คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประศาสน์วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระหว่างคู่ความมีผลผูกพัน & การท้าประเด็นต้องทำต่อหน้าศาล
การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า'การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ'มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระหว่างคู่ความในการดำเนินคดี และการท้าประเด็นการนำสืบพยาน
การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จำดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า "การท้านประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ" มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าว้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องละเมิด: การระบุค่าเสียหายโดยรวมในฟ้องเพียงพอแล้ว รายละเอียดค่าใช้จ่ายนำสืบได้
ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดนั้น เมื่อได้กล่าวบรรยายในฟ้องว่า ต้องเสียหายอะไรบ้าง และประมาณค่าเสียหายรวมกันมาเป็นเงินจำนวนหนึ่งก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามมาตรา 172 วรรค 2 แล้วไม่จำต้องกล่าวถึงว่าเสียหายเป็นค่าอะไรเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียด ซึ่งจะต้องนำสืบกันในเวลาพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการทำยอมความของผู้ถูกฟ้อง ย่อมไม่ผูกมัดสิทธิของบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย,ก่อนจำเลยให้การนายไสวร้องขอเช่าเป็นผู้ร้องสอดอ้างว่านายไสวเป็นผู้เช่าห้องพิพาท นายเม้ง++บริวารโจทก์คัดค้าน ต่อมานายเม้งขอทำยอมออกจากห้องพิพาท ดังนี้คดีระหว่างโจทก์กับนายเม้งยุติแล้วและที่นายไสวอ้างว่าเป็นผู้เช่าและผู้ครอบครอง นายเม้งเป็นบริวารแต่นายไสวไม่ได้อยู่ในห้องพิพาทนั้น คำพิพากษาก็บังคับนายเม้งจำเลยโดยเฉพาะเท่านั้นไม่เกี่ยวถึงนายไสวเลย จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำร้องสอด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการยอมความ ย่อมไม่ผูกมัดสิทธิของบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยก่อนจำเลยให้การนายไสวร้องขอเข้าเป็นผู้ร้องสอดอ้างว่านายไสวเป็นผู้เช่าห้องพิพาทนายเม้งจำเลยเป็นบริวารโจทก์คัดค้านต่อมานายเม้งขอทำยอมออกจากห้องพิพาทดังนี้คดีระหว่างโจทก์กับนายเม้งยุติแล้วและที่นายไสวอ้างว่าเป็นผู้เช่าและผู้ครอบครอง นายเม้งเป็นบริวารแต่นายไสวไม่ได้อยู่ในห้องพิพาทนั้นคำพิพากษาก็บังคับนายเม้งจำเลยโดยเฉพาะเท่านั้นไม่เกี่ยวถึงนายไสวเลย จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำร้องสอด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตของผู้ทรงเช็คและการเรียกร้องเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายต้องพิสูจน์การไม่สุจริต
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารฮอลันดาโดยสุจริต 10,000 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย. ดังนี้ไม่จำต้องกล่าวว่าโจทก์ได้เช็คนั้นจากผู้ใด ก็ถือว่ากล่าวข้อความชัดแจ้งดีแล้วหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและสุจริตแล้ว ก็มีสิทธิโดยชอบที่จะเรียกเงินตามเช็คนั้นจากผู้สั่งจ่ายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตของผู้ทรงเช็คและการเรียกเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดชอบ
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารฮอลันดาโดยสุจริต10,000 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายดังนี้ไม่จำต้องกล่าวว่าโจทก์ได้เช็คนั้นจากผู้ใดก็ถือว่ากล่าวข้อความชัดแจ้งดีแล้วหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและสุจริตแล้ว ก็มีสิทธิโดยชอบที่จะเรียกเงินตามเช็คนั้นจากผู้สั่งจ่ายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขฟ้องไม่รับ
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า 'ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ 'ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา1529(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นศาลยกฟ้อง
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ป.พ.พ. ม.1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า "ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ" ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.1529(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ ผู้รับประกันต้องรับรถและชำระค่าสินไหมทดแทน
รับประกันภัยรถยนต์แบบประกันสิ้นเชิง โดยตีราคาไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งเมื่อรถยนต์ประสพอุปัทวเหตุเสียหายยับเยินไม่อาจซ่อมให้คืนใช้การได้ดีดังเดิมผู้รับประกันต้องรับเอารถไว้ และใช้ราคาตามจำนวนเงินที่เอาประกันไว้
of 115