พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในประเด็นกรรมสิทธิ์ที่เคยมีคำพิพากษาแล้ว ศาลยกฟ้องเนื่องจากเป็นการนำสืบเหตุผลเดิมที่ไม่สมบูรณ์
ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 ได้เกี่ยวเป็นคู่ความในคดีพิพาทเรื่องที่ดินรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้วและศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดในคดีนั้นไว้แล้วว่าจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ได้ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนสิทธิแล้วโจทก์ทั้งสองจะหยิบยกเอาการครอบครองโดยปรปักษ์มาต่อสู้ใช้ยันจำเลยที่ 1 ไม่ได้แต่มาในคดีนี้โจทก์ฟ้องอ้างถึงกรรมสิทธิ์ที่โจทก์ควรมีควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 ซึ่งในมาตราเดียวกันนี้วางข้อยกเว้นไว้และศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนตามประเด็นที่โต้เถียงกันตามข้อยกเว้นนี้ว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เห็นได้ชัดว่าเพื่อประสงค์นำสืบถึงเหตุผลซึ่งโจทก์นำสืบไว้ในคดีก่อนไม่สมบูรณ์เท่านั้นการที่จำเลยที่ 2 มิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีก่อนไม่เป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้เพราะต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา144
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้เนื่องจากเนรคุณเมื่อเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
โจทก์ฟ้องขอถอนคืนที่ดินที่ยกให้จำเลยเพราะเหตุเนรคุณเมื่อได้ความว่าโจทก์ยกที่พิพาทให้แก่จำเลยเพราะจำเลยยินยอมโอนที่ดินแปลงอื่นให้แก่บุตรโจทก์อีกคนหนึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนกัน กรณีเช่นนี้จะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้โดยเสน่หาเพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินอื่น ไม่อาจถอนคืนได้แม้มีเหตุเนรคุณ
โจทก์ฟ้องขอถอนคืนที่ดินที่ยกให้จำเลยเพราะเหตุเนรคุณเมื่อได้ความว่าโจทก์ยกที่พิพาทให้แก่จำเลยเพราะจำเลยยินยอมโอนที่ดินแปลงอื่นให้แก่บุตรโจทก์อีกคนหนึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนกัน กรณีเช่นนี้จะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าทรัพย์ การชำระค่าเช่าล่วงหน้า และการกระทำที่แสดงเจตนาชัดเจนในการโอนสิทธิ
ทำสัญญาจะโอนสิทธิการเช่าโกดังกัน โดยเรียกเอาค่าทดแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่งเมื่อไม่สามารถโอนสิทธิการเช่าให้เขาได้ เพราะเจ้าของโกดังไม่ยอมให้โอนและบอกเลิกการเช่าโกดังเสียด้วย ดังนี้ผู้รับโอนมีสิทธิฟ้องเรียกคืนเงินค่าทดแทน และเรียกค่าเสียหายจากผู้โอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: แม้ประเด็นต่างกัน หากเหตุฟ้องร้องเป็นเดียวกัน (ผิดสัญญา) และเคยขอสงวนสิทธิไว้แล้ว ถือเป็นฟ้องซ้ำตามมาตรา 148
คดีจะเป็นฟ้องซ้ำนั้นตาม มาตรา148 วางหลักสำคัญไว้ว่าคู่ความเดียวกันอย่างหนึ่ง ได้ฟ้องร้องกันจนคดีถึงที่สุดแล้วอย่างหนึ่งเหตุแห่งการฟ้องร้องเป็นอันเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง ต้องห้ามมิให้รื้อฟื้นร้องฟ้องกันอีก
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดีแต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือจำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง(ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้ามเพราะเป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดีแต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือจำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง(ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้ามเพราะเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: แม้ประเด็นต่างกัน หากเหตุฟ้องร้องเดียวกัน คดีถึงที่สุดแล้ว ห้ามฟ้องซ้ำ
คดีจะเป็นฟ้องซ้ำนั้นตาม ม.148 วางหลักสำคัญไว้ว่าคู่ความเดียวกันอย่างหนึ่ง ได้ฟ้องร้องกันจนคดีดึงที่สุดแล้วอย่างหนึ่ง เหตุแห่งการฟ้องร้องเป็นอันเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง ต้องห้ามมิให้รื้อฟื้นร้องฟ้องกันอีก
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้ก็เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดี แต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือ จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง (ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้าม เพราะเป็นฟ้องซ้ำ.
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้ก็เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดี แต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือ จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง (ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้าม เพราะเป็นฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองและการป้องกันทรัพย์สิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด แม้จำเลยจะให้การภาคเสธ
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลยๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลยๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองและทรัพย์สิน: โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดเพื่อป้องกัน
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ และการยื่นอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำขอว่าความอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นแต่คำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.232 แล้วโจทก์จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ ม.234 อุทธรณ์คำสั่งฉบับแรกของโจทก์แม้จะยื่นภายในอายุความแต่โจทก์หาเสียค่าธรรมเนียมมาไม่ ย่อมถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ ส่วนอุทธรณ์คำสั่งฉบับที่ 2 ซึ่งโจทก์เสียค่าธรรมเนียมมาแล้วแม้จะถือเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ ์แต่ก็ยื่นเกิน 10 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุด โจทก์อุทธรณ์ต่อไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์และการเสียค่าธรรมเนียม: กรอบเวลาและผลกระทบทางกฎหมาย
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำขอว่าความอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นแต่คำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้.เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 232 แล้วโจทก์จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ตาม มาตรา 234อุทธรณ์คำสั่งฉบับแรกของโจทก์แม้จะยื่นภายในอายุความแต่โจทก์หาเสียค่าธรรมเนียมมาไม่ ย่อมถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบส่วนอุทธรณ์คำสั่งฉบับที่ 2 ซึ่งโจทก์เสียค่าธรรมเนียมมาแล้วแม้จะถือเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ แต่ก็ยื่นเกิน 10 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้วคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุด โจทก์อุทธรณ์ต่อไปไม่ได้