พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบุคคลจากคำตายของผู้ถูกยิง และคำรับสารภาพของจำเลย เพียงพอต่อการพิพากษาลงโทษฐานฆ่าโดยเจตนา
คำที่ผู้ถูกยิงร้องบอกกล่าวขึ้นทันทีไม่มีเวลาคิดตรองรับฟังเป็นพยานได้
คำที่ผู้ถูกยิงบอกแก่มารดาอีก 3-4 คำเป็นการยืนยันว่าที่ร้องบอกกล่าวนั้น ไม่ใช่การสงสัย
คำที่ผู้ถูกยิงบอกกำนัน โดยรู้ตัวว่าใกล้จะตายว่าจำเลยยิงรับฟังประกอบได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยบริสุทธิ์ใจ ประกอบกับคำบอกกล่าวของผู้ถูกยิงข้างต้นฟังลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้
คำที่ผู้ถูกยิงบอกแก่มารดาอีก 3-4 คำเป็นการยืนยันว่าที่ร้องบอกกล่าวนั้น ไม่ใช่การสงสัย
คำที่ผู้ถูกยิงบอกกำนัน โดยรู้ตัวว่าใกล้จะตายว่าจำเลยยิงรับฟังประกอบได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยบริสุทธิ์ใจ ประกอบกับคำบอกกล่าวของผู้ถูกยิงข้างต้นฟังลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบและถอดถอนผู้ชำระบัญชีต้องยื่นภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย
กรณีเรื่องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทจำกัดอันผิดระเบียบ และขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่งนั้น กรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งและผู้ถือหุ้นนับได้ถึงหนึ่งในยี่สิบแห่งหุ้นของบริษัทย่อมมีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลได้ตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ตอนท้ายโดยไม่ต้องดำเนินคดีมีข้อพิพาท
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่งเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้ชำระบัญชีเป็นบุคคลที่ไม่สมควรหรือบกพร่องต่อหน้าที่ ก็ไม่มีข้อเท็จจริงอันจะเป็นทางประกอบการพิจารณาของศาลที่จะชี้ขาดถึงความผิดพลาดบกพร่องของผู้ชำระบัญชีเพื่อสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทอันผิดระเบียบจะต้องร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมติตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ซึ่งเป็นบทบังคับพิเศษ
ปัญหาเรื่องกำหนดเวลาร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ฯ อันผิดระเบียบเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5),246,247
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่งเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้ชำระบัญชีเป็นบุคคลที่ไม่สมควรหรือบกพร่องต่อหน้าที่ ก็ไม่มีข้อเท็จจริงอันจะเป็นทางประกอบการพิจารณาของศาลที่จะชี้ขาดถึงความผิดพลาดบกพร่องของผู้ชำระบัญชีเพื่อสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทอันผิดระเบียบจะต้องร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมติตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ซึ่งเป็นบทบังคับพิเศษ
ปัญหาเรื่องกำหนดเวลาร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ฯ อันผิดระเบียบเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5),246,247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่บริษัทที่ผิดระเบียบ และการถอนผู้ชำระบัญชีต้องทำภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย
กรณีเรื่องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทจำกัดอันผิดระเบียบ และขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่งนั้น กรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งและผู้ถือหุ้นนับได้ถึงหนึ่งในยี่สิบแห่งหุ้นของบริษัทย่อมมีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลได้ตามนัยแห่ง ป.วิ.แพ่ง มาตรา 55 ตอนท้ายโดยไม่ต้องดำเนินคดีอย่างคดีมีข้อพิพาท
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่ง เมื่อผู้ร้องไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้ชำระบัญชีเป็นบุคคลที่ไม่สมควรหรือบกพร่องต่อหน้าที่ก็ไม่มีข้อเท็จจริงอันเป็นทางประกอบการพิจารณาของศาลที่จะชี้ขาดถึงความผิดพลาดบกพร่องของผู้ชำระบัญชีเพื่อสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทอันผิดระเบียบจะต้องร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมติตามป.พ.พ. มาตรา 1195 ซึ่งเป็นบทบังคับพิเศษ
