พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีจากการขุดดินปิดลำห้วยสาธารณะทำให้ได้รับความเสียหายโดยตรง
เมื่อโจทก์อ้างในฟ้องว่าจำเลยขุดเหมืองและยกดันกั้นน้ำลำห้วยสาธารณะไม่ให้น้ำใหลไปตามปกติเป็นเหตุให้นาโจทก์ไม่ได้น้ำอย่างที่เคยมาแต่ก่อน ต้นข้าวจึงเสียหาย เช่นนั้นย่อมแสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยตามฟ้องโจทก์ ๆ จึงเป็นผู้เสียหายมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีจากการขุดดินปิดลำห้วยสาธารณะทำให้เสียหาย โจทก์มีสิทธิฟ้องหากเสียหายโดยตรง
เมื่อโจทก์อ้างในฟ้องว่าจำเลยขุดเหมืองและยกคันกั้นน้ำลำห้วยสาธารณะ ไม่ให้น้ำใหลไปตามปกติเป็นเหตุให้นาโจทก์ไม่ได้น้ำอย่างที่เคยมาแต่ก่อน ต้นข้าวจึงเสียหาย เช่นนั้นย่อมแสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยตามฟ้องโจทก์โจทก์ จึงเป็นผู้เสียหายมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบทำผิดอาญา: หลักการพิจารณาความร่วมมือในการกระทำความผิด และการพิสูจน์เจตนา
มาด้วยกัน 3 คน จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฟันผู้เสียหาย แล้วคนทั้งสามก็วิ่งหนีไปด้วยกัน เป็นเรื่องฉะเพาะตัวจำเลยที่ 1 คนเดียวเท่านั้น เพราะอีก 2 คนไม่ทราบด้วย ไม่ใช่เป็นเรื่องสมคบกันมากระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบทำผิดอาญา: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ถือว่าเป็นการสมคบ หากไม่มีเจตนาหรือการตกลงร่วมกันตั้งแต่แรก
มาด้วยกัน 3 คน จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฟันผู้เสียหายแล้วคนทั้งสามก็วิ่งหนีไปด้วยกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 คนเดียวเท่านั้น เพราะอีก 2 คน ไม่ทราบด้วยไม่ใช่เป็นเรื่องสมคบกันมากระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์ยิงด้วยอาวุธร้ายแรง แม้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญเข้าข่ายพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงอีกฝ่ายหนึ่งในขณะวิวาทกันถูกข้อมือกระดูกแตกและยังมีบาดแผลที่หางคิ้วและเหนือใบหูขวาอีกด้วยดังนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญจำเลยต้องมีความผิดตาม มาตรา24960
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าจากการใช้ปืนยิง แม้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงอีกฝ่ายหนึ่งในขณะวิวาทกัน ถูกข้อมือกระดูกแตก และยังมีบาดแผลที่หางคิ้ว และเหนือใบหูขวาอีกด้วยดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญ จำเลยต้องมีความผิด ตาม ม.249-60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้สิทธิในที่ดิน: การพิสูจน์ความเสียหายจากการถูกบังสายตาและการใช้ประโยชน์
ระหว่างที่ดินโจทก์และโรงเรือนจำเลยมีทางเดินและโรงเรือนผู้อื่นคั่นอยู่โจทก์จะฟ้องว่าโรงเรือนจำเลยบังที่ดินโจทก์โดยไม่ปรากฎว่าโจทก์เสียหายเป็นพิเศษอย่างใดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่พิพาทเพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ย่อมไม่มีทางที่จะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับสิทธิในที่ดิน: การพิสูจน์ความเสียหายจากการถูกบังสายตาและการเลือกฟ้อง
ระหว่างที่ดินโจทก์และโรงเรือนจำเลยมีทางเดินและโรงเรือนผู้อื่นคั่นอยู่โจทก์จะฟ้องว่าโรงเรือนจำเลยบังที่ดินโจทก์โดยไม่ปรากฏว่า โจทก์เสียหายเป็นพิเศษอย่างใดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่พิพาทเพราะการกระทำของจำเลยโจทก์ย่อมไม่มีทางที่จะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาแผ่นดินไม่อุทธรณ์ถอนฟ้องได้, ผู้เสียหายฟ้องเบิกความเท็จได้แม้คดีก่อนหน้าศาลไม่เชื่อ
คดีอาญาแผ่นดินซึ่งผู้เสียหายฟ้องศาลเองนั้นถือว่าผู้เสียหายฟ้องแทนแผ่นดิน
คดีซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้วโจทก์จะขอถอนฟ้องชั้นศาลอุทธรณ์ไม่ได้
จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่งแม้ในคดีนั้นศาลจะไม่เชื่อคำจำเลยและยกฟ้องของจำเลยเสีย โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้
คดีซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้วโจทก์จะขอถอนฟ้องชั้นศาลอุทธรณ์ไม่ได้
จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่งแม้ในคดีนั้นศาลจะไม่เชื่อคำจำเลยและยกฟ้องของจำเลยเสีย โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาแผ่นดินและเบิกความเท็จ: โจทก์ฟ้องแทนแผ่นดิน ถอนฟ้องชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ แม้ศาลไม่เชื่อคำเบิกความ
คดีอาญาแผ่นดินซึ่งผู้เสียหายฟ้องศาลเองนั้นถือว่าผู้เสียหายฟ้องแทนแผ่นดิน
คดีซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้วโจทก์จะขอถอนฟ้องชั้นศาลอุทธรณ์ไม่ได้
จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่ง แม้ในคดีนั้นศาลจะไม่เชื่อคำจำเลยและยกฟ้องของจำเลยเสีย โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้อง จำเลยฐานเบิกความเท็ยได้
คดีซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้วโจทก์จะขอถอนฟ้องชั้นศาลอุทธรณ์ไม่ได้
จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่ง แม้ในคดีนั้นศาลจะไม่เชื่อคำจำเลยและยกฟ้องของจำเลยเสีย โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้อง จำเลยฐานเบิกความเท็ยได้