พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971-980/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค: การบรรยายฟ้องต้องระบุรายละเอียดการปฏิเสธจ่ายเงิน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งให้ธนาคารหนึ่งจ่ายเงินให้ผู้เสียหายมีวันเดือนปีและเวลาและจำนวนเงินที่จำเลยสั่งธนาคารนั้นจ่ายให้ผู้เสียหายผู้เสียหายไปรับเงินธนาคารนั้นปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951-952/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานี้วินิจฉัยเรื่องพินัยกรรมฉบับพิพาท ความถูกต้องของลายมือชื่อ และการเปลี่ยนแปลงเจตนาเดิมของผู้ทำพินัยกรรม
โจทก์ฟ้องขอทำลายพินัยกรรม อ้างว่าปลอมหรือทำโดยสำคัญผิดจำเลยให้การว่า เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ โจทก์ขอแก้ฟ้องยืนยันว่าเป็นพินัยกรรมปลอมอย่างเดียว จำเลยไม่ให้การอย่างไรอีก ดังนี้จะถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไม่ถนัด เพราะจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้ไว้ในชั้นแรกแล้ว
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ไม่ขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดใน 15 วัน ศาลไม่สั่งจำหน่ายคดีก็ได้
ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงมาโดยละเอียด แล้วลงท้ายว่าผู้ตายไม่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือในพินัยกรรมหรือจำเลยแอบกดลายนิ้วมือผู้ตายลงโดยผู้ตายไม่รู้ตัวขอให้แสดงว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะเป็นที่เข้าใจว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ทายาทโดยธรรม ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรมได้แม้จะมีพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่งซึ่งโจทก์ไม่มีส่วนได้รับมรดกเลยก็ตาม
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ไม่ขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดใน 15 วัน ศาลไม่สั่งจำหน่ายคดีก็ได้
ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงมาโดยละเอียด แล้วลงท้ายว่าผู้ตายไม่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือในพินัยกรรมหรือจำเลยแอบกดลายนิ้วมือผู้ตายลงโดยผู้ตายไม่รู้ตัวขอให้แสดงว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะเป็นที่เข้าใจว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ทายาทโดยธรรม ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรมได้แม้จะมีพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่งซึ่งโจทก์ไม่มีส่วนได้รับมรดกเลยก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นข้อเท็จจริง, อายุความแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา
มีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 185 เป็นบทบัญญัติเรื่องการขยายอายุความที่จะสิ้นสุดลงในระหว่างเป็นสามีภริยากันอยู่ให้ขยายต่อไปอีก 1 ปี ไม่ใช่เป็นเรื่องว่าถ้าทรัพย์ระหว่างสามีภริยาตกอยู่แก่ฝ่ายใดเกิน 1 ปีแล้ว ฝ่ายนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินระหว่างสามีที่จะต้องแบ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1512 นั้นไม่มีกำหนดเวลาระบุไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ม.164
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 185 เป็นบทบัญญัติเรื่องการขยายอายุความที่จะสิ้นสุดลงในระหว่างเป็นสามีภริยากันอยู่ให้ขยายต่อไปอีก 1 ปี ไม่ใช่เป็นเรื่องว่าถ้าทรัพย์ระหว่างสามีภริยาตกอยู่แก่ฝ่ายใดเกิน 1 ปีแล้ว ฝ่ายนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินระหว่างสามีที่จะต้องแบ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1512 นั้นไม่มีกำหนดเวลาระบุไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ม.164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาและการพิสูจน์เจตนาทุจริต
มีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ป.พ.พ. มาตรา 185 เป็นบทบัญญัติเรื่องการขยายอายุความที่จะสิ้นสุดลงในระหว่างเป็นสามีภริยากันอยู่ให้ขยายต่อไปอีก 1 ปีไม่ใช่เป็นเรื่องว่าถ้าทรัพย์ระหว่างสามีภริยาตกอยู่แก่ฝ่ายใดเกิน 1 ปีแล้ว ฝ่ายนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่จะต้องแบ่งตาม ป.พ.พ. ม.1512 นั้นไม่มีกำหนดเวลาระบุไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตาม ม.164.
ป.พ.พ. มาตรา 185 เป็นบทบัญญัติเรื่องการขยายอายุความที่จะสิ้นสุดลงในระหว่างเป็นสามีภริยากันอยู่ให้ขยายต่อไปอีก 1 ปีไม่ใช่เป็นเรื่องว่าถ้าทรัพย์ระหว่างสามีภริยาตกอยู่แก่ฝ่ายใดเกิน 1 ปีแล้ว ฝ่ายนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่จะต้องแบ่งตาม ป.พ.พ. ม.1512 นั้นไม่มีกำหนดเวลาระบุไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตาม ม.164.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับในคดีปรับ หากศาลลงโทษจำคุกสถานเดียว สิทธิการได้รับสินบนย่อมตกไป
กฎหมายมาตรานี้ได้บัญญัติเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและรางวัลไว้ว่าให้แบ่งจ่ายจากค่าปรับสี่ส่วนในห้าถ้าผู้กระทำผิดถูกลงโทษปรับแล้วไม่ชำระค่าปรับจึงให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดของกลางแต่ถ้าผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกลงโทษปรับโดยถูกลงโทษจำคุกสถานเดียวก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นเงินค่าสินบนและรางวัลให้แก่ผู้นำจับและผู้จับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายสินบนและรางวัลจากค่าปรับหรือการขายทอดตลาดของกลางในคดีลักลอบนำเข้าสินค้า
กฎหมายมาตรานี้ได้บัญญัติเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและรางวัลไว้ว่า ให้แบ่งจ่ายจากค่าปรับสี่ส่วนในห้า ถ้าผู้กระทำผิดถูกลงโทษปรับแล้วไม่ชำระค่าปรับ จึงให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดของกลางแต่ถ้าผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกลงโทษปรับโดยถูกลงโทษจำคุกสถานเดียว ก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นเงินค่าสินบนและรางวัลให้แก่ผู้นำจับและผู้จับได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายสินบนและรางวัลจากค่าปรับหรือเงินจากการประมูลของกลาง ต้องมีคำพิพากษาลงโทษปรับก่อน จึงจะคำนวณจ่ายได้
การจ่ายเงินสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตาม พ.ร.บ. ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) 2490 มาตรา 3 นั้น ถ้าศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียว แม้จะได้ประมูลขายของกลางที่ถูกริบเป็นเงินมาแล้วก็ตาม ก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินค่าสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับได้ เพราะผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกปรับก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นค่าสินบนและรางวัลให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายสินบนและรางวัลผู้นำจับเมื่อศาลลงโทษจำคุก โดยไม่มีการปรับ
การจ่ายเงินสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตามพ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3)2490 มาตรา 3 นั้น ถ้าศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียว แม้จะได้ประมูลขายของกลางที่ถูกริบเป็นเงินมาแล้วก็ตามก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินค่าสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับได้เพราะผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกปรับก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นค่าสินบนและรางวัลให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างนิติกรรมโมฆียะเฉพาะสามีเมื่อภรรยามีส่วนร่วมในสินบริคณห์
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรม, เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วย ป.พ.พ.มาตรา 137 วรรค 2 จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้ และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน ม.137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมในนิติกรรมเกี่ยวกับสินบริคณห์: สามีมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรมเหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรคสอง จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้