พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,606 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ตามคำร้องไม่มีข้อพิพาท ไม่อาจใช้ยันเจ้าของที่ดินที่มีสิทธิดีกว่าได้
ไปยื่นคำร้องต่อศาลขอให้แสดงว่าที่ดินแปลงหนึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตน เป็นคดีไม่มีข้อพิพาทนั้นแม้ศาลจะมีคำสั่งแสดงว่าที่แปลงนั้นเป็นของผู้ร้องคำสั่งนี้ก็ใช้ยันเจ้าของที่ดินอันแท้จริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนกันและการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจำนอง ผู้รับจำนองต้องแจ้งเจตนาไม่ครอบครองแทนผู้จำนอง
จำนองที่ดินไว้แก่เขาแล้ว ไม่มีเงินจะเสียดอกเบี้ยให้จึงมอบนา(มีโฉนด)ที่จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ยส่วนตนเองอพยพไปทำกินที่อื่นแม้จะปรากฏว่านาที่จำนองถูกทางอำเภอยึดไปเพื่อจะขายทอดตลาดเอาเงินชำระอากรค่านาที่ค้างชำระผู้รับจำนองจึงต้องเอาเงินไปชำระค่าอากรที่ค้างทางอำเภอจึงมอบนานั้นให้ผู้รับจำนองผู้รับจำนองคงครอบครองต่อมากว่า 10 ปีก็ดี ก็ไม่ทำให้อำนาจครอบครองของผู้รับจำนองเปลี่ยนไปจากเดิมผู้จำนองยังมีสิทธิขอไถ่จำนองได้เพราะถ้าผู้รับจำนองรับนามาจากอำเภอแล้ว จะครอบครองเอานาอย่างเป็นเจ้าของผู้รับจำนองจะต้องบอกกล่าวไปยังผู้จำนองว่า ตนไม่เจตนาจะครอบครองแทนผู้จำนองต่อไป ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1381 หรือมิฉะนั้นก็ต้องบังคับจำนอง การครอบครองใหม่ในฐานะเป็นเจ้าของจึงจะมีขึ้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังจำนอง: สิทธิของผู้จำนองยังคงอยู่ หากผู้รับจำนองไม่แสดงเจตนาครอบครองในฐานะเจ้าของ
จำนองที่ดินไว้แก่เขาแล้ว ไม่มีเงินจะเสียดอกเบี้ยให้ จึงมอบนา (มีโฉนด) ที่จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ย ส่วนตนเองอพยพไปทำกินที่อื่น แม้จะปรากฎว่านาที่จำนองถูกทางอำเภอยึดไปเพื่อจะขายทอดตลาดเอาเงินชำระ อากรค่านาที่ค้างชำระผู้รับจำนองจึงต้องเอาเงินไปชำระค่าอากรที่ค้าง ทางอำเภอจึงมอบนานั้นให้ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนองคงครอบครองต่อมากว่า 10 ปีก็ดี ก็ไม่ทำให้อำนาจครอบครองของผู้รับจำนองเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้จำนอง ยังมีสิทธิขอไถ่จำนองได้ เพราะถ้าผู้รับตจำนองรับนามาจากอำเภอแล้ว จะครอบครองเอานาอย่างเป็นเจ้าของ ผู้รับจำนอง ตนไม่เจตนาจะครอบครองแทนผู้จำนองต่อไป ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1381 หรือมิฉะนั้น ก็ต้องบังคับจำนอง การครอบครองใหม่ในฐานะเป็นเจ้าของจึงจะมีขึ้นได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และไม้ของกลางต้องริบ
มีไม้แปรรูปเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 ไม้ของกลางที่มีไว้ จึงต้องริบตามมาตรา 74
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเกินขนาดในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และไม้ของกลางต้องถูกริบ
มีไม้แปรรูปเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูกไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อม เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ไม้ของกลางที่มีไว้ จึงต้องริบตามมาตรา 74.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน (แพเป็นเรือน) และสิทธิในทรัพย์สินที่เปลี่ยนแปลง
เจ้าของแพได้อนุญาตให้พี่ชายรื้อถอนแพเอาไปปลูกเป็นเรือนอยู่ในที่ดินของพี่ชายเสียนานมาแล้ว ต่อมาเจ้าของแพถึงแก่กรรม ทายาทจึงฟ้องเรียกแพจากผู้ครอบครองเรือนนั้น ดังนี้ ศาลจะบังคับให้ส่งแพไม่ได้
เพราะไม่มีแพอยู่เสียแล้ว แต่การที่เอาแพของเขาไปปลูกเป็นเรือนของตนเสียเช่นนี้ ผู้ปลูกย่อมเป็นเจ้าของเรือนนั้น แต่ต้องใช้ค่าสัมภาระให้แก่เขาดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1315 ฉะนั้น ศาลย่อมบังคับให้ใช้ราคาแพนั้นแก่ทายาทได้ ./
เพราะไม่มีแพอยู่เสียแล้ว แต่การที่เอาแพของเขาไปปลูกเป็นเรือนของตนเสียเช่นนี้ ผู้ปลูกย่อมเป็นเจ้าของเรือนนั้น แต่ต้องใช้ค่าสัมภาระให้แก่เขาดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1315 ฉะนั้น ศาลย่อมบังคับให้ใช้ราคาแพนั้นแก่ทายาทได้ ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน (แพเป็นเรือน) และสิทธิในทรัพย์สินเมื่อเจ้าของเดิมเสียชีวิต
เจ้าของแพได้อนุญาตให้พี่ชายรื้อถอนแพเอาไปปลูกเป็นเรือนอยู่ในที่ดินของพี่ชายเสียนานมาแล้วต่อมาเจ้าของแพถึงแก่กรรม ทายาทจึงฟ้องเรียกแพจากผู้ครอบครองเรือนนั้นดังนี้ ศาลจะบังคับให้ส่งแพไม่ได้เพราะไม่มีแพอยู่เสียแล้ว แต่การที่เอาแพของเขาไปปลูกเป็นเรือนของตนเสียเช่นนี้ ผู้ปลูกย่อมเป็นเจ้าของเรือนนั้น แต่ต้องใช้ค่าสัมภาระให้แก่เขาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1315 ฉะนั้น ศาลย่อมบังคับให้ใช้ราคาแพนั้นแก่ทายาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดบังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคท้าย ต้องเป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่นที่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ได้
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคท้าย จะบัญญัติไว้ว่า คำสั่งของศาลที่สั่งงดการบังคับคดีไว้ภายในระยะเวลาที่เห็นสมควร นั้น คำสั่งเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุดก็ตามแต่ถ้าคู่ความจะอุทธรณ์หรือฎีกาขึ้นมาว่า ศาลนำเอามาตรา 293 มาใช้บังคับไม่ถูกต้อง เพราะกรณีมิได้เป็นไปตามบทบัญญัติของวรรคแรกแห่งมาตรานั้นเช่นนี้คู่ความนั้นย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้อย่างเดียวกันกับบทบัญญัติที่ห้ามอุทธรณ์คดีมโนสาเร่แม้ศาลชั้นต้นจะชี้ขาดว่าเป็นคดีมโนสาเร่ และพิพากษาให้คู่ความฝ่ายหนึ่งแพ้คดีไปแล้วคู่ความฝ่ายนั้นก็ย่อมจะอุทธรณ์โต้เถียงได้ว่าคดีนั้น หาใช่คดีมโนสาเร่ไม่
ศาลจะสั่งงดการบังคับคดีไว้ตามมาตรา 293 ได้โดยเหตุ'ที่ตนได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันนั้นฯลฯ เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้' แสดงให้เห็นว่า การฟ้องคดีใหม่นั้นต้องเป็นการฟ้องเรื่องอื่น ซึ่งเมื่อชนะคดีแล้ว อาจนำเอาหนี้ตามคำพิพากษานั้นมาหักกลบลบหนี้กับหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องแรกได้
ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 3 เป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ครั้นโจทก์บังคับคดีเอากับจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ไปฟ้องโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่า จำเลยหลุดพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน ดังนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่น จึงไม่อาจจะบังคับตามมาตรา 293 ได้
ศาลจะสั่งงดการบังคับคดีไว้ตามมาตรา 293 ได้โดยเหตุ'ที่ตนได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันนั้นฯลฯ เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้' แสดงให้เห็นว่า การฟ้องคดีใหม่นั้นต้องเป็นการฟ้องเรื่องอื่น ซึ่งเมื่อชนะคดีแล้ว อาจนำเอาหนี้ตามคำพิพากษานั้นมาหักกลบลบหนี้กับหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องแรกได้
ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 3 เป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ครั้นโจทก์บังคับคดีเอากับจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ไปฟ้องโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่า จำเลยหลุดพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน ดังนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่น จึงไม่อาจจะบังคับตามมาตรา 293 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนมีน้ำหนัก แม้พยานโจทก์มีข้อโต้แย้ง คดีลักทรัพย์มีหลักฐานประกอบเพียงพอ
คดีลักทรัพย์ ถ้าเพียงแต่กันผู้ต้องหาด้วยกันมาเป็นพยานโจทก์สองปาก คดีไม่มีน้ำหนักพอที่จะลงโทษจำเลยได้แต่ถ้าโจทก์มีเจ้าทรัพย์และพนักงานสอบสวนประกอบว่าจำเลยได้รับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจ ทั้งได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนต่อหน้าเจ้าทรัพย์ด้วยคดีก็ฟังลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีประกันทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่าหนี้ เป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 656
กู้เงินแล้วมอบที่ดินมีโฉนดให้ทำต่างดอกเบี้ย ตกลงกันว่าถ้าไม่ใช้เงินคืนภายใน 3 เดือน โอนที่ดินที่ประกันให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ให้กู้ ดังนี้ เป็นเรื่องสัญญากู้ธรรมดานั่นเอง หาใช่เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่ แม้จะพ้นกำหนด 3 เดือนแล้ว ไม่ใช้เงินคืนก็ตามเมื่อปรากฎว่ากู้กันเพียง 1000 บาท ส่วนที่ดินที่ประกันมีราคา 3000 บาท ผู้ให้กู้จะเอาที่ดินที่ประกันตามสัญญากันไว้ไม่ได้ ข้อตกลงเช่นนี้เป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 656 วรรค 3./