มจะได้เอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นออกแจกปันให้แก่บุตรจีนตืออากร อำแดงเป้อซึ่งเป็นหลานอำแดงยิ้มเป็นส่วนส่วนดังนี้
ข้อ 2. คือแบ่งปันให้จีนกิมฮะเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่ง จีนกิมติดเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่น อำแดงหลีเงินตราห้าร้อยชั่ง อำแดงแดงเงินตราห้าร้อยชั่ง จีนกิมฮกเงินตราห้าร้อยชั่ง จีนกิมจูเงินตราห้าร้อยชั่ง อำแดงเปียกเงินตราห้าร้อยชั่ง รวมเป็นเงินที่ได้แบ่งปันนี้เป็นเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่ง
ข้อ 3. บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากร อำแดงเป้อ นอกจากเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งได้แบ่งปันนี้ ยังมีอยู่คือ บ้านเรือน สวน นา สิ่งของทองรูปประพรรณ สารกรมธรรมทาษลูกหนี้ สะวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์ อำแดงยิ้ม ได้แบ่งปันให้กับอำแดงหลีบุตรจีนตืออากร อำแดงเป้อทั้งสิ้น แต่ส่วนทองคำเนื้อแปด ให้แบ่งปันกันแก่อำแดงแดง หนักแปดสิบแปดบาท อำแดงเปียกหนักแปดสิบแปดบาท กับเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งจะได้แบ่งปันกันนั้น อำแดงยิ้มยายมอบให้ให้อำแดงหลีหลานเป็นผู้เก็บรักษาไว้สืบต่อไป
ข้อ 4. จีนกิมฮะ จีนกิมติด อำแดงหลี อำแดงแดง จีนกิมฮก จีนกิมจู อำแดงเปียกซึ่งเป็นผู้จะได้รับหุ้นส่วนนั้น ได้เห็นชอบยินยอมที่อำแดงยิ้มยายแบ่งปันตั้งแต่วันทำหนังสือบริคณห์สัญญาฉบับนี้แล้ว ผู้ซึ่งจะได้รับหุ้นส่วนนั้นเมื่อได้รับเงินตราวันใด ให้ทำหนังสือสำคัญซึ่งเป็นหลักฐาน ให้แก่อำแดงหลีซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์
ข้อ 5. ตั้งแต่วันที่ได้ทำหนังสือบริคนสัญญาแบ่งปันฉบับนี้ อำแดงยิ้มยายผู้แบ่งปัน จีนกิมฮะ จีนกิมติด อำแดงหลี อำแดงแดง จีนกิมฮก จีนกิมจู อำแดงเปียกต้องนับถือหนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นหลักฐาน ถ้าผู้ใดกระทำผิดข้อสัญญาฉบับนี้ก็ให้ฟ้องร้องยังโรงศาล ให้พิจารณาตามบริคนสัญญานี้เทอญ ข้าพเจ้าจดหมายลงชื่อไว้เป็นสำคัญ"
หนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นเรื่องการแบ่งปันทรัพย์มรดกของ ต. และป. ผู้วายชนม์ให้แก่บุตรซึ่งเป็นทายาท ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวมหรือกงสี
คำว่า "ผู้จะได้รับหุ้นส่วน" หมายถึง "ผู้จะได้รับส่วนแบ่ง" นั่นเอง กรณีหาใช่ผู้เป็นหุ้นส่วนนำเงินมาเข้าหุ้นกันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไร อันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2174-2175/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกและการตีความสัญญา ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวม
หนังสือสัญญามีข้อความว่า "อำแดงยิ้มยายผู้รักษาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรบุตรเขยอำแดงเป้อบุตรสาวได้ทำหนังสือบริคนห์สัญญาแบ่งทรัพย์สมบัติของจีนอากรตือบุตรเขยอำแดงเป้อบุตรสาวให้แก่จีนกิมฮะจีนกิมติดอำแดงหลีอำแดงแดงจีนกิมฮกจีนกิมจูอำแดงเปียกหลาน ๆ ได้เห็นชอบและยินยอมพร้อมใจกันตามที่อำแดงยิ้มยายได้แบ่งปันทรัพย์นั้นจึงให้ถ้อยคำทำหนังสือบริคนห์สัญญาไว้ต่อกันมีข้อความดังจะกล่าวต่อไปนี้คือ
