พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่าจากพฤติกรรมร้ายแรง: การประพฤติชั่ว ติดยาเสพติด และกลั่นแกล้งครอบครัว
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยประพฤติชั่ว ติดยาเสพติดและประพฤติตัวเป็นนักเลงอันธพาล ไม่ยอมทำมาหากิน ไม่ยอมทำนาเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวและหาความเดือนร้อนมาสู่ครอบครัวอยู่เสมอ และได้กลั่นแกล้งโจทก์และลูก ๆ โดยการไม่ยอมให้เข้าทำนาเมื่อถึงฤดูทำนา ฯลฯ" เช่นนี้ อย่างน้อยก็ตีความได้ว่าจำเลยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันเป็นเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนในการสู่ขอ, การโอนกรรมสิทธิ์เรือน, เหตุหย่าจากการหมิ่นประมาทและการทำร้ายร่างกาย
จำเลยที่ 1 กับที่ 2 เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 3 ได้สู่ขอโจทก์ให้เป็นภรรยาจำเลยที่ 3 ในการสู่ขอนั้นจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ได้ตกลงจะยกที่นา 10 ไร่ให้โจทก์ เป็นการตอบแทนการที่โจทก์ยอมสมรสกับจำเลยที่ 3 จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งใช้บังคับกันได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 295/2491)
หลังจากโจทก์กับจำเลยที่ 3 สมรสกันแล้ว จำเลยที่1 กับที่ 2 ได้ปลูกเรือนพิพาทโดยเจตนาจะยกให้โจทก์กับจำเลยที่ 3 แต่มิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ยกให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 เรือนพิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 กับที่ 2 อยู่
จำเลยที่ 3 ด่าโจทก์และมารดาโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเตะและตบทำร้ายร่างกายโจทก์ หมิ่นประมาทโจทก์ว่ามีชู้บุตรที่เกิดก็ว่าเกิดกับชู้ หมิ่นประมาทมารดาโจทก์ว่าเป็นหญิงสำส่อนให้ชาวบ้านร่วมประเวณี อันเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้
หลังจากโจทก์กับจำเลยที่ 3 สมรสกันแล้ว จำเลยที่1 กับที่ 2 ได้ปลูกเรือนพิพาทโดยเจตนาจะยกให้โจทก์กับจำเลยที่ 3 แต่มิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ยกให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 เรือนพิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 กับที่ 2 อยู่
จำเลยที่ 3 ด่าโจทก์และมารดาโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเตะและตบทำร้ายร่างกายโจทก์ หมิ่นประมาทโจทก์ว่ามีชู้บุตรที่เกิดก็ว่าเกิดกับชู้ หมิ่นประมาทมารดาโจทก์ว่าเป็นหญิงสำส่อนให้ชาวบ้านร่วมประเวณี อันเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน, การยกทรัพย์สิน, เหตุหย่าจากการทำร้ายร่างกายและหมิ่นประมาท, กรรมสิทธิ์ในเรือน
จำเลยที่ 1 กับที่ 2 เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 3 ได้สู่ขอโจทก์ให้เป็นภรรยาจำเลยที่ 3 ในการสู่ขอนั้นจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ได้ตกลงจะยกที่นา 10 ไร่ให้โจทก์ เป็นการตอบแทนการที่โจทก์ยอมสมรสกับจำเลยที่ 3 จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งใช้บังคับกันได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 295/2491)
หลังจากโจทก์กับจำเลยที่ 3 สมรสกันแล้ว จำเลยที่1 กับที่ 2 ได้ปลูกเรือนพิพาทโดยเจตนาจะยกให้โจทก์กับจำเลยที่ 3 แต่มิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ยกให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 เรือนพิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 กับที่ 2 อยู่
จำเลยที่ 3 ด่าโจทก์และมารดาโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเตะและตบทำร้ายร่างกายโจทก์ หมิ่นประมาทโจทก์ว่ามีชู้บุตรที่เกิดก็ว่าเกิดกับชู้ หมิ่นประมาทมารดาโจทก์ว่าเป็นหญิงสำส่อนให้ชาวบ้านร่วมประเวณี อันเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้
หลังจากโจทก์กับจำเลยที่ 3 สมรสกันแล้ว จำเลยที่1 กับที่ 2 ได้ปลูกเรือนพิพาทโดยเจตนาจะยกให้โจทก์กับจำเลยที่ 3 แต่มิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ยกให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 เรือนพิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 กับที่ 2 อยู่
จำเลยที่ 3 ด่าโจทก์และมารดาโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเตะและตบทำร้ายร่างกายโจทก์ หมิ่นประมาทโจทก์ว่ามีชู้บุตรที่เกิดก็ว่าเกิดกับชู้ หมิ่นประมาทมารดาโจทก์ว่าเป็นหญิงสำส่อนให้ชาวบ้านร่วมประเวณี อันเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าจากพฤติกรรมหมิ่นประมาทในสภาวะจิตป่วย: ศาลพิจารณาเหตุผลทางจิตเวชประกอบ
ภรรยาซึ่งเป็นโรคจิตเภท โกรธสามีเนื่องจากสามีมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นและคืนเกิดเหตุ ยากันยุงไหม้ผ้าห่มนวมที่ภรรยาห่มภรรยาเข้าใจว่าสามีจะเผาตน ได้รับความกดดันทางจิตอย่างรุนแรงจนโรคจิตกำเริบถึงขนาดคลุ้มคลั่ง ได้ด่าสามีในขณะนั้นว่า 'อ้ายสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานยังดีกว่ามึงอีก' เมื่อบิดามารดาสามีเข้ามาห้าม ก็ด่าบิดาสามีว่า 'อ้ายไหหลำ มึงอย่ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย'และด่ามารดาสามีว่า 'อีแก่อย่ามายุ่งกับกู' ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทสามีและบุพการีของสามีอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้สามีฟ้องหย่าได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าขาดจากกัน: คำพูดหมิ่นประมาทจากผู้ป่วยจิตเภทภายใต้ความกดดันทางจิต
ภรรยาซึ่งเป็นโรคจิตเภท โกรธสามีเนื่องจากสามีมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นและคืนเกิดเหตุ ยากันยุงไหม้ผ้าห่มนวมที่ภรรยาห่มภรรยาเข้าใจว่าสามีจะเผาตน ได้รับความกดดันทางจิตอย่างรุนแรงจนโรคจิตกำเริบถึงขนาดคลุ้มคลั่ง ได้ด่าสามีในขณะนั้นว่า "อ้ายสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานยังดีกว่ามึงอีก" เมื่อบิดามารดาสามีเข้ามาห้าม ก็ด่าบิดาสามีว่า "อ้ายไหหลำ มึงอย่ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย" และด่ามารดาสามีว่า "อีแก่ อย่ามายุ่งกับกู" ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทสามีและบุพการีของสามีอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้สามีฟ้องหย่าได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1500(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องหย่าฐานหมิ่นประมาท: ข้อความหมิ่นประมาทไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดในฟ้องแพ่ง
คำฟ้องซึ่งกล่าวอ้างถึงเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1500 (2) ในเหตุหมิ่นประมาทนั้น ไม่เหมือนคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) วรรคสองบัญญัติไว้เป็นพิเศษให้กล่าวถึงถ้อยคำพูดอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทโดยบริบูรณ์ ฉะนั้น เมื่อฟ้องโจทก์บรรยายเหตุหย่าไว้ชัดว่าจำเลยด่าว่าหมิ่นประมาทโจทก์และบิดามารดาโจทก์ซึ่งเป็นการร้ายแรงครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500 (2)บังคับไว้ย่อมเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1025/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องหย่าฐานหมิ่นประมาท: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อบรรยายเหตุร้ายแรงครบถ้วน
คำฟ้องซึ่งกล่าวอ้างถึงเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) ในเหตุหมิ่นประมาทนั้น ไม่เหมือนคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) วรรคสองบัญญัติไว้เป็นพิเศษให้กล่าวถึงถ้อยคำพูดอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทโดยบริบูรณ์ ฉะนั้น เมื่อฟ้องโจทก์บรรยายเหตุหย่าไว้ชัดว่าจำเลยด่าว่าหมิ่นประมาทโจทก์และบิดามารดาโจทก์ซึ่งเป็นการร้ายแรง ครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) บังคับไว้ย่อมเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1025/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทบุพการีของภริยาเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
สามีด่าหมิ่นประมาทบิดาของภริยาว่า "โคตรของหลวงสมานนี้เลวทั้งโคตรคบไม่ได้" ดังนี้ นับว่าเป็นการหมิ่นประมาทบุพการีของภริยาซึ่งเป็นการร้ายแรงตามกฎหมายแล้ว ภริยายกขึ้นเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การด่าหมิ่นประมาทบุพการีคู่กรณีเป็นเหตุหย่าได้ตามกฎหมาย
สามีด่าหมิ่นประมาทบิดาของภริยาว่า "โคตรของหลวงสมานนี้เลวทั้งโคตรคบไม่ได้" ดังนี้ นับว่าเป็นการหมิ่นประมาทบุพการีของภริยา ซึ่งเป็นการร้ายแรงตามกฎหมายแล้ว ภริยายกขึ้นเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุหย่าได้ กรณีกล่าวหาประพฤติผิดศีลธรรม
จำเลยเขียนข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ว่า โจทก์เป็นคนดอกทอง จำเลยมีปากเสียงกับโจทก์บ่อยๆ 3 วันครั้งบ้าง 5 วันครั้งบ้าง เพราะระแวงว่าโจทก์ไปติดต่อกับชายอื่น แม้ในวันแต่งงานเมื่อจำเลยทราบว่าโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นจำเลยไม่พอใจมากพอตกกลางคืนก็ว่าโจทก์คงทำมิดีมิร้าย คือ คงจะได้เสียกับชายอื่นต่อมาอีก 2-3 วันก็ว่าโจทก์อีก และว่าโจทก์ดอกทอง เป็นผู้หญิงไม่ดีจำเลยด่าว่าโจทก์บ่อยๆ กับว่าถึงพ่อแม่โจทก์ว่าไม่ดี ไม่สั่งสอนลูกด้วยดังนี้ เห็นว่าที่จำเลยด่าโจทก์เพราะโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นในวันแต่งงานกับจำเลยจำเลยข้องใจเชื่อว่าโจทก์คงได้เสียกับชายคนนั้น จึงว่าโจทก์ว่าคงได้เสียกันต่อมาก็ว่าโจทก์ทำนองเดียวกันอีกที่จำเลยด่าโจทก์ว่า คนดอกทอง มีความหมายว่าโจทก์ประพฤติตนเป็นหญิงใจง่ายในทางประเวณี มิใช่เป็นเพียงผรุสวาจาและมิใช่เป็นการด่าว่าด้วยมีโทสะจริตวู่วามขึ้นมาขณะหนึ่งหากแต่จำเลยด่าว่าโจทก์บ่อยๆ ซึ่งย่อมเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทางจิตใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นๆเช่นนี้ การกระทำของจำเลยตั้งแต่ต้นจนถึงในที่สุดรวมกันชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำด้วยเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์และเป็นการร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2)