คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประศาสน์วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362-1364/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้เคยมีประเด็นเรื่องบริวารในคดีก่อนหน้า เนื่องจากประเด็นและคู่ความไม่เหมือนกัน
คดีก่อน เรื่องขับไล่ ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลที่โจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยนั้น ไม่ใช่บริวารของจำเลย
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362-1364/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้เคยมีประเด็นเกี่ยวกับสถานะบริวารในคดีก่อนหน้า
คดีก่อน เรื่องขับไล่ ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลที่โจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยนั้น ไม่ใช่บริวารของจำเลย
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนขายฝากและการเกิดสิทธิในทรัพย์สินเช่า: ค่าเช่าค้างชำระจนกว่าจะวางเงินไถ่ถอน
ผู้ขายฝากได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินบ้านเรือนไว้แก่ผู้ซื้อและได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อไว้ด้วย ต่อมาผู้ขายขอไถ่ถอนภายในกำหนดสัญญาขายฝาก ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ผู้ขายฝากจึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ ในที่สุดศาลบังคับให้ผู้ซื้อรับไถ่การขายฝาก หลังจากนั้นต่อมาอีกผู้ขายฝากจึงได้ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝากต่อศาล เช่นนี้ผู้ขายฝากต้องรับผิดชำระค่าเช่าและค่าเสียหายตั้งแต่วันเริ่มต้นเช่าจนถึงวันที่ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝาก(ไม่ใช่เพียงถึงวันที่ศาลพิพากษาให้รับไถ่ถอนการขายฝาก) เพราะระหว่างที่ยังไม่ได้วางเงินค่าไถ่ถอนการขายฝาก ยังต้องถือว่าที่ดินบ้านเรือนที่ขายฝากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นมาตรา 94(ข) พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง: การนำสืบข้อเท็จจริงระหว่างตัวการ-ตัวแทน แม้ขัดกับเอกสาร
กรณีที่จะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข) นั้น ต้องเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องนำพยานเอกสารมาแสดง ในกรณีเช่นว่านี้จะขอนำสืบเพื่อเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารนั้นไม่ได้
แต่การขอสืบความจริงสำหรับกรณีอื่น เช่น ระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวแก่การบังคับหรือไม่บังคับนิติกรรมนั้นอย่างไร แม้ข้อเท็จจริงจะต้องแตกต่างไปจากที่ปรากฏในหนังสือก็ย่อมนำสืบได้
โจทก์ขอสืบความจริงว่าโจทก์โอนที่ดินให้จำเลยไปจัดการแบ่งปันให้ทายาทตามเหตุผลในฟ้องเป็นเรื่องระหว่างตัวการกับตัวแทนซึ่งเป็นลักษณะส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายนั้น เป็นการนำสืบในกรณีว่าส่วนหนึ่งต่างหาก โจทก์ย่อมนำสืบได้(อ้างฎีกาที่ 838/2493) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานนอกเหนือจากเอกสารสัญญา: กรณีตัวการ-ตัวแทน
กรณีที่จะต้องห้ามตามป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 (ข) นั้น ต้องเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องนำพยานเอกสารมาแสดงในกรณีเช่นว่านี้จะขอนำสืบเพื่อเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารนั้นไม่ได้
แต่การขอสืบความจริงสำหรับกรณีอื่น เช่น ระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวแก่การบังคับหรือไม่บังคับนิติกรรมนั้นอย่างไร แม้ข้อเท็จจริงจะต้องแตกต่างไปจากที่ปรากฎในหนังสือ ก็ย่อมนำสืบได้
โจทก์ขอสืบความจริงว่าโจทก์โอนที่ดินให้จำเลยไปจัดการแบ่งปันให้ทายาทตามเหตุผลในฟ้องเป็นเรื่องระหว่างตัวการกับตัวแทนซึ่งเป็นลักษณะส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายนั้น เป็นการนำสืบในกรณีอีกส่วนหนึ่งต่างหาก โจทก์ย่อมนำสืบได้
(อ้างฎีกาที่ 838/2493)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เพิกถอนโฉนดที่ดินหลังทำสัญญาซื้อขายแล้ว กรณีจำเลยจดทะเบียนโอนสิทธิให้ผู้อื่นเป็นทางเสียเปรียบ
จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะการผัดผ่อนของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 สมคบกันยินยอมใส่ชื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4,5,6,7 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาทแม้การยอมให้จำเลยที่ 2,4,5,6,7 ลงชื่อในโฉนดที่พิพาทนั้น เพราะจำเลยที่ 1 ได้ยกที่พิพาทให้ก็ดี แต่การที่จำเลยได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนแล้ว โจทก์อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เพิกถอนโฉนดที่ดินจากการจดทะเบียนเสียเปรียบแก่ผู้มีสิทธิทำสัญญาซื้อขายก่อน
จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้วแต่ยังไม่ได้ไปทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะการผัดผ่อนของจำเลยที่1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 สมคบกันยินยอมใส่ชื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4,5,6,7 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาท
แม้การยอมให้จำเลยที่ 2,4,5,6,7 ลงชื่อในโฉนดที่พิพาทนั้นเพราะ จำเลยที่ 1 ได้ยกที่พิพาทให้ก็ดี แต่การที่จำเลยได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนแล้ว โจทก์อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการครอบครองที่ดิน ไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์ ต้องพิสูจน์สิทธิครอบครองก่อนวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน
ใบหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินมีชื่อจำเลยที่ 2 อยู่ด้วย ไม่ทำให้ฟังว่าจำเลยที่ 2 มีสิทธิ์ใดในที่ดิน เว้นแต่จำเลยที่ 2 จะได้เคยครอบครองที่ดินนั้นอยู่แล้ว ในวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการครอบครองที่ดินไม่สร้างสิทธิในที่ดิน หากมิได้ครอบครองก่อนบังคับใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน
ใบหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินมีชื่อจำเลยที่ 2 อยู่ด้วยไม่ทำให้ฟังว่าจำเลยที่ 2 มีสิทธิ์ใดในที่ดินเว้นแต่จำเลยที่ 2 จะได้เคยครอบครองที่ดินนั้นอยู่แล้วในวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1249/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา: ความเข้าใจโดยวิญญูชนธรรมดา, เจ้าของที่แท้จริง, ความรับผิดทางละเมิด
ถ้าตามพฤติการณ์ที่ปรากฏทำให้วิญญูชนธรรมดาเข้าใจว่าทรัพย์ที่จะนำยึดเป็นของลูกหนี้แม้เป็นการยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา หากความปรากฏภายหลังว่าแท้ที่จริงนั้นทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของบุคคลอื่นเมื่อศาลสั่งปล่อยทรัพย์นั้นให้พ้นจากการยึดแล้วเจ้าของทรัพย์อันแท้จริงจะมาฟ้องผู้นำยึดว่าละเมิดไม่ได้ เพราะฟังไม่ได้ว่าผู้นำยึดกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออันจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
of 115