ข้อ 1. เดิมจีนตืออากรอำแดงเป้อได้อยู่กินเป็นสามีภริยาได้ประกอบการทำมาหากินด้วยกัน มีทรัพย์สมบัติหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเป็นสวิญญาณกะทรัพย์อวิญญาณกะทรัพย์ครั้นมาณวันแรม 12 ค่ำ เดือน 1 ค่ำปีกุนเอกศกอำแดงเป้อตายณวันที่ขึ้น2ค่ำเดือน4เอกศกจีนตืออากรตาย บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรและของอำแดงเป้อนั้นอำแดงยิ้มได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้ทั้งสิ้น บัดนี้ อำแดงยิ้มจะได้เอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นออกแจกปันให้แก่บุตรจีนตืออากรอำแดงเป้อซึ่งเป็นหลานอำแดงยิ้มเป็นส่วนส่วนดังนี้
ข้อ 2. คือแบ่งปันให้จีนกิมฮะเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่งจีนกิมติดเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่ง อำแดงหลีเงินตราห้าร้อยชั่งอำแดงแดงเงินตราห้าร้อยชั่งจีนกิมฮกเงินตราห้าร้อยชั่งจีนกิมจูเงินตราห้าร้อยชั่งอำแดงเปียกเงินตราห้าร้อยชั่งรวมเป็นเงินที่ได้แบ่งปันนี้เป็นเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่ง
ข้อ 3. บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรอำแดงเป้อ นอกจากเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งได้แบ่งปันนี้ ยังมีอยู่คือ บ้านเรือนสวน นา สิ่งของ ทองรูปพรรณสารกรมธรรมทาษลูกหนี้สวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์อำแดงยิ้มได้แบ่งปันให้กับอำแดงหลีบุตรจีนตืออากรอำแดงเป้อทั้งสิ้นแต่ส่วนทองคำเนื้อแปดให้แบ่งปันกันแก่อำแดงแดงหนักแปดสิบแปดบาทอำแดงเปียกหนักแปดสิบแปดบาทกับเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งจะได้แบ่งปันกันนั้นอำแดงยิ้มยายมอบให้อำแดงหลีหลานเป็นผู้เก็บรักษาไว้สืบไป
ข้อ 4. จีนกิมฮะจีนกิมติดอำแดงหลีอำแดงแดงจีนกิมฮกจีนกิมจู อำแดงเปียกซึ่งเป็นผู้จะได้รับหุ้นส่วนนั้นได้เห็นชอบยินยอมตามที่อำแดงยิ้มยายแบ่งปันตั้งแต่วันทำหนังสือบริคนห์สัญญาฉบับนี้แล้วผู้ซึ่งจะได้รับหุ้นส่วนนั้นเมื่อได้รับเงินตราวันใด ให้ทำหนังสือสำคัญซึ่งเป็นหลักถานให้แก่อำแดงหลีซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์
ข้อ 5. ตั้งแต่วันที่ได้ทำหนังสือบริคนห์สัญญาแบ่งปันฉบับนี้ อำแดงยิ้มยายผู้แบ่งปันจีนกิมฮะจีนกิมติดอำแดงหลีอำแดงแดงจีนกิมฮก จีนกิมจูอำแดงเปียกต้องนับถือหนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นหลักถานถ้าผู้ใดกระทำผิดข้อสัญญาฉบับนี้ก็ให้ฟ้องร้องยังโรงศาลให้พิจารณาตามบริคนห์สัญญาฉบับนี้เทอญ ข้าพเจ้าจดหมายลงชื่อไว้เป็นสำคัญ"
หนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นเรื่องการแบ่งปันทรัพย์มรดกของ ต.และป. ผู้วายชนม์ให้แก่บุตรซึ่งเป็นทายาท ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวมหรือกงสี
คำว่า "ผู้จะได้รับหุ้นส่วน" หมายถึง"ผู้จะได้รับส่วนแบ่ง" นั่นเองกรณีหาใช่ผู้เป็นหุ้นส่วนนำเงินมาเข้าหุ้นกันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไร อันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นไม่
ข้อ 1. เดิมจีนตืออากรอำแดงเป้อได้อยู่กินเป็นสามีภริยาได้ประกอบการทำมาหากินด้วยกัน มีทรัพย์สมบัติหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเป็นสวิญญาณกะทรัพย์อวิญญาณกะทรัพย์ครั้นมาณวันแรม 12 ค่ำ เดือน 1 ค่ำปีกุนเอกศกอำแดงเป้อตายณวันที่ขึ้น2ค่ำเดือน4เอกศกจีนตืออากรตาย บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรและของอำแดงเป้อนั้นอำแดงยิ้มได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้ทั้งสิ้น บัดนี้ อำแดงยิ้มจะได้เอาทรัพย์ที่เก็บรักษาไว้นั้นออกแจกปันให้แก่บุตรจีนตืออากรอำแดงเป้อซึ่งเป็นหลานอำแดงยิ้มเป็นส่วนส่วนดังนี้
ข้อ 2. คือแบ่งปันให้จีนกิมฮะเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่งจีนกิมติดเงินตราสี่ร้อยสี่สิบชั่ง อำแดงหลีเงินตราห้าร้อยชั่งอำแดงแดงเงินตราห้าร้อยชั่งจีนกิมฮกเงินตราห้าร้อยชั่งจีนกิมจูเงินตราห้าร้อยชั่งอำแดงเปียกเงินตราห้าร้อยชั่งรวมเป็นเงินที่ได้แบ่งปันนี้เป็นเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่ง
ข้อ 3. บันดาทรัพย์สมบัติของจีนตืออากรอำแดงเป้อ นอกจากเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งได้แบ่งปันนี้ ยังมีอยู่คือ บ้านเรือนสวน นา สิ่งของ ทองรูปพรรณสารกรมธรรมทาษลูกหนี้สวิญญาณกะทรัพย์ อวิญญาณกะทรัพย์อำแดงยิ้มได้แบ่งปันให้กับอำแดงหลีบุตรจีนตืออากรอำแดงเป้อทั้งสิ้นแต่ส่วนทองคำเนื้อแปดให้แบ่งปันกันแก่อำแดงแดงหนักแปดสิบแปดบาทอำแดงเปียกหนักแปดสิบแปดบาทกับเงินตราสามพันสามร้อยแปดสิบชั่งซึ่งจะได้แบ่งปันกันนั้นอำแดงยิ้มยายมอบให้อำแดงหลีหลานเป็นผู้เก็บรักษาไว้สืบไป
ข้อ 4. จีนกิมฮะจีนกิมติดอำแดงหลีอำแดงแดงจีนกิมฮกจีนกิมจู อำแดงเปียกซึ่งเป็นผู้จะได้รับหุ้นส่วนนั้นได้เห็นชอบยินยอมตามที่อำแดงยิ้มยายแบ่งปันตั้งแต่วันทำหนังสือบริคนห์สัญญาฉบับนี้แล้วผู้ซึ่งจะได้รับหุ้นส่วนนั้นเมื่อได้รับเงินตราวันใด ให้ทำหนังสือสำคัญซึ่งเป็นหลักถานให้แก่อำแดงหลีซึ่งเป็นผู้รักษาทรัพย์
ข้อ 5. ตั้งแต่วันที่ได้ทำหนังสือบริคนห์สัญญาแบ่งปันฉบับนี้ อำแดงยิ้มยายผู้แบ่งปันจีนกิมฮะจีนกิมติดอำแดงหลีอำแดงแดงจีนกิมฮก จีนกิมจูอำแดงเปียกต้องนับถือหนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นหลักถานถ้าผู้ใดกระทำผิดข้อสัญญาฉบับนี้ก็ให้ฟ้องร้องยังโรงศาลให้พิจารณาตามบริคนห์สัญญาฉบับนี้เทอญ ข้าพเจ้าจดหมายลงชื่อไว้เป็นสำคัญ"
หนังสือสัญญาฉบับนี้เป็นเรื่องการแบ่งปันทรัพย์มรดกของ ต.และป. ผู้วายชนม์ให้แก่บุตรซึ่งเป็นทายาท ไม่ใช่การจัดตั้งกองทรัพย์รวมหรือกงสี
คำว่า "ผู้จะได้รับหุ้นส่วน" หมายถึง"ผู้จะได้รับส่วนแบ่ง" นั่นเองกรณีหาใช่ผู้เป็นหุ้นส่วนนำเงินมาเข้าหุ้นกันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไร อันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นไม่