พบผลลัพธ์ทั้งหมด 53 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3958/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทวงหนี้และการตั้งตัวแทนทวงหนี้ ไม่ต้องทำเป็นหนังสือเพื่อใช้ในการฟ้องล้มละลาย
การทวงหนี้ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อให้ทวงถามหนี้สินจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำเป็นหนังสือหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือ
การทวงถามหนี้สินตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 8(9)เป็นการทวงถามหนี้สินตามปกติประการหนึ่ง แต่กรณีที่เจ้าหนี้จะได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมาย การทวงถามจะต้องทำเป็นหนังสือ โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นหนังสือของเจ้าหนี้โดยตรง อาจเป็นหนังสือของตัวแทนเจ้าหนี้ก็ได้ และการที่เจ้าหนี้มอบหมายให้ตัวแทนทวงถามลูกหนี้ก็ไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือ
การทวงถามหนี้สินตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 8(9)เป็นการทวงถามหนี้สินตามปกติประการหนึ่ง แต่กรณีที่เจ้าหนี้จะได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมาย การทวงถามจะต้องทำเป็นหนังสือ โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นหนังสือของเจ้าหนี้โดยตรง อาจเป็นหนังสือของตัวแทนเจ้าหนี้ก็ได้ และการที่เจ้าหนี้มอบหมายให้ตัวแทนทวงถามลูกหนี้ก็ไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัย-หนี้สินล้นพ้นตัว: ศาลยืนตามเดิม เหตุผลการขาดส่งมอบน้ำมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย และการส่งหนังสือทวงถามชอบแล้ว
การที่จำเลยไม่สามารถหาเรือมาบรรทุกน้ำมันเพื่อส่งมอบให้โจทก์ได้นั้นเป็นเรื่องด้อยความสามารถของจำเลยเองและการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นเป็นเหตุให้จำเลยขาดทุนก็เป็นธรรมดาของการค้าขายซึ่งอาจจะมีทั้งกำไรและขาดทุน พฤติการณ์ดังกล่าวมิใช่เหตุสุดวิสัยตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นค่าปรับซึ่งสามารถคำนวณได้จากปริมาณน้ำมันที่จำเลยไม่สามารถส่งมอบให้โจทก์ได้ครบจำนวนที่สั่งซื้อ ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนตามมาตรา9(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องสืบพยานให้เห็นว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่
เมื่อผู้จัดการบริษัทจำเลยได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ทั้งสองฉบับจากโจทก์แล้ว แม้หนังสือนั้นได้ส่งไปยังที่อยู่ของผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาอันเป็นที่ตั้งของบริษัทจำเลยก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้รับหนังสือทวงถามดังกล่าวโดยชอบแล้ว และหนังสือทั้งสองฉบับนี้ได้ส่งในระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน จำเลยไม่ชำระหนี้ตามหนังสือทวงถาม กรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 8(9) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฟังได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
การที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยโดยปิดไว้ ณสำนักงานบริษัทจำเลยตามที่จดทะเบียนไว้นั้น เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นค่าปรับซึ่งสามารถคำนวณได้จากปริมาณน้ำมันที่จำเลยไม่สามารถส่งมอบให้โจทก์ได้ครบจำนวนที่สั่งซื้อ ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนตามมาตรา9(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องสืบพยานให้เห็นว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่
เมื่อผู้จัดการบริษัทจำเลยได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ทั้งสองฉบับจากโจทก์แล้ว แม้หนังสือนั้นได้ส่งไปยังที่อยู่ของผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาอันเป็นที่ตั้งของบริษัทจำเลยก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้รับหนังสือทวงถามดังกล่าวโดยชอบแล้ว และหนังสือทั้งสองฉบับนี้ได้ส่งในระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน จำเลยไม่ชำระหนี้ตามหนังสือทวงถาม กรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 8(9) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฟังได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
การที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยโดยปิดไว้ ณสำนักงานบริษัทจำเลยตามที่จดทะเบียนไว้นั้น เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้มละลาย: เหตุสุดวิสัย, จำนวนหนี้, การส่งหนังสือทวงถาม, และการส่งสำเนาคำฟ้อง
การที่จำเลยไม่สามารถหาเรือมาบรรทุกน้ำมันเพื่อส่งมอบให้โจทก์ได้นั้นเป็นเรื่องด้อยความสามารถของจำเลยเอง และการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นเป็นเหตุให้จำเลยขาดทุนก็เป็นธรรมดาของการค้าขายซึ่งอาจจะมีทั้งกำไรและขาดทุน พฤติการณ์ดังกล่าวมิใช่เหตุสุดวิสัยตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นค่าปรับซึ่งสามารถคำนวณได้จากปริมาณน้ำมันที่จำเลยไม่สามารถส่งมอบให้โจทก์ได้ครบจำนวนที่สั่งซื้อ ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนตามมาตรา 9(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องสืบพยานให้เห็นว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่
เมื่อผู้จัดการบริษัทจำเลยได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ทั้งสองฉบับจากโจทก์แล้ว แม้หนังสือนั้นได้ส่งไปยังที่อยู่ของผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาอันเป็นที่ตั้งของบริษัทจำเลยก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้รับหนังสือทวงถามดังกล่าวโดยชอบแล้ว และหนังสือทั้งสองฉบับนี้ได้ส่งในระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน จำเลยไม่ชำระหนี้ตามหนังสือทวงถามกรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 8(9) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฟังได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
การที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยโดยปิดไว้ ณ สำนักงานบริษัทจำเลยตามที่จดทะเบียนไว้นั้น เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นค่าปรับซึ่งสามารถคำนวณได้จากปริมาณน้ำมันที่จำเลยไม่สามารถส่งมอบให้โจทก์ได้ครบจำนวนที่สั่งซื้อ ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนตามมาตรา 9(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องสืบพยานให้เห็นว่าโจทก์เสียหายเพียงใดหรือไม่
