พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5067/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกาไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา จึงชอบอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์
ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 223 ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา 193
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอัยการจำกัดเฉพาะคดีผิดสัญญาประกันหลังคดีถึงที่สุด เมื่อไม่มีผิดสัญญา อัยการไม่มีอำนาจฎีกา
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งสามชั่วคราวระหว่างสอบสวน โดย ฉ. ผู้ประกันได้วางหลักประกันเป็นเงินสด 60,000 บาท และทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลชั้นต้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ฉ. มาขอหลักประกันคืน ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนหลักประกันแก่ผู้ประกัน ดังนี้ พนักงานอัยการจะฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการเกี่ยวกับสัญญาประกันนั้นมีเฉพาะกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันแต่เมื่อความรับผิดตามสัญญาประกันของ ฉ. สิ้นสุดลงแล้ว อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกันก็ย่อมเป็นอันสิ้นสุดลงด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4409/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม การแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาเดิม
จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2529 ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกา จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำสั่ง ต่อมาวันที่ 11 ธันวาคม 2529 จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาโดยไม่ได้ฎีกาใหม่ต่างหากจากฉบับเดิม ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาแล้ว ก็ไม่มีฎีกาที่จะแก้ไขเพิ่มเติมได้แม้จะอยู่ในกำหนดระยะเวลาที่จำเลยจะฎีกาได้ก็ตาม การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาของจำเลย จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4409/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ถูกสั่งไม่รับแล้ว แก้ไขเพิ่มเติมไม่ได้ แม้ยังอยู่ในกำหนด
จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2529 ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกา จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อมาวันที่ 11 ธันวาคม 2529 จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาโดยไม่ได้ฎีกาใหม่ต่างหากจากฉบับเดิม ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาแล้วก็ไม่มีฎีกาที่จะแก้ไขเพิ่มเติมได้แม้จะอยู่ในกำหนดระยะเวลาที่จำเลยจะฎีกาได้ก็ตาม การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาของจำเลย จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นอุทธรณ์แก้ไข – อุทธรณ์ใหม่ไม่มีสภาพเป็นอุทธรณ์ – คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุด
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าอุทธรณ์ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ จึงไม่รับโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ แล้วต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ใหม่อีก 1 ฉบับ (ภายในอายุความอุทธรณ์) ขอให้ศาลชั้นต้นรวมสำนวนส่งไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป ดังนี้ เมื่อปรากฏความประสงค์อันชัดแจ้งของโจทก์ที่ยื่นอุทธรณ์ฉบับใหม่เข้ามาเพื่อจะขอแก้อุทธรณ์ฉบับเดิมและให้ถือเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่เป็นส่วนหนึ่งของอุทธรณ์ฉบับเดิม มิใช่เป็นการยื่นอุทธรณ์ใหม่เป็นอีกฉบับหนึ่งแยกต่างหากจากฉบับเดิม อุทธรณ์ฉบับใหม่หาได้มีสภาพเป็นอุทธรณ์โดยแท้ไม่ หากมีสภาพเป็นทำนองคำแถลงประกอบอุทธรณ์ฉบับเดิมเท่านั้น และอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ศาลสั่งไม่รับก็ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ทั้งคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้วมีผลเท่ากับไม่มีอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นหลักอ้างอิงที่จะนำเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่ประกอบการพิจารณา จึงไม่มีปัญหาจะต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ฉบับใหม่มีสภาพเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่จะรับอุทธรณ์ฉบับใหม่ของโจทก์ไว้ตามที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาก็ไม่มีประโยชน์อันใดอันจะพึงเกิดแก่คดีของโจทก์ จึงไม่รับอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นอุทธรณ์ซ้ำและการแก้ไขอุทธรณ์เดิม ศาลไม่รับเนื่องจากอุทธรณ์เดิมไม่สมบูรณ์และไม่มีผลต่อการพิจารณา
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าอุทธรณ์ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ จึงไม่รับโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ แล้วต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ใหม่อีก 1 ฉบับ (ภายในอายุความอุทธรณ์) ขอให้ศาลชั้นต้นรวมสำนวนส่งไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป ดังนี้ เมื่อปรากฏความประสงค์อันชัดแจ้งของโจทก์ที่ยื่นอุทธรณ์ฉบับใหม่เข้ามาเพื่อจะขอแก้อุทธรณ์ฉบับเดิมและให้ถือเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่เป็นส่วนหนึ่งของอุทธรณ์ฉบับเดิม มิใช่เป็นการยื่นอุทธรณ์ใหม่เป็นอีกฉบับหนึ่งแยกต่างหากจากฉบับเดิม อุทธรณ์ฉบับใหม่หาได้มีสภาพเป็นอุทธรณ์โดยแท้ไม่ หากมีสภาพเป็นทำนองคำแถลงประกอบอุทธรณ์ฉบับเดิมเท่านั้น และอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ศาลสั่งไม่รับก็ไม่มีข้อความเป็นอุทธรณ์ทั้งคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้ว มีผลเท่ากับไม่มีอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นหลักอ้างอิงที่จะนำเอาอุทธรณ์ฉบับใหม่ประกอบการพิจารณา จึงไม่มีปัญหาจะต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ฉบับใหม่มีสภาพเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ฉนั้นการที่จะรับอุทธรณ์ฉบับใหม่ของโจทก์ไว้ตามที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาก็ไม่มีประโยชน์อันใดอันจะพึงเกิดแก่คดีของโจทก์ จึงไม่รับอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขอุทธรณ์ที่ผิดพลาด: ศาลชอบที่จะกำหนดเวลาให้จำเลยยื่นอุทธรณ์ใหม่ได้ ไม่เป็นการยืดเวลา
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้วแต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควรการที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควรการที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องอุทธรณ์ที่ผิดพลาด: ศาลมีอำนาจกำหนดเวลาให้แก้ไขได้ ไม่ถือเป็นการยืดเวลา
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้ว แต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา แม้ศาลชั้นต้นเป็นศาลแขวง และการใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คดีอาญา: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากคำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุด
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2503)