คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยการณ์โกวิท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาอันตรายจากอาวุธและบาดแผล
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249,60 ได้ไม่ต้องห้าม
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาชนิดและระยะใกล้ของอาวุธในการประเมินเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อ เท็จจริง พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ ดจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249 - 60 ได้, ไม่ต้องห้าม.
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วา ถูกผู้เสีย หายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่า ฝังอยู่ตื้น ๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วัน หาย อีกคน หนึ่งรักษา 6 - 7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชะนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้หถึงตายได้หรือไม่ นั้น ควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึง ยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย คงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ เท่านั้น. /

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696-698/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามตราจอง: การครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่องและผลของการทอดทิ้ง
ที่ดินมีตราจองก่อน พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6)พ.ศ.2479 นั้นแม้เจ้าพนักงานจะได้ตราไว้ว่า 'ได้ทำประโยชน์แล้ว' หรือตราไว้ว่า'ทำประโยชน์สมควรแก่เนื้อที่' แล้วศาลฎีกาก็เห็นว่า ตราจองชนิดนี้ถ้าผู้ถือตราจองได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมาโดยมิได้ละทิ้งจนถึงวันประกาศใช้พระราชบัญญัติอกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479แล้ว มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงรับรองว่าผู้ถือตราจองมีกรรมสิทธิ์ที่ดินตามตราจองนั้น
ฉะนั้นเมื่อก่อนออก พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2479เจ้าของที่ดินตามตราจอง แม้ที่ตราไว้ว่า'ได้ทำประโยชน์แล้ว' ก็ตามถ้าได้ทอดทิ้งไม่ทำให้เป็นประโยชน์เกิน 3 ปีแล้วที่ดินนั้นก็กลับเป็นที่ว่างเปล่าตามเดิม และแม้จะโอนให้ใครๆ ต่อไป จะเป็นการโอนทางทะเบียนหรือไม่ก็ดี ผู้รับโอนก็ย่อมไม่ได้สิทธิอะไรในที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696-698/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิที่ดินจากตราจอง: การครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่องและการกลับเป็นที่ว่างเปล่า
ที่ดินมีตราจองก่อน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 นั้น แม้เจ้าพนักงานจะได้ตราไว้ว่า "ได้ทำประ โชน์แล้ว" หรือตราไว้ว่า "ทำประโชน์สมควรแก่เนื้อที่" แล้วศาลฎีกาก็เห็นว่า ตราจองชะนีดนี้ถ้าผู้ถือตราจองได้ ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมาโดยมิได้ละทิ้งจนถึงวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 แล้ว มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงรับรองว่า ผู้ถือตราจองมีกรรมสิทธิที่ดินตามตราจองนั้น.
ฉะนั้นเมื่อก่อนออก พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 เจ้าของที่ดินตามตราจอง แม้ที่ตราไว้ว่า " ได้ทำ ประโยชน์แล้ว" ก็ตาม ถ้าได้ทอดทิ้งไม่ทำให้เป็นประโยชน์เกิน 3 ปีแล้ว ที่ดินนั้นก็กลับเป็นที่ว่างเปล่าตามเดิม และ แม้จะโอนให้ใคร ๆต่อไป จะเป็นการโอนทางทะเบียนหรือไม่ก็ดี ผู้รับโอนก็ย่อมไม่ได้สิทธิอะไรในที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องชั่งตวงวัดมีเครื่องหมายรับรองแล้ว การไม่มีหนังสือสำคัญกำกับ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด
ความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดมาตรา 30 นั้น บัญญัติความผิดไว้เฉพาะเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัด ใด ๆ ที่ไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง ฉะนั้นการที่ผู้ใดขายเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัด ซึ่งมีเครื่องหมายคำรับรองของสำ นักงานกลางแล้ว แต่ไม่มีหนังสือสำคัญกำกับเครื่องชั่งเครื่องตวง เครื่องวัด จึงไม่มีผิดตามมาตรา 30./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องชั่งตวงวัดที่มีเครื่องหมายรับรอง แต่ไม่มีหนังสือสำคัญกำกับ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด
ความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดมาตรา 30 นั้นบัญญัติความผิดไว้เฉพาะเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัด ใดๆ ที่ไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง ฉะนั้นการที่ผู้ใดขายเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัด ซึ่งมีเครื่องหมายคำรับรองของสำนักงานกลางแล้วแต่ไม่มีหนังสือสำคัญกำกับเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัด จึงไม่มีผิดตามมาตรา 30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา เมื่อครบกำหนด สัญญาเลิกโดยไม่ต้องบอกกล่าว
การเช่าที่มีกำหนดระยะเวลาไว้นั้น เมื่อครบกำหนดตามสัญญาแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับโดยมิต้องบอกกล่าว./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ามีกำหนดเวลา เมื่อครบกำหนด สัญญาเลิกโดยไม่ต้องบอกกล่าว
การเช่าที่มีกำหนดระยะเวลาไว้นั้น เมื่อครบกำหนดตามสัญญาแล้วสัญญาเช่าย่อมระงับโดยมิต้องบอกกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรมการอำเภอในการสั่งให้ผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ออกจากพื้นที่และการขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
กรมการอำเภอมีอำนาจสั่งให้ผู้บุกรุกเข้าทำนา ออกจากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งจัดไว้ให้ราษฎรเลี้ยงสัตว์ร่วมกันถ้าขัดขืนอาจมีความผิดฐานขัดคำสั่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของวันเกิดเหตุในคำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนมีผลต่อการพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ในระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน,แต่พยานโจทก์ทุก คนเบิกความว่า การกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา ต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง.
of 161