คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยการณ์โกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างแรงงาน: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างพิพาทชัดเจน ศาลใช้ราคาตามฝ่ายจำเลยเนื่องจากโจทก์มิได้นำสืบ
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาทรวมเป็นเงิน 6,500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถียงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างแรงงาน: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างพิพาท แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบ ศาลฟังตามจำเลยได้
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 6500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถึยงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างแรงงานพิพาท: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างตกลงกันแล้ว แต่พิพาทเรื่องราคา ศาลยึดตามราคาที่จำเลยนำสืบเนื่องจากโจทก์มิได้นำสืบ
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาทรวมเป็นเงิน 6,500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถียงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เทศบัญญัติใช้กับตลาดเอกชนไม่ได้บังคับใช้กับตลาดสาธารณะของเทศบาล
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดเทศบาลกับตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดสาธารณะ vs. ตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัย: สิทธิฟ้องของผู้รับประกัน
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไป ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม มาตรา 880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องทำเป็นหนังสือตาม มาตรา 306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัย: โจทก์มีอำนาจฟ้องในฐานะผู้รับช่วงสิทธิ ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารมอบสิทธิ
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไป ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม มาตรา 880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องทำเป็นหนังสือตาม มาตรา 306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิเรียกร้องของผู้รับช่วงสิทธิจากสัญญาประกันภัย ไม่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไปดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม ม.880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องหาเป็นหนังสือตาม ม.306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีทหารสมคบกับผู้อื่นกระทำผิด ต้องพิจารณาว่ามีเหตุให้ดำเนินคดีในศาลพลเรือนได้หรือไม่
คดีที่พลทหารประจำการสมคบกับพวก ซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นทหารหรือพลเรือนกระทำผิด ต้องขึ้นศาลพลเรือน
of 161