พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง ชนท้ายรถโดยสาร การประพฤติผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
จำเลยขับรถรางเร็ว ไม่ระมัดระวัง เป็นการประมาทเลินเล่อจึงชนรถยนต์ประจำทางตอนท้ายเสียหาย การประมาท ของจำเลยเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. จราจรทางบก 2477 มาตรา 29 ข้อ 4 ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องผิด ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 336 (15) อีกบทหนึ่งด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง ชนท้ายรถโดยสาร การประมาทเลินเล่อเป็นความผิดตามกฎหมาย
จำเลยขับรถรางเร็ว ไม่ระมัดระวัง เป็นการประมาทเลินเล่อจึงชนรถยนต์ประจำทางตอนท้ายเสียหาย การประมาทของจำเลยเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติจราจรทางบก 2477 มาตรา 29 ข้อ 4ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องผิดกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา336(15) อีกบทหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน การต่อสู้แย่งปืนไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืนๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้วผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืนยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อหยุดยั้งอันตรายจากอาวุธของผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืน ๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้ว ผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืน ยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลย แล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้น โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญโดยความยินยอมของคู่สมรส ไม่ต้องลงชื่อผู้ขายทั้งคู่
สามีเอาที่ดินอันเป็นสินบริคณห์ ไปขายให้แก่ผู้อื่นด้วยความยินยอมของภริยานั้น เมื่อเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญก็ไม่จำต้องให้ภริยาลงชื่อเป็นผู้ขายด้วย ก็ใช้ได้กรณีไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลูกสร้างบนที่ดินผู้อื่นโดยรู้เห็น การไม่มีสิทธิอยู่ต่อเมื่อเจ้าของไม่ยินยอม
ปลูกเรือนลงในที่ดิน โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นที่ดินของผู้อื่น ซื่งให้ตนอาศัย ดังนี้ กรณีไม่ต้องด้วย ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1310, 1312 ฉะนั้น เมื่อเจ้าของที่ดินไม่ประสงค์จะให้ผู้นั้นอยู่ในที่ดินของเขา ต่อไปก็จะอ้างมาตรา 1310 หรือ 1312 มายันเจ้าของที่ดินไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลูกสร้างบนที่ดินของผู้อื่นโดยรู้เห็น การอ้างสิทธิอยู่ต่อไม่เป็นผล
ปลูกเรือนลงในที่ดิน โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นที่ดินของผู้อื่น ซึ่งให้ตนอาศัย ดังนี้ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310,1312 ฉะนั้นเมื่อเจ้าของที่ดินไม่ประสงค์จะให้ผู้นั้นอยู่ในที่ดินของเขา ต่อไป ก็จะอ้างมาตรา 1310 หรือ 1312 มายันเจ้าของที่ดินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความสาหัสของบาดแผลและการหยุดราชการ
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียวนอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฏตามคำชันสูตรบาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บภายในดวงตามีการอักเสบมีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริงๆ แล้ว 15 วันไม่หายและก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ตาดูเงินได้ภายใน 20 วันถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้ตานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ21 วันโดยอ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ พิจารณาจากอาการและระยะเวลาพักฟื้น
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียว นอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฎตามคำชัณสูตร บาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บ ภายในดวงตามีการอักเสบ มีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริง ๆ แล้ว 15 วันไม่หาย และก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ ตาดูเงินได้ภายใน 20 วัน ถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้รานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ 21 วัน โดย อ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้านและการสิ้นสุดความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าบ้านและผู้เช่า ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อคณะกรมการอำเภอ โดยผู้เช่าขอเช่าอยู่ต่อไปอีก6 เดือน แล้วผู้เช่าจะออกจากบ้านรายนี้ไป ดังนี้ย่อมเป็นการแสดงความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากบ้านเช่า ต้องตามข้อยกเว้นของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันพ.ศ.2489 มาตรา 16(5) แล้ว เมื่อครบกำหนดแล้วไม่ยอมออกจากบ้านเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้