คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิเทศจรรยารักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คที่ถูกสั่งห้ามจ่าย ไม่ถือเป็นการชำระหนี้สมบูรณ์ หนี้ยังไม่ระงับ
แม้โจทก์ยอมรับว่าได้ออกใบเสร็จรับเงินและเวนคืนเอกสารแห่งหนี้คือใบรับขวดแล้ว และจำเลยค้านว่าหนี้ระงับไป และเมื่อใบรับเงินหมาย จ.17 ไม่มีจดแจ้งว่า การชำระหนี้ได้ชำระโดยเช็คหมาย จ.16. เมื่อฟ้องโจทก์กล่าวไว้แจ้งชัดว่า จำเลยชำระราคาขวดโดยจ่ายเป็นเช็คแต่จำเลยสั่งห้ามการใช้เงิน ดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบว่าโจทก์ไม่ได้รับเงินสดตามใบเสร็จรับเงินนั้นได้ไม่เรียกว่าเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร กล่าวคือเมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็คที่ออกให้ หนี้นั้นก็ยังหาระงับไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็ค & การนำสืบเมื่อใบรับเงินไม่ได้ระบุวิธีชำระ
แม้โจทก์ยอมรับว่าได้ออกใบเสร็จรับเงินและเวนคืนเอกสารแห่งหนี้คือใบรับขวดแล้ว และจำเลยค้านว่าหนี้ระงับไป และเมื่อใบเงินหมาย จ.17 ไม่มีจดแจ้งว่า การชำระหนี้ได้ชำระ โดยเช็คหมาย จ.16 เมื่อฟ้องโจทก์กล่าวไว้แจ้งชัดว่า จำเลยชำระราคาขวดโดยจ่ายเป็นเช็ค แต่จำเลยสั่งห้ามการใช้เงิน ดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบว่าโจทก์ไม่ได้รับเงินสดตามใบเสร็จรับเงินนั้นได้ ไม่เรียกว่าเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร กล่าวคือเมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็คที่ออกให้ หนี้นั้นก็ยังหาระงับไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การของจำเลยที่ไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ทำให้ศาลรับฟังตามฟ้องได้ แม้โจทก์ไม่สืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จำเลยให้เช่าช่วง โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลยแล้วจำเลยให้การแต่เพียงว่าจำเลยเช่าห้องโจทก์เท่านั้น ดังนี้จะถือว่าจำเลยปฏิเสธในเรื่องไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่าและโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้วด้วยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ไว้ ก็ต้องถือว่าฟ้องข้อนั้นไม่เป็นประเด็นข้อทุ่มเถียงในคดี โจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลรับฟังตามฟ้องได้เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่สืบพยานโจทก์ก็ต้องชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การของจำเลยที่ไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ทำให้ศาลรับฟังตามฟ้องได้โดยไม่ต้องสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาจำเลยให้เช่าช่วง โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลยแล้ว จำเลยให้การแต่เพียงว่าจำเลยเช่าห้องโจทก์เท่านั้น ดังนี้จะถือว่าจำเลยปฏิเสธในเรื่องไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่าและโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้วด้วยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ไว้ ก็ต้องถือว่าฟ้องข้อนั้นไม่เป็นประเด็นข้อทุ่มเถียงในคดี โจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลรับฟังตามฟ้องได้เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่สืบพยานโจทก์ก็ต้องชนะคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานรับรองการรับเงินครบถ้วน จำเลยมิอาจต่อสู้ภายหลังได้
โจทก์มีเอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานปรากฏชัดเจนในจำนวนเงินที่กู้ (เกินกว่า 50 บาท) และระบุว่าได้รับเงินไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าสัญญากู้นี้เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ด้วยประการใดๆ จำเลยจะนำสืบว่ารับเงินกู้ไปไม่ครบจำนวนดังข้อความตามสัญญากู้นั้นหาได้ไม่ เป็นการขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานชัดเจน จำเลยโต้แย้งการรับเงินไม่ครบไม่ได้
โจทก์มีเอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานปรากฎชัดเจนในจำนวนเงินกู้ (เกินกว่า 50 บาท) และระบุว่าได้รับเงินไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าสัญญากู้นี้เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ด้วยประการใดๆ จำเลยจะนำสืบว่ารับเงินกู้ไปไม่ครบจำนวนดังข้อความตามสัญญากู้นั้นหาได้ไม่ เป็นการขัดต่อ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94(ข).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.23 แม้โจทก์ขอทุเลาการบังคับ
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียวเพราะตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตามความเหมาะสมของคดี
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694-1695/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิในที่ดิน: ศาลยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง
จำเลยแย่งการครอบครองที่มือเปล่าจากโจทก์กว่า 1 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท แต่โจทก์ไม่มีสิทธิเพราะโจทก์ขาดสิทธิเสียแล้ว ถึงแม้โจทก์จะคัดค้านว่าจำเลยไม่อ้างอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาต้องระบุเจตนาที่ชัดเจน หากมิได้ระบุเจตนาฆ่า แม้โจทก์อ้างมาตรา 250 ก็ลงโทษไม่ได้ และการนับโทษต่อต้องมีข้อมูลสนับสนุน
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยกับพวกได้สมคบกันมีอาวุธปืนและไม้ฆ้อนเป็นศาสตราวุธตียิงทำร้ายร่างกายนายกุ่นและนายมาเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้โดยจำเลยประสงค์จะเอาทรัพย์แล้วจำเลยกับพวกได้ปล้นเอาทรัพย์ของนายกุ่นนายมาไป ฯลฯ นายกุ่นได้ถึงแก่ความตามโดยพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ฯลฯ ดังนี้เห็นได้ชัดว่าฟ้องโจทก์บรรยายถึงแต่เรื่องปล้นทรัพย์และเจ้าทรัพย์ถูกทำร้ายมีบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้ระบุว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าทรัพย์เลย จะอ้างว่าโจทก์ได้ใส่หัวเรื่องในข้อหาฐานความผิดว่าสมคบกันทำการปล้นทรัพย์และฆ่าคนตายโดยเจตนามาประกอบฟ้องให้เข้าเกณฑ์ความผิดตาม ม.250 ก็ไม่ได้ เพราะว่าหัวเรื่องนั้นไม่เรียกว่าบรรยายคำฟ้อง ดังนี้แม้โจทก์จะอ้างบทมาตรา 250 มาด้วยก็ดี ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.250 ไม่ได้เพราะว่าจำเลยเข้าใจข้อหาแต่เพียงว่าการปล้นทรัพย์ของจำเลยได้ทำให้เจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บสาหัส
เมื่อไม่ปรากฎในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคนๆเดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฎว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
of 82