พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,149 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์: การกระทำเข้าข่ายทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ แม้จะมีการต่อสู้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปทำเจ้าทุกข์แล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไปเจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วยมีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยใช้สาตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธเพื่อเรียกทรัพย์และการทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปหาเจ้าทุกแล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไป เจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วย มีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยให้ศา-ตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอออกโฉนดที่ดินต้องมีเหตุ เจ้าพนักงานไม่ออก หรือมีผู้โต้แย้ง จึงจะฟ้องร้องได้ มิเช่นนั้นศาลไม่รับพิจารณา
ผู้ที่ครอบครองที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญนั้นจะมาร้องต่อศาลขอให้แสดงว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของที่ดินขอให้ศาลสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดให้โดยยังไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานไม่ยอมออกโฉนดให้หรือว่ามีผู้ใดโต้แย้งประการใดนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอออกโฉนดที่ดิน ต้องรอเจ้าพนักงานไม่ออกโฉนดหรือมีผู้โต้แย้งก่อน จึงจะฟ้องร้องได้
ผู้ที่ครอบครองที่ดินซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญนั้นจะมาร้องต่อศาลขอให้แสดงว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของที่ดิน ขอให้ศาลสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดให้โดยยังไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานไม่ยอมออกโฉนดให้หรือว่ามีผู้ใดโต้แย้งประการใดนั้นหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะ จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดและขออนุญาตหรือไม่
การฟ้องขอให้ลงโทษตามก.ม.อาญา ม.336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม.มิฉนันย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะและการพิสูจน์ความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเป็นต้องบรรยายฟ้องและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
การฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายมิฉะนั้นย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อทราบทั้งการละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิด
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม ม.448 นั้น ต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่มารู้ว่ามีการยักยอก
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม มาตรา448 นั้นต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์-ทำร้ายร่างกาย: การดื่มน้ำส้มในวงไพ่โดยเข้าใจผิด ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ หากไม่มีเจตนา
เจ้าของร้านอนุญาตให้ผู้ที่มาเล่นไพ่กินน้ำส้มได้เปล่าจำเลยเข้าไปดูการเล่น เอาน้ำส้มกินในที่นั้น โดยเข้าใจว่ากินได้เช่นเดียวกับผู้เล่น ไม่มีเจตนาลักทรัพย์เมื่อมีผู้ขัดขวางจึงเกิดทำร้ายกัน เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลพลเรือนและการวินิจฉัยข้อเท็จจริงร่วมกันในคดีอาญา
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมูลคดีในการไต่สวนมูลฟ้องว่าจำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ถือว่าศาลทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันซึ่งตามลักษณะอุทธรณ์ฎีกาลักษณะ 2 มาตรา 219 บัญญัติว่าห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนั้นคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2
โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน
โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน