คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1483

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้สามี ยึดทรัพย์สินภริยาไม่ได้ หากหนี้ไม่ใช่หนี้ร่วม
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของสามี ไม่มีสิทธิจะยึดทรัพย์สินอันเป็นสินเดิมของภริยา ถ้าหนี้ที่สามีก่อขึ้นนั้น มิใช่เป็นหนี้ร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ของภรรยา: เจ้าหนี้ต้องขอแยกส่วนก่อนยึด
ตามมาตรา 41 หญิงมีสามีจะทำการผูกพันถึงสินบริคณห์ได้ก็แต่เฉพาะที่เป็นส่วนของตนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าหนี้ที่หญิงมีสามีก่อขึ้น ไม่เป็นหนี้ร่วมตามที่ระบุไว้ในป.ม.แพ่งฯมาตรา 1482 แล้ว เจ้าหนี้ของหญิงมีสามีจะยึดสินบริคณห์มาชำระหนี้ตนไม่ได้ จำต้องร้องขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของหญิงมีสามีก่อน เพื่อเอาชำระหนี้แก่ตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ของภริยา: สิทธิของเจ้าหนี้และขอบเขตการบังคับ
ตามมาตรา 41 หญิงมีสามีจะทำการผูกพันถึงสินบริคณห์ได้ก็แต่เฉพาะที่เป็นส่วนของตนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าหนี้ที่หญิงมีสามีก่อขึ้น ไม่เป็นหนี้ร่วมตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 แล้ว เจ้าหนี้ของหญิงมีสามีจะยึดสินบริคณห์มาชำระหนี้ตนไม่ได้ จำต้องร้องขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของหญิงมีสามีก่อน เพื่อเอาชำระหนี้แก่ตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม ม.1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตาม ม.1483 ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ กรณีสามีไม่ได้ยินยอมและบอกล้าง
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้นโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม มาตรา 1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตามมาตรา 1483ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหนี้จากการกู้เงินโดยภรรยาโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามี และการแยกสินบริคณห์
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรส ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆียะ และเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากสินสมรส
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างนิติกรรมโมฆียะและการเรียกร้องเงินจากกองมฤดก: ผู้รับมรดกต้องรับผิดในหนี้สิน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้ว หญิงต้องคืนเงินนั้นตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมโมฆียะ การบอกล้าง และการคืนเงิน - หนี้สินที่เกิดจากตัวแทน
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้วหญิงต้องคืนเงินนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมรดกใช้เงินไม่ได้ ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกสินบริคนห์เพื่อใช้หนี้และการฟ้องซ้ำ สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์สินบริคนห์
เจ้าหนี้ยึดสินบริคนห์ระหว่างจำเลยกับสามีสามีร้องขัดทรัพย์อ้างว่านิติกัมที่ภรรยาทำเปนโมคียะ ไม่ผูกพันสินบริคนห์สาลสั่งถอนการยึดไปตามคำร้องขัดทรัพย์ เจ้าหนี้มาฟ้องขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยานั้นไหม่ได้ ไม่เปนฟ้องซ้ำ
เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคนห์ของลูกหนี้ตาม ม. 1483 นั้นไม่จำต้องขอขนะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้สาลไห้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้
ไนกรนีที่ขอแยกสินบริคนห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อไช้หนี้ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายไห้คนพายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารนาว่าจิงหรือไม่ เพราะถ้าจิงก็ไม่ไช่สินบริคนห์จะขอแยกไม่ได้.
of 5