ปัญหาเรื่องกำหนดเวลาร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ ฯ อันผิดระเบียบเป็นปัญหา ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 142(5),246,247
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้ชำระบัญชีออกจากตำแหน่ง เมื่อผู้ร้องไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้ชำระบัญชีเป็นบุคคลที่ไม่สมควรหรือบกพร่องต่อหน้าที่ก็ไม่มีข้อเท็จจริงอันเป็นทางประกอบการพิจารณาของศาลที่จะชี้ขาดถึงความผิดพลาดบกพร่องของผู้ชำระบัญชีเพื่อสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของบริษัทอันผิดระเบียบจะต้องร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมติตามป.พ.พ. มาตรา 1195 ซึ่งเป็นบทบังคับพิเศษ
ปัญหาเรื่องกำหนดเวลาร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ ฯ อันผิดระเบียบเป็นปัญหา ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 142(5),246,247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับรองชดใช้หนี้ ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน สิทธิไล่เบี้ยอายุความตาม ม.164
การที่ธนาคารทำหนังสือรับรองพ่อค้าซึ่งเข้าทำสัญญาส่งของต่อบุคคลที่สามว่า ถ้าพ่อค้านั้นผิดสัญญาประการใดธนาคารจะรับผิดชอบชดใช้ให้บุคคลที่สามนั้นถือว่าธนาคารเป็นผู้ค้ำประกันฉะนั้น เมื่อธนาคารได้ชำระเงินชดใช้แทนไปแล้ว ย่อมมีสิทธิมาฟ้องไล่เบี้ยเอาต่อพ่อค้าได้ภายในอายุความตามมาตรา 164 กรณีไม่เข้าลักษณะอายุความตามมาตรา 165(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารรับรองหนี้ของผู้อื่น ถือเป็นผู้ค้ำประกัน มีสิทธิไล่เบี้ยภายในอายุความตามมาตรา 164
การที่ธนาคารทำหนังสือรับรองพ่อค้าซึ่งเข้าทำสัญญาส่งของต่อบุคคลที่สามว่า ถ้าพ่อค้านั้นผิดสัญญาประการใด ธนาคารจะรับผิดชอบชดใช้ให้บุคคลที่สามนั้น ถือว่าธนาคารเป็นผู้ค้ำประกัน ฉะนั้น เมื่อธนาคารได้ชำระเงินชดใช้แทนไปแล้ว ย่อมมีสิทธิมาฟ้องไล่เบี้ยเอาต่อพ่อค้าได้ภายในอายุความตามมาตรา 164 กรณีไม่เข้าลักษณะอายุความตาม มาตรา 165(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพโดยไม่ได้ถูกจูงใจ: พนักงานสอบสวนทราบข้อมูลเท็จของผู้ต้องหาแต่ไม่ทักท้วง ไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวง
การที่พนักงานสอบสวนรู้ว่าผู้ต้องหาปิดบังอาชีพและยศไว้โดยพนักงานสอบสวนมิได้ท้วงติงนั้นไม่ถือว่าเป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายฝากและการชำระหนี้สินไถ่ สัญญาอำพรางมิได้ การฟ้องขับไล่และสิทธิในทรัพย์สิน
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่โจทก์ แม้จะมีข้อตกลงต่อกันชำระดอกเบี้ยในเงินที่โจทก์ชำระให้จำเลยก็ไม่ใช่นิติกรรมอำพราง ไม่เป็นการกู้เงินไปได้ ข้อต่อสู้ว่าชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแล้วมีผลว่าชำระสินไถ่แล้วเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องนายอำเภอในฐานะเจ้าพนักงานปกครองท้องที่และการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน
แม้คณะกรมการอำเภอไม่ใช่นิติบุคคล นายอำเภอก็อาจฟ้องหรือถูกฟ้องได้เหมือนบุคคลธรรมดา
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องนายอำเภอและการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน: นายอำเภอถูกฟ้องได้ในฐานะบุคคลธรรมดา แม้คณะกรรมการอำเภอไม่ใช่ นิติบุคคล
แม้คณะกรมการอำเภอไม่ใช่นิติบุคคลนายอำเภอก็อาจฟ้องหรือถูกฟ้องได้เหมือนบุคคลธรรมดา
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจยกขึ้นอ้างได้ทั้งโจทก์และจำเลย
ที่ว่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้นั้น มิได้หมายความแต่ผู้ที่จะต้องเป็นโจทก์ฟ้องร้องฝ่ายเดียว ย่อมหมายรวมถึงการต่อสู้คดีด้วย เพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย