คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประศาสน์วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดนัดชำระค่าเช่าและการคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: หน้าที่ของผู้เช่าในการชำระค่าเช่า แม้เจ้าของบ้านเปลี่ยนเเปลง
เมื่อจำเลยจำต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์หรือผู้ซื้อบ้านเช่าที่จำเลยเช่าอยู่ จำเลยก็ย่อมต้องขวนขวายตามสมควรในการส่งมอบค่าเช่าแก่ผู้รับหรือทนายไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้วถ้าจำเลยค้างส่งค่าเช่า 2 เดือนติดกัน จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดชำระค่าเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า จำเลยต้องขวนขวายชำระค่าเช่า แม้จะยังไม่ทราบเจ้าของที่ชัดเจน
เมื่อจำเลยจำต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์หรือผู้ซื้อบ้านเช่าที่จำเลยเช่าอยู่ จำเลยก็ย่อมต้องขวนขวายตามสมควรในการส่งมอบ ค่าเช่าแก่ผู้รับ หรือทนายไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้ว ถ้าจำเลยค้างส่งค่าเช่า 2 เดือนติดกัน จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีเช่าต่ำกว่า 5,000 บาท และค่าเช่ารายเดือนไม่เกิน 2,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง
ในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่ได้รับรองให้ เมื่อคดีมาถึงศาลฎีกาศาลฎีกาเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,247,248 ก็ไม่รับวินิจฉัยให้
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่าและเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาทก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,247 การที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการอยู่อาศัย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีเช่าต่ำกว่าเกณฑ์ทุนทรัพย์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่ได้รับรองให้ เมื่อคดีมาถึงศาลฎีกา ๆ เห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.แพ่ง ม.224, 247, 248 ก็ไม่รับวินิจฉัยให้
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่า และเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.248 และคดีฟ้องขับไล่ออกจาก อสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม.224, 247 , การที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้นหรือเพื่อการอยู่อาศัย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1954/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยประเภทสัญญา (จำนำ/ขายฝาก) ให้ดูตามพฤติกรรมของคู่สัญญา แม้ข้อตกลงในสัญญาจะระบุไว้ต่างจากนั้น
ก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ 3 การวินิจฉัยว่าสัญญาใดเป็นจำนำ หรือขายฝากนั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติกันมาว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้สัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมา มารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ ทำต่างดอกเบี้ยกิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปี ที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์.
(ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457, ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1954/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยประเภทสัญญา (จำนำ/ขายฝาก) พิจารณาจากพฤติกรรมคู่สัญญา แม้ข้อตกลงในสัญญาจะระบุไว้ต่างกัน
ก่อนใช้ ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 การวินิจฉัยว่าสัญญาใดเป็นจำนำหรือขายฝากนั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติกันมาว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้สัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมามารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ทำต่างดอกเบี้ย กิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปีที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์ (ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457,ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การยักยอกเงินต่างกรรมต่างวาระไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
แม้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 610/2495 ซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำการยักยอกเงินอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในคดีนี้ด้วยก็ดี แต่เมื่อปรากฏว่าเงินที่จำเลยได้รับไว้ในคดีนี้จากบุคคลคนละคน คนละคราวต่างกรรมต่างวาระกัน ดังนี้ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
(ฎีกาที่ 1086/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การยักยอกเงินต่างกรรมต่างวาระ ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
แม้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 610/2495 ซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำการยักยอกเงินอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในคดีนี้ด้วยก็ดี แต่เมื่อปรากฏว่าเงินที่จำเลยได้รับไว้ในคดีนี้จากบุคคลคนละคน คนละคราวต่างกรรมต่างวาระกัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ (ฎีกาที่ 1086/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกเงินค่าประปาของเทศบาล: เทศบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง
เทศบาลกู้เงินกระทรวงมหาดไทยมาดำเนินการทำน้ำประปากระทรวงมหาดไทยให้กู้และให้กรมโยธาเทศบาลจัดการทำน้ำประปาจนสามารถจำหน่ายให้ประชาชน แต่กรมโยธาเทศบาลยังคงเก็บค่าบริการน้ำประปาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ต่อมาได้มอบหมายให้เทศบาลเก็บเงินเอง เทศบาลได้ให้คนงานเทศบาลไปเก็บเก็บได้แล้วมามอบให้จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในเทศบาล และรักษาการแทนปลัดเทศบาล จำเลยได้รับเงินเหล่านี้ไว้ แล้วยักยอกเอาเสีย เช่นนี้ถือว่าเทศบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกเงินค่าประปาของเทศบาล: เทศบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง
เทศบาลกู้เงินกระทรวงมหาดไทยมาดำเนินการทำน้ำประปา กระทรวงมหาดไทยให้กู้และให้กรมโยธาเทศบาลจัดการทำน้ำประปาจนสามารถจำหน่ายให้ประชาชน แต่กรมโยธาเทศบาลยังคงเก็บค่าบริการน้ำประปาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ต่อมาได้มอบหมายให้เทศบาลเก็บเงินเอง เทศบาลได้ให้คนงานเทศบาลไปเก็บ เก็บได้แล้วมามอบให้จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในเทศบาล และรักษาการแทนปลัดเทศบาล จำเลยได้รับเงินเหล่านี้ไว้ แล้วยักยอกเอาเสียเช่นนี้ถือว่าเทศบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง.
of 115