คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประศาสน์วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยและการใช้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับทุนทรัพย์คดี
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธ์ที่ดินทั้งแปลง จำเลยต่อสู้กรรมสิทธ์ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ส่วนใหญ่ส่วนที่ดินหน้าท่าริมตลิ่งเป็นที่สาธารณะสมบัติจึงให้ยกฟ้องเฉพาะส่วนนี้ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของโจทก์ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิที่ดิน: การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยและการฎีกาที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิที่ดินทั้งแปลง จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ส่วนใหญ่ ส่วนที่ดินหน้าท่าริมตลิ่งเป็นที่สาธารณะสมบัติ จึงให้ยกฟ้องเฉพาะส่วนนี้ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของโจทก์ ดังนี้ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดฐานความผิด การปรับฟ้องฐานความผิดที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงที่นำสืบได้
จำเลยขอให้โจทก์ลงลายมือในใบมอบอำนาจโดยหลอกลวงว่าเพื่อจำเลยจะได้ใช้ในการชำระภาษีอากรแทนโจทก์ เมื่อโจทก์ลงลายมือมอบให้จำเลยไปแล้ว จำเลยกลับไปกรอกข้อความในใบมอบอำนาจเป็นว่าโจทก์มอบให้จำเลยจัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลย เจ้าพนักงานที่ดินจึงจัดการโอนที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลยไป ดังนี้มิใช่ความผิดฐานฉ้อโกงหรือปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญา มาตรา 315
โจทก์บรรยายฟ้องไปในลักษณะฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่ในฟ้องของโจทก์นั้นเองจับใจความได้ว่าโจทก์กล่าวหาจำเลยว่าได้กระทำผิด ดังข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกซึ่งโจทก์มิได้อ้างบทความผิดฐานยักยอกมาถือได้ว่าโจทก์อ้างฐานความผิดและบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม มาตรา192 วรรค 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)2499มาตรา13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างฐานความผิดผิดพลาด ศาลแก้ไขฐานความผิดได้ตามข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
จำเลยขอให้โจทก์ลงลายมือในใบมอบอำนาจ โดยหลอกลวงว่าเพื่อจำเลยจะได้ใช้ในการชำระภาษีอากรแทนโจทก์ เมื่อโจทก์ลงลายมือมอบให้จำเลยไปแล้ว จำเลยกลับไปกรอกข้อความในใบมอบอำนาจเป็นว่าโจทก์มอบให้จำเลยจัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลย เจ้าพนักงานที่ดินจึงจัดการโอนที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลยไป ดังนี้มิใช่ความผิดฐานฉ้อโกงหรือปลอมหนังสือ แต่เป็นความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญา ม. 315
โจทก์บรรยายฟ้องไปในลักษณะฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือ แต่ในฟ้องของโจทก์นั้นเองจับใจความได้ว่าโจทก์กล่าวหาจำเลยว่าได้กระทำผิดดังข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกซึ่งโจทก์มิได้อ้างบทความผิดฐานยักยอกมา ถือได้ว่าโจทก์อ้างฐานความผิดและบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม ม.192 วรรค 4 ป.วิ.อาญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) 2499 ม.13.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยมีลักษณะอันธพาล ศาลฎีกาไม่เห็นด้วยกับการรอการลงโทษ
การทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส โดยลักษณะอันธพาล ไม่ควรรอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นฟ้องครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายที่ดิน โดยมีประเด็นเขตที่ดินและสิทธิครอบครองรวมกัน
ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินตามโฉนด (อย่างเก่า) และครอบครองมา 20 ปี จำเลยบุกรุกขอให้ขับไล่ห้ามเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินตามโฉนดดังนี้ มีประเด็นถึงที่ดินที่ครอบครองด้วย โดยไม่ต้องคำนึงว่าเหลื่อมล้ำกับโฉนดหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ขอจดทะเบียนต้องเป็นเจ้าของหรือได้รับมอบฉันทะ การจำหน่ายสินค้าไม่ถือเป็นการละเมิด
ผู้ที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ จะต้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นๆแต่ไม่จำต้องเป็นผู้ทำสินค้านั้นขึ้นเองก็ได้และถ้าบุคคลผู้ขอจดทะเบียนไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแล้วผู้ขอจดทะเบียนจะต้องได้รับมอบฉันทะจากเจ้าของเสียก่อน
เครื่องหมายการค้า'SIMILAC'ที่โจทก์ฟ้องนี้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทเอมแอนด์อาร์ใดเอทเตติกลาบอแรตตอรี่ สำหรับใช้กับแป้งนมซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตขึ้นจำหน่าย หาใช่เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ โจทก์เป็นแต่ผู้จำหน่ายแป้งนมนี้เท่านั้นและบริษัทผู้ผลิตมิได้มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ต่อเจ้าพนักงานที่โจทก์ไปขอทะเบียนเครื่องหมายการค้า'SIMILAC'จึงเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ตามนัยของมาตรา37 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าจำเลยเป็นแต่ผู้สั่งแป้งนมSIMILACเข้ามาจำหน่าย มิใช่เป็นผู้ใช้เครื่องหมายการค้านี้เอง จำเลยจึงมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ขอจดทะเบียนต้องเป็นเจ้าของหรือได้รับมอบฉันทะ การจำหน่ายสินค้าโดยไม่ใช้เครื่องหมายการค้าไม่เป็นการละเมิด
ผู้ที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ จะต้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า นั้นๆ แต่ไม่จำต้องเป็นผู้ทำสินค้าขึ้นเองก็ได้ ถ้าบุคคลผู้ขอจดทะเบียนไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแล้ว ผู้ขอจดทะเบียนจะต้องได้รับมอบฉันทะจากเจ้าของเสียก่อน
เครื่องหมายการค้า " SIMILAC " ที่โจทก์ฟ้องนี้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทเอมแอนด์อาร์ใดเอทเตติกลามอแรคตอรี่ สำหรับใช้กับแป้งนมซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตขึ้นจำหน่าย หาใช่เครื่องหมายการค้าของโจทก์ ไม่โจทก์เป็นแต่ผู้จำหน่ายแป้งนมนี้เท่านั้น และบริษัทผู้ผลิตมิได้มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ต่อเจ้าพนักงานที่โจทก์ไปขอทะเบียนเครื่องหมายการค้า "SIMILAC " ส่งเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ตามนัยของ ม.37 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า จำเลยเป็นแต่ผู้สั่งแป้งนม SIMILAC เข้ามาจำหน่าย มิใช่เป็นผู้ใช้เครื่องหมายการค้าเอง จำเลยจึงมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีตัดไม้หวงห้ามต้องบรรยายการประกาศพระราชกฤษฎีกาหรือประกาศรัฐมนตรี ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือที่ทำการกำนัน เพื่อให้ฟ้องสมบูรณ์
ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าได้คัดสำเนาพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม ประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือที่ทำการกำนัน ไม่เป็นฟ้องฐานตัดฟันไม้หวงห้ามอันสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเครื่องหมายการค้าและผลิตยาปลอมเพื่อขาย ถือเป็นความผิดหลายกระทง ศาลลงโทษตามบทที่มีโทษหนักกว่า
ความผิดหลายกระทงต้องกระทำต่างกรรมต่างวาระกันทำยาปลอมเครื่องหมายการค้า เพื่อขาย เป็นความผิดหลายบทตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 236(ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา273) และ พระราชบัญญัติการขายยา พ.ศ.2493 มาตรา 37 วรรคแรกไม่ใช่หลายกระทงศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติการขายยา พ.ศ.2493 มาตรา37 ซึ่งโทษหนักกว่ามาตรา236
of 115