คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยการณ์โกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642-1643/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของข้อเท็จจริงระหว่างฟ้องและพิจารณาในคดีปล้นทรัพย์ ไม่ทำให้การฟ้องเป็นโมฆะ
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และบรรยายว่าจำเลยได้ปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ 4 คนตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ต่างกันเช่นนี้หาใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642-1643/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของข้อเท็จจริงระหว่างฟ้องและพิจารณาคดีปล้นทรัพย์: ผลต่อการตัดสิน
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และบรรยายว่าจำเลยได้ปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ 4 คน ตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ต่างกันเช่นนี้หาใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่สมบูรณ์: พะยานลงชื่อไม่พร้อมกัน, พะยานผู้เขียน, และการพิมพ์ลายนิ้วมือต้องมีพะยานสองคน
พะยานในพินัยกรรม 2 คนซึ่งไม่ได้ลงชื่อในขณะทำพินัยกรรมพร้อมกัน คนหนึ่งลงชื่อไว้ในภายหลับ แม้จะได้สอบถามตัวเจ้ามรดกหรือไม่ก็ตาม พะยานเช่นนี้ย่อมเรียกไม่ได้ว่าเป็นพะยานในพินัยกรรมตาม ป.พ.พ.ม.1656
พะยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพะยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพะยานในพินัยกรรมและพะยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพะยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมโมฆะ: พยานไม่พร้อมกัน, พยานผู้เขียน, พิมพ์ลายนิ้วมือขาดพยาน
พยานในพินัยกรรม 2 คนซึ่งไม่ได้ลงชื่อในขณะทำพินัยกรรมพร้อมกัน คนหนึ่งลงชื่อไว้ในภายหลัง แม้จะได้สอบถามตัวเจ้ามรดกหรือไม่ก็ตาม พยานเช่นนี้ย่อมเรียกไม่ได้ว่าเป็นพยานในพินัยกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656
พยานผู้เขียนพินัยกรรมซึ่งลงชื่อไว้ในช่องผู้เขียนแยกต่างหากจากช่องพยานในพินัยกรรม เช่นนี้จะถือผู้เขียนเป็นทั้งพยานในพินัยกรรมและพยานผู้เขียนด้วยไม่ได้
ผู้ทำพินัยกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้โดยมีพยานเซ็นชื่อรับรองในขณะนั้นเพียงคนเดียวดังนี้เป็นการไม่ชอบตามมาตรา 1665

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำค่าเสียหาย: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำในประเด็นที่เคยฟ้องร้องและศาลมีอำนาจพิจารณาแล้ว ถือเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฎว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลย+ได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามป.วิ.แพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากละเมิดที่ควรฟ้องรวมในคดีเดิม ศาลฎีกายกฟ้อง
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฏว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลยชำระได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษปรับแทนการจำคุก และผลกระทบต่อการรอการลงอาญา รวมถึงการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ
การที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลย ดังนี้ จึงยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลยไม่ได้ และเมื่อปรากฏว่าจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญายังเรียกไม่ได้ว่าพ้นโทษมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกโทษจำคุกที่รอการลงอาญาและการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ต้องมีโทษจำคุกจริงและพ้นโทษคดีก่อน
การที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลยดังนี้ จึงยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลยไม่ได้ และเมื่อปรากฎว่าจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญายังเรียกไม่ได้ว่าพ้นโทษมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา 32 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบเมื่อจำเลยโต้แย้งสิทธิในทรัพย์มรดก โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าเป็นมรดก
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดก จำเลยให้การต่อสู้ว่าเจ้ามรดกยกให้จำเลยตั้งแต่ก่อนตาย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ยอมรับว่า ทรัพย์ที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดก เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์ที่พิพาทและโต้เถียงสิทธิอยู่เช่นนี้ ก็เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่า ทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบพยานในคดีมรดก: ผู้โต้แย้งความเป็นมรดกมีหน้าที่นำสืบ
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกจำเลยให้การต่อสู้ว่า เจ้ามรดกยกให้จำเลยตั้งแต่ก่อนตาย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ยอมรับว่า ทรัพย์ที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดก เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์ที่พิพาทและโต้เถียงสิทธิอยู่เช่นนี้ ก็เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่า ทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดก
of 161