พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อฉลในการทำธุรกรรมหลังพินัยกรรมไม่ทำให้สิทธิรับมรดกตกไป
ทายาทตามพินัยกรรม หลอกลวงให้ผู้ทำพินัยกรรมทำใบมอบอำนาจให้แล้วเอาไปจัดการโอนที่ดินที่ตนจะได้รับตามพินัยกรรมเป็นของตนเสีย กรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการฉ้อฉลให้เจ้ามรดกเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมผู้นั้นจึงมิต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ไม่สมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียกรรมนิติกรรม ไม่ต้องมีแบบพิธี เพียงแสดงเจตนาชัดเจน
การบอกล้างโมฆียกรรมนั้น มิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใด ๆ เพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบเพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบเพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธี เพียงแสดงเจตนาถึงพอ
การบอกล้างโมฆียกรรมนั้นมิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใดๆเพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าหลังมติคณะกรรมการฯ และการรับมรดกความในคดีเช่า - การไม่จำเป็นต้องสอบสวนผู้เช่า
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่ง พ.ร.บ.นี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่า โดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วย ก.ม. แล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯอย่างใด เมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว ผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิความมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่ จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการ ฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตายไปก็ตาม ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไปไม่ได้ ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯใหม่ มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตาม ก.ม. ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องต่อศาล
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯอย่างใด เมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว ผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิความมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่ จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการ ฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตายไปก็ตาม ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไปไม่ได้ ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯใหม่ มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตาม ก.ม. ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ให้เช่าและการสิ้นสุดความคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อมีการอนุมัติให้เข้าอยู่
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่งพระราชบัญญัตินี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่าโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉะนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯ อย่างใดเมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯ ลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิตามมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตามไปก็ตามผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ต่อไปไม่ได้ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯ ใหม่มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯ อย่างใดเมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯ ลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิตามมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตามไปก็ตามผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ต่อไปไม่ได้ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯ ใหม่มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนเถื่อน: แม้ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่ได้บัญญัติริบ แต่ศาลมีอำนาจริบได้ตาม ก.ม.อาญา ม.28
ปืนเป็นศาตราวุธร้ายแรงสามารถทำให้ถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย ก.ม.จึงห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตและกำหนดให้ปืนทุกกระบอกต้องมีเครื่องหมายประจำปืน
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามก.ม.อาญา ม.28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม.11 เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.อาญาประการใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามก.ม.อาญา ม.28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม.11 เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.อาญาประการใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนเถื่อน: แม้ พ.ร.บ.อาวุธปืนไม่ได้บัญญัติเรื่องริบโดยตรง ศาลก็มีอำนาจริบได้ตามกฎหมายอาญา
ปืนเป็นศาตราวุธร้ายแรงสามารถทำให้ถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย กฎหมายจึงห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตและกำหนดให้ปืนทุกกระบอกต้องมีเครื่องหมายประจำปืน
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม มาตรา11 เพราะพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2477นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อกฎหมายอันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา ประการใดเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม มาตรา11 เพราะพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2477นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อกฎหมายอันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา ประการใดเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินมรดกต่อเนื่องแม้หลังเจ้ามรดกเสียชีวิต ยืนยันสิทธิเจ้าของร่วมและสิทธิเรียกร้องแบ่งมรดก
ทายาทปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินมรดกตลอดมาจนเจ้ามรดกตายไปประมาณ 1 ปี จึงย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังคงรักษาโฉนดที่ดินมรดกนั้นไว้ ถือได้ว่าทายาทนั้นได้ครอบครองที่มรดกจนเกิดสิทธิทางรับมรดกเป็นเจ้าของร่วมปกครองร่วมกับทายาทอื่นมีสิทธิฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกนั้นได้ ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินมรดกต่อเนื่องหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต ย่อมมีสิทธิในการแบ่งมรดกได้ ไม่ขาดอายุความ
ทายาทปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินมรดกตลอดจนเจ้ามรดกตายไปประมาณ 1 ปี จึงย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังคงรักษาโฉนดที่ดินมรดกนั้นไว้ ถือได้ว่าทายาทนั้นได้ครอบครองที่มรดกจนเกิดสิทธิทางรับมรดกเป็นเจ้าของร่วมปกครองร่วมกับทายาทอื่น มีสิทธิฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกนั้นได้ ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า แม้ปืนระเบิด ศาลฎีกาพิพากษาผิดฐานพยายามฆ่า
ใช้ปืนแก๊บสั้นทำเองลำกล้อง 8 อนุกระเบียด ยาว 11 นิ้ว ยิงเขาลำกล้องแตกกระสุนปืนถูกเขาที่ขาขวาหนังขาด 1 แห่งเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา