คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยการณ์โกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอตรวจสอบสถานที่หลังสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ศาลชอบที่จะไม่อนุญาตหากไม่มีเหตุผลสมควร
คดีแพ่ง เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจะเริ่มสืบพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลไปตรวจสอบสถานที่ โดยไม่มีเหตุสมควร ไม่สามารถทราบในการขอให้ตรวจสถานที่แต่อย่างใด ที่ขอให้ไปตรวจก็ล่วงเลยเวลาเกิดเหตุมากว่าปี การตรวจสถานที่ไม่แสดงความจริงที่แน่นอนได้ ดังนี้ ศาลสั่งงดไม่ไปตรวจสอบสถานที่ จึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอตรวจสอบสถานที่หลังสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ศาลมีสิทธิงดเว้นได้หากไม่เกี่ยวข้องและล่าช้า
คดีแพ่ง เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจะเริ่มสืบพยานจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลไปตรวจสอบสถานที่โดยไม่มีเหตุสมควรไม่สามารถทราบในการขอให้ตรวจสถานที่แต่อย่างใดที่ขอให้ไปตรวจก็ล่วงเลยเวลาเกิดเหตุมากว่าปีการตรวจสถานที่ไม่แสดงความจริงที่แน่นอนได้ดังนี้ ศาลสั่งงดไม่ไปตรวจสอบสถานที่จึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์: ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบการครอบครองเมื่อถูกโต้แย้งสิทธิ
ผู้ร้องขัดทรัพย์ย่อมมีฐานะเป็นโจทก์ในคดีชั้นขัดทรัพย์ ส่วนโจทก์เดิมอยู่ในฐานะผู้คัดค้าน
ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่านาที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้อง ไม่ใช่ของจำเลย โจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องได้สละสิทธิยกให้จำเลยแล้ว เช่นนี้เท่ากับว่าโจทก์ปฏิเสธว่านาไม่ใช่ของผู้ร้อง ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าข้อเท็จจริงยังโต้เถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้ครอบครอง หน้าที่นำสืบจึงตกแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยานก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีขัดทรัพย์: ผู้อ้างสิทธิเหนือทรัพย์สินมีหน้าที่พิสูจน์สิทธิของตน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ย่อมมีฐานะเป็นโจทก์ในคดีชั้นขัดทรัพย์ส่วนโจทก์เดิมอยู่ในฐานะผู้คัดค้าน
ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่านาที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลยโจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องได้สละสิทธิยกให้จำเลยแล้วเช่นนี้เท่ากับว่าโจทก์ปฏิเสธว่านาไม่ใช่ของผู้ร้อง ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าข้อเท็จจริงยังโต้เถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้ครอบครองหน้าที่นำสืบจึงตกแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยานก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674-675/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากเหตุทำร้ายร่างกาย ศาลลดโทษจากเจตนาเป็นไม่เจตนา
จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ที ถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลซ้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิต ในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมารถมิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตาย หากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ความเมารถเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็น+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674-675/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากเหตุทำร้ายร่างกายด้วยไม้ไผ่ ศาลลดโทษจากเจตนาฆ่า
จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ทีถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลช้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมาสุรามิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตายหากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาความเมาสุราไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็นเครื่องหยั่งเจตนาประกอบการกระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิ จึงไม่สามารถเพิกถอนการจดทะเบียนได้
สิทธิตามสัญญาจะซื้อขายอสังหาาริมทรัพย์นั้น เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิซึ่งจะติดตามตัวทรัพย์เอากลับคืนจากบุคคลภายนอกได้และไม่เป็นสิทธิที่จะจดทะิบียนได้ จึงไม่มีสิทธิที่จะจดทะเบียนได้ จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องให้เพิกถอนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้ตามมาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสัญญาจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิ จึงไม่สามารถเพิกถอนการจดทะเบียนให้บุคคลภายนอกได้
สิทธิตามสัญญาจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิซึ่งจะติดตามตัวทรัพย์เอากลับคืนจากบุคคลภายนอกได้และไม่เป็นสิทธิที่จะจดทะเบียนได้ จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องให้เพิกถอนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้วตามมาตรา1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพาทเรื่องการอาศัยและการเช่าตึก แม้เคยเป็นสามีภริยากัน แต่รูปคดีไม่ได้เกี่ยวกับสิทธิครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณา
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่ คดีจึงพิพาทกันเพียงว่าจำเลยอาศัยโจทก์จริงหรือไม่ แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไป ไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้ที่เคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันและอาศัยอยู่กับโจทก์ โดยไม่ได้เป็นผู้เช่าร่วม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่คดีจึงพิพาทกันเพียงว่าจำเลยอาศัยโจทก์จริงหรือไม่แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้
of 161