คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประศาสน์วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วยสมุห์บัญชีที่เข้าข่ายความรับผิดทางอาญา
ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้มาส่งก็ดีแต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตำแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเพื่อพิสูจน์ว่าหนี้ส่วนหนึ่งไม่สมบูรณ์บังคับได้ มิใช่การแก้ไขสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาท และว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริง แต่กู้และรับเพียง 10000 บาท ที่เขียนในสัญญาเป็น 15000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะ ฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ด้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญา แต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษา แต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 วรรค 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อพิพาทเรื่องดอกเบี้ยเกินอัตราในสัญญากู้ ไม่เป็นการแก้ไขสัญญา แต่เป็นการแสดงว่าหนี้ไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาทและว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงแต่กู้และรับเพียง 10,000 บาทที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญาแต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาแต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดิน: การชำระหนี้บางส่วนด้วยการเข้าปลูกสร้าง และการพิสูจน์ข้อตกลง
บรรยายฟ้องว่าตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกันและว่าให้แต่ละฝ่ายถือเอาที่ดินแลกเปลี่ยนกันได้และจะได้ไปจดทะเบียนกันภายหลังดังนี้ย่อมเป็นเรื่องจะแลกเปลี่ยนที่ดินกันหาใช่เป็นการแลกเปลี่ยนกันเด็ดขาดแล้วไม่
สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินจะทำเป็นหนังสือก็ได้ หรือวางประจำก็ได้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ได้
การที่เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินอันเขามอบให้เพื่อแลกเปลี่ยนแล้วย่อมถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้บางส่วนแก่กันแล้วซึ่งศาลชั้นต้นจำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดิน: การชำระหนี้บางส่วนและการพิสูจน์ข้อตกลง
บรรยายฟ้องว่าตกลงและเปลี่ยนที่ดินกันและว่าให้แต่ละฝ่ายถือเอาที่ดินแลกเปลี่ยนกันได้และจะได้ไปจดทะเบียนกันภายหลังดังนี้ย่อมเป็นเรื่องจะแลกเปลี่ยนที่ดินกัน หาใช่เป็นการแลกเปลี่ยนกันเด็ดขาดแล้วไม่
สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินจะทำเป็นหนังสือก็ได้ หรือวางประจำก็ได้หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ได้
การที่เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินอันเขามอบให้เพื่อแลกเปลี่ยนแล้วย่อมถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้บางส่วนแก่กันแล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นจำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงาน รุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม.249,60.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงานรุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตายที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา 249,60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตและการออกประกาศควบคุมการค้าที่เกินอำนาจ
ตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 บัญญัติไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้เพื่อขายซึ่งทรากสัตว์ฯ" แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อจำหน่ายฯลฯ" มิได้ใช้คำว่ามีไว้เพื่อขายก็ดี แต่คำว่าขายก็รวมอยู่ในคำว่าจำหน่ายด้วยทั้งฐานความผิดที่โจทก์หาโจทก์ก็ได้ตั้งข้อหาว่าจำเลยทำผิดฐานสมคบกันมีทรากกระบือไว้เพื่อขายโดยไม่มีใบอนุญาตกำกับคำขอให้ลงโทษก็เป็นเรื่องหาว่ามีไว้เพื่อขายและจำเลยก็รับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้องโจทก์เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อขายลงโทษจำเลยในฐานนี้ได้
ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดพระนครฉบับที่ 37 ลงวันที่ 5 ต.ค.96 ซึ่งประกาศห้ามมิให้ผู้ใดนำเนื้อกระบือชำแหละเข้ามาในเขตเทศบาลโดยฝ่าฝืนต่อประกาศดังกล่าวฉบับนั้นประกาศฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร มาตรา8(6),(8) แต่ไม่ปรากฏในคดีนี้ว่าได้มีการห้ามการค้ากำไรเกินควรในเนื้อโคหรือกระบือชำแหละเลยทั้งข้ออ้างของกรรมการในการออกประกาศก็ว่าเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนผู้บริโภคและเพื่อช่วยสงวนพันธุ์โคกระบือสำหรับเกษตรกรรมด้วยหาใช่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ เมื่อเช่นนี้จึงถือว่าประกาศฉบับนี้นอกเหนือวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรจึงไม่มีอากรบังคับดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 737/2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ และการออกประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดเกินอำนาจ
ตามพ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 บัญญัติไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้เพื่อขายซึ่งทรากสัตว์ฯ" แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมีเนื้อชำแหละไว้เพื่อขายก็ดี แต่คำว่าขายก็รวมอยู่ในคำว่าจำหน่ายด้วย ทั้งฐานความผิดที่โจทก์หาโจทก์ก็ได้ตั้งข้อหาว่าจำเลยทำผิดฐานสมคบกันมีทรากกระบือไว้เพื่อขายโดยไม่มีใบอนุญาตกำกับ คำขอให้ลงโทษก็เป็นเรื่องหาว่ามีไว้เพื่อขายและจำเลยก็รับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้องโจทก์ เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อขายลงโทษจำเลยในฐานนี้ได้
ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดพระนคร ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 5 ต.ค.96 ซึ่งประกาศห้ามมิให้ผู้ใดนำเนื้อกระบือชำแหละเข้ามาในเขตเทศบาลโดยฝ่าฝืนต่อประกาศฉบับดังกล่าวนั้น ประกาศฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ม.8(6),(8) แต่ไม่ปรากฏในว่าคดีนี้ว่าได้มีการห้ามการค้ากำไรเกินควรในเนื้อโคหรือกระบือชำแหละเลย ทั้งข้ออ้างของกรรมการในการออกประกาศก็ว่าเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนผู้บริโภคและเพื่อช่วยสงวนพันธ์โคกระบือสำหรับเกษตรกรรมด้วยหาใช่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ เมื่อเช่นนี้จึงถือว่าประกาศฉบับนี้นอกเหนือวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร จึงไม่ควรมีผลบังคับดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 737/2497.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าของผู้ภริยาโดยอาศัยสิทธิสามี แม้สามีไปศึกษาต่างประเทศชั่วคราว เจ้าของบ้านไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
สามีเช่าบ้านอยู่อาศัย แล้วเดินทางไปศึกษาวิชาที่ต่างประเทศเป็นการชั่วคราวภริยาคงอยู่อาศัยต่อมาในบ้านเช่านั้น เป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิของสามี ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ภริยาไม่ได้
of 115