คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยการณ์โกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมจากการละเมิดและสิทธิของโจทก์ร่วม รวมถึงการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดครั้งเดียวกันนั้นอาจเกิดจากหลายคนกระทำขึ้นก็ได้และศาลอาจกำหนดความรับผิดให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดในเรื่องค่าสินไหมทดแทนหนักกว่าอีกผ่ายหนึ่งก็ได้ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดที่ต่างได้ทำลง
ภรรยาและบุตรของผู้ตายในการละเมิดอาจเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีเดียวกันได้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคดี
นายจ้างและผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายที่ขับรถยนต์ชนกันเป็นเหตุให้คนตายก็อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกันได้ เพราะทั้งสองฝ่ายย่อมต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกัน
แม้ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่เต็มตามฟ้องแต่ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุสมควรและโจทก์มิได้แกล้งเรียกร้องค่าเสียหายมาเกินสมควรศาลก็อาจสั่งให้จำเลยใช่ค่าธรรมเนียมค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามจำนวนที่โจทก์เสียไปตามฟ้องก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดร่วมกัน, การแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์, และสิทธิของโจทก์ร่วม
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดครั้งเดียวกันนั้นอาจเกิดจากหลายคนกระทำขึ้นก็ได้และศาลอาจกำหนดความรับผิดให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดในเรื่องค่าสินไหมทดแทนหนักกว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดที่ต่างได้ทำลง
ภรรยาและบุตรของผู้ตายในการละเมิดอาจเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีเดียวกันได้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคดี
นายจ้างและผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายที่ขับรถยนต์ชนกันเป็นเหตุให้คนตายก็อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกันได้เพราะทั้งสองฝ่ายย่อมต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกัน
แม้ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่เต็มตามฟ้องแต่ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุสมควรและโจทก์มิได้แกล้งเรียกร้องค่าเสียหายมาเกินสมควรศาลก็อาจสั่งให้จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามจำนวนที่โจทก์เสียไปตามฟ้องก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองสิทธิครอบครองที่ดินที่เคยเป็นที่อยู่อาศัย แม้เป็นที่มือเปล่า ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ที่ดินแม้จะเป็นที่มือเปล่าเมื่อปรากฏผู้ครอบครองเคยปลูกเรือนเสาไม้แก่นฝาขัดแตะหลังคาจากมีรั้วไม้ไผ่ล้อมรอบให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่นับ10 ปี เพิ่งรื้อไปปลูกในที่ติดกันเมื่อ 8 ปีมาแล้วทั้งโดยรอบก็เป็นที่บ้านดังนี้ย่อมถือได้ว่าที่นี้มีสภาพเคยเป็นที่บ้านมาแล้วจึงได้รับความคุ้มครองตาม กฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 โจทก์ฟ้องเมื่อจำเลยเข้าแย่งการครอบครองเพียงปีเศษคดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
ที่ๆ ยังมีผู้ครอบครองอยู่มิใช่ที่รกร้างว่างเปล่าผู้ใดจะเข้าจับจองทับที่ซึ่งมีผู้ครอบครองอยู่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินเดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัย แม้เป็นที่มือเปล่าก็ยังได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และไม่ขาดอายุความ
ที่ดินแม้จะเป็นที่มือเปล่าเมื่อปรากฎว่าผู้ครอบครองเคยปลูกเรือนเสาไม้แก่นฝาขัดแตะหลังคาจากมีรั้งไม่ไผ่ล้อมรอบ ให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่นับ 10 ปี เพิ่งรื้อไปปลูกในที่ดินเมื่อ 8 ปีมาแล้ว ทั้งโดยรอบก็เป็นที่บ้านดังนี้ ย่อมถือได้ว่าที่นี้สภาพเคยเป็นที่บ้านมาแล้วจึงได้รับความคุ้มครองตาม ก.ม.ลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 โจทก์ฟ้องเมื่อจำเลยเข้าแย่งการครอบครองเพียงปีเศษคดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
ที่ ๆ ยังมีผู้ครอบครองอยู่มิใช่ที่รกร้างว่างเปล่าผู้ใดจะเข้าจับจองทับที่ซึ่งมีผู้ครอบครองอยู่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญา: การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกระทงๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปีซึ่งแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามโดยศาลชั้นต้นแล้วจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีต่อกะทง
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกะทง ๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปีโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์: ศาลควรคืนคำคู่ความเพื่อแก้ไข ไม่ยกฟ้อง
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้น ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้ว ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทหนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตาม วิ.แพ่ง.ม.18 จะยกอุทธรณ์จำเลยทีเดียวหาชอบไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายในการลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลควรคืนคำคู่ความเพื่อแก้ไข ไม่ยกฟ้อง
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้นศาลชั้นต้นสั่งรับแล้วฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา18 จะยกอุทธรณ์จำเลยเสียทีเดียวหาได้ไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดีแม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์ในคดีล้มละลาย แม้ทรัพย์นั้นจะพังเสียหายโดยเหตุสุดวิสัย ผู้รับโอนไม่ต้องรับผิดชดใช้ราคา
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการโอนซึ่งผู้ล้มละลายโอนทรัพย์ให้แก่ผู้อื่นไป ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 114 เมื่อปรากฏว่าทรัพย์ที่โอนนั้นพังสลายไปแล้ว โดยถูกพายุพัดพังซึ่งเห็นได้ว่าถึงอย่างไรก็ต้องพังสลายไปผู้รับโอนย่อมไม่ต้องรับผิดชดใช้ราคา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์ก่อนล้มละลาย แม้ทรัพย์พังเสียหาย ผู้รับโอนไม่ต้องรับผิดใช้ราคา
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการโอนซึ่งผู้ล้มละลายโอนทรัพย์ให้แก่ผู้อื่นไป ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.114 เมื่อปรากฎว่าทรัพย์ที่โอนนั้นพังสลายไปแล้ว โดยถูกพายุพัดพังซึ่งเห็นได้ว่าถึงอย่างไรก็ต้องพังสลายไป ผู้รับโอนย่อมไม่ต้องรับผิดชดใช้ราคา
of 161