พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่า เทศบาลไม่มีอำนาจคัดค้านการขอออกโฉนด
ที่ดินรกร้างว่างเปล่านั้นบุคคลอาจได้มาตาม ก.ม.ที่ดินและที่ดินประเภทนี้ การที่เจ้าพนักงานที่ดินจะวินิจฉัย เทศบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปคัดค้านการขอรับโฉนดดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่า เทศบาลไม่มีอำนาจคัดค้านการออกโฉนด
ที่ดินรกร้างว่างเปล่านั้นบุคคลอาจได้มาตาม กฎหมายที่ดินและที่ดินประเภทนี้ การที่เจ้าพนักงานที่ดินจะออกโฉนดให้แก่ผู้ครอบครองหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของเจ้าพนักงานที่ดินจะวินิจฉัยเทศบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปคัดค้านการขอรับโฉนดดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาของผู้จัดการโรงงานต่อการใช้แสตมป์ปลอม: ต้องพิสูจน์เจตนาและรู้เห็น
คนงานของบริษัทซึ่งมีหน้าที่ไปซื้อแสตมป์มาปิดขวดน้ำอัดลม กระทำผิดกฎหมายไปซื้อแสตมป์ปลอมมา
แม้จำเลยเป็นผู้จัดการทำน้ำอัดลม มีหน้าที่จะต้องดูแลความเป็นไปและกิจการของโรงงานให้เป็นที่เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดจำเลยจะต้องรับผิดก็ดีเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบในการซื้อแสตมป์นั้น ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางอาญา ดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 7 และ 43 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 และ 59 ไม่เหมือนกับความรับผิดในทางแพ่งดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 425
แม้จำเลยเป็นผู้จัดการทำน้ำอัดลม มีหน้าที่จะต้องดูแลความเป็นไปและกิจการของโรงงานให้เป็นที่เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดจำเลยจะต้องรับผิดก็ดีเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบในการซื้อแสตมป์นั้น ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางอาญา ดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 7 และ 43 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 และ 59 ไม่เหมือนกับความรับผิดในทางแพ่งดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 425
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาของผู้จัดการโรงงานต่อการใช้แสตมป์ปลอม: ต้องมีเจตนาหรือรู้เห็น
คนงานของบริษัทซึ่งมีหน้าที่ไปซื้อแสตมป์มาปิดขวดน้ำอัดลม กระทำผิด ก.ม.ไปซื้อแสตมป์ปลอมมา
แม้จำเลยเป็นผู้จัดการทำน้ำอัดลม มีหน้าที่จะต้องดูแลความเป็นไปและกิจการของโรงงานให้เป็นที่เรียบร้อย และถูกต้องตาม ก.ม.ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดจำเลยจะต้องรับผิดก็ดี เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบในการซื้อแสตมป์นั้น ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อหลักก.ม.ว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางอาญา ดังที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญา ม.7 และ 43 และประมวล ก.ม.อาญา ม.2 และ 59 ไม่เหมือนกับความรับผิดในทางแพ่งดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.ม.425
แม้จำเลยเป็นผู้จัดการทำน้ำอัดลม มีหน้าที่จะต้องดูแลความเป็นไปและกิจการของโรงงานให้เป็นที่เรียบร้อย และถูกต้องตาม ก.ม.ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดจำเลยจะต้องรับผิดก็ดี เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบในการซื้อแสตมป์นั้น ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อหลักก.ม.ว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางอาญา ดังที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญา ม.7 และ 43 และประมวล ก.ม.อาญา ม.2 และ 59 ไม่เหมือนกับความรับผิดในทางแพ่งดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.ม.425
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจาก 'ไม่ต่ออายุใบสำคัญ' เป็น 'ไม่มีใบสำคัญ' เมื่อกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัวที่ขาดต่ออายุแล้วก่อนวันใช้ พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 นั้น เมื่อใช้พระราชบัญญัติฉบับ พ.ศ.2493 แล้วก็ถือว่าใบสำคัญเก่านั้นถูกยกเลิกไป กรณีไม่เข้าตาม มาตรา 28 ต้องถือเป็นคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญตาม มาตรา 5 จึงไม่เป็นผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัว (เทียบฎีกาที่ 196/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาใบอนุญาตขนย้ายข้าว: เริ่มนับวันถัดจากวันที่ออกใบอนุญาต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวเปลือกไปต่างท้องที่มีกำหนด 25 วันนับแต่วันอนุญาตนั้นต้องเริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันต้องรอคดีถึงที่สุดก่อน ศาลไม่ลงโทษหากคดีระหว่างอุทธรณ์ยังไม่สิ้นสุด
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานปล้นทรัพย์ และฐานจัดหาหญิงเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นมาแล้ว 2 ครั้ง และในครั้งที่ 3 ต้องโทษฐานลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดอันเป็นเหตุร้ายอีก โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษกักกันจำเลย เมื่อปรากฏว่า คดีฐานลักทรัพย์ครั้งหลังนี้ยังไม่ถึงที่สุด ศาลย่อมไม่พิพากษาให้ลงโทษกักกันแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831-1833/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่น ต้องมีคำขอตั้งแต่ในฟ้อง หรือก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เกี่ยวกับกำหนดเวลาจำคุกผู้กระทำผิดตามคำพิพากษานั้นกฎหมายอาญา มาตรา 72 บัญญัตินับแต่วันต้องคุมขัง เว้นแต่ในคำพิพากษาจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นสั่งให้นับแต่วันคดีถึงที่สุดเป็นต้น
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 แม้ มาตรา 215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี มาตรา 163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 แม้ มาตรา 215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี มาตรา 163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831-1833/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่น ต้องมีคำขอในฟ้องหรือก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เกี่ยวกับกำหนดเวลาจำคุกผู้กระทำผิดตามคำพิพากษานั้น ก.ม.อาญา ม.32 บัญญัตินับแต่วันต้องคุมขัง เว้นแต่ในคำพิพากษาจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นสั่งให้นับแต่วันคดีถึงที่สุดเป็นต้น
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ตาม ป.วิ.อาญา ม.163 แม้ ม.215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี ม.163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้.
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ตาม ป.วิ.อาญา ม.163 แม้ ม.215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี ม.163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราว ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครอบยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.