เมื่อผู้จัดการบริษัทจำเลยได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ทั้งสองฉบับจากโจทก์แล้ว แม้หนังสือนั้นได้ส่งไปยังที่อยู่ของผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาอันเป็นที่ตั้งของบริษัทจำเลยก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้รับหนังสือทวงถามดังกล่าวโดยชอบแล้ว และหนังสือทั้งสองฉบับนี้ได้ส่งในระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน จำเลยไม่ชำระหนี้ตามหนังสือทวงถามกรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 8(9) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฟังได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
การที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยโดยปิดไว้ ณ สำนักงานบริษัทจำเลยตามที่จดทะเบียนไว้นั้น เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2278/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ตามคำพิพากษา: การบังคับคดีและการสะดุดหยุดอายุความ
การที่โจทก์ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา ถือได้ว่าเป็นการทำการอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดีเพื่อให้ใช้หนี้ตามที่เรียกร้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 อายุความจึงสะดุดหยุดลง จำเลยทั้งสามร้องคัดค้านการขายทอดตลาดและใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อมา เมื่อคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาฎีกาอายุความจึงเริ่มนับใหม่แต่เวลานั้นสืบไป ดังนั้นนับแต่วันศาลฎีกาพิพากษาถึงวันที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลดังกล่าวจึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทวงหนี้ก่อนสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ยืมเกิดขึ้น ไม่ถือเป็นเหตุล้มละลาย
จำเลยที่ 1 ขอยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปจำนองเป็นประกันหนี้ที่จำเลยที่ 1 กู้ยืมจากธนาคาร โดยจำเลยที่ 1 จ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง และทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้แก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ตกลงกับโจทก์เป็นหนังสือว่าจะจัดการโอนที่ดินคืนให้โจทก์ภายใน 1 ปี มิฉะนั้นยอมให้โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ตามสัญญาที่ทำให้โจทก์ไว้ได้ ก่อนครบกำหนด 1 ปี โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยสองครั้งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แล้วอ้างเหตุดังกล่าวมาฟ้องให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย ดังนี้ การทวงถามทั้งสองครั้งดังกล่าวจำเลยทั้งสองยังไม่มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามของโจทก์ให้ชำระหนี้รายนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน อันจะเป็นเหตุทำให้จำเลยทั้งสองตกอยู่ในข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(9)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ยังไม่ถึงกำหนดฟ้อง การทวงหนี้ก่อนกำหนดไม่ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
จำเลยที่ 1 ขอยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปจำนองเป็นประกันหนี้ที่จำเลยที่ 1 กู้ยืมจากธนาคาร โดยจำเลยที่ 1 จ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งและทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้แก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ตกลงกับโจทก์เป็นหนังสือว่าจะจัดการโอนที่ดินคืนให้โจทก์ภายใน 1 ปี มิฉะนั้นยอมให้โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ตามสัญญาที่ทำให้โจทก์ไว้ได้ ก่อนครบกำหนด 1 ปี โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยสองครั้งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วันแล้วอ้างเหตุดังกล่าวมาฟ้องให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายดังนี้ การทวงถามทั้งสองครั้งดังกล่าว จำเลยทั้งสองยังไม่มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามของโจทก์ให้ชำระหนี้รายนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน อันจะเป็นเหตุทำให้จำเลยทั้งสองตกอยู่ในข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(9)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อสันนิษฐานการเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจากหนังสือทวงถามหนี้
ก่อนฟ้องโจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้จำนวนเกินกว่า 30,000 บาทแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ โดยจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ กรณีจึงเข้าข้อสันนิษฐานตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8 (9) ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสันนิษฐานภาวะล้มละลายจากหนังสือทวงถามหนี้และการไม่ต่อสู้คดี
ก่อนฟ้องโจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้จำนวนเกินกว่า 30,000 บาทแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ โดยจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ กรณีจึงเข้าข้อสันนิษฐานตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 8(9) ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวหนี้ก่อนฟ้องล้มละลาย ไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นเพียงเหตุสันนิษฐาน
การบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8 (9) นั้น เป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาทวงหนี้ตาม พรบ.ล้มละลาย และการฟ้องผู้ถือหุ้นไม่จำกัดความรับผิด
คำว่า "ซึ่งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน" ในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 8(9) หมายความว่าในระหว่างการทวงถามครั้งแรกกับครั้งที่สองต้องมีระยะเวลาสามสิบวันเท่านั้น
โจทก์อาจฟ้องผู้ถือหุ้นชนิดไม่จำกัดความรับผิดให้ล้มละลายพร้อมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ โดยโจทก์ไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 89 ก่อน
โจทก์อาจฟ้องผู้ถือหุ้นชนิดไม่จำกัดความรับผิดให้ล้มละลายพร้อมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ โดยโจทก์ไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 89 ก่อน