พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลกระทบการบวชต่อสถานะสมรสและการเป็นสินสมรสภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมาจนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้วในชั้นหลังนี้เมื่อมีปัญหาว่าสามีภรรยาจะขาดจากกันหรือไม่ย่อมจะต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่ในขณะที่เหตุที่อ้างนั้นเกิดขึ้นบังคับแก่กรณีคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 จะใช้กฎหมายเก่าหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการบวชต่อสถานะการสมรสภายหลังใช้ ป.พ.พ. และการกำหนดทรัพย์สินสมรส
เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วย ก.ม.ตั้งแต่ก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ 5 และคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมา จนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 5 แล้ว ในชั้นหลังนี้เมื่อมีปัญหาว่าสามีภรรยาจะขาดจากกันหรือไม่ย่อมจะต้องใช้ ก.ม.ที่มีอยู่ในขณะที่เหตุที่อ้างนั้นเกิดขึ้นบังคับแก่กรณี คือ ป.พ.พ. บรรพ 5 จะใช้ ก.ม. เก่าหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าต่อเนื่องจากสัญญาเดิมสิ้นสุด ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิอ้างกับเจ้าของที่ดิน แม้เจ้าของที่ดินเคยเพิกเฉย
ศาลพิพากษาตามยอม ให้จำเลยออกจากที่ดินที่เช่า โดยครบกำหนดตามสัญญาแล้ว ย่อมบังคับให้ผู้ที่เช่าห้องจากจำเลยบนที่พิพาทออกจากที่ดินได้ด้วย เพราะไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดกับโจทก์ การที่ผู้เช่าห้องอยู่บนที่ดินของโจทก์โดยโจทก์ไม่ว่ากล่าวนั้นไม่ทำให้เกิดสิทธิที่จะอยู่ต่อไปในเมื่อโจทก์ไม่ต้องการให้อยู่จึงอ้าง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากสินบริคณห์ต้องได้รับความยินยอมจากสามี/ภริยา หากไม่ได้รับความยินยอมเป็นโมฆียะกรรม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากที่จำเลย(ภริยาผู้ร้องสอด)ทำไว้กับโจทก์จำเลยและผู้ร้องสอด(สามีจำเลย)ต่อสู้ยืนยันว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสอดและไม่ได้ให้สัตยาบันจึงบอกล้างโมฆียะกรรมเมื่อโจทก์กล่าวแก้แต่เพียงว่าผู้ร้องสอดมิได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายดังนี้ประเด็นคงมีว่าผู้ร้องสอดกับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัตยาบัน สามีจึงบอกล้างนิติกรรมนั้นได้
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัตยาบัน สามีจึงบอกล้างนิติกรรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: บาดแผลฟกช้ำและเคล็ดข้อมือเข้าข่าย 'บาดเจ็บ' ตามกฎหมาย
แผลถูกต่อยใต้ตาขวาเพียงรอยฟกช้ำขนาดหัวแม่มือ ไม่ถึงบาดเจ็บแผลที่ข้อมือขวาเคล็ดฟกช้ำตั้งแต่ปลายแขนถึงหลังมือข้อมือบวมไปหมด รักษาอยู่ 10 วัน ทุเลาระหว่างนั้นใช้มือทำอะไรไม่ได้ประมาณ 21 วันหายเป็นบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะกรรมสัญญาขายฝากสินบริคณห์: สามีต้องยินยอมหรือสัตยาบัน หากภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินสมรสโดยลำพัง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากที่จำเลย(ภริยาผู้ร้องสอด)ทำไว้กับโจทก์ จำเลยและผู้ร้องสอด(สามีจำเลย) ต่อสู้ยืนยันว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหาย จำเลยทำนิติกรรรมผูกพันสินบริคณหโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสดและไม่ได้ให้สัตยาบันจึงบอกล้างโมฆียะกรรม เมื่อโจทก์กล่าวแก้แต่เพียงว่าผู้ร้องสอดมิได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฏหมายดังนี้ประเด็นคงมีว่าผู้ร้องสอดกับจำเลย
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้สมคบคิด ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์เฉพาะของการกระทำ
จำเลยกับพวกพากันไปท้าทายผู้มีชื่อผู้หนึ่ง ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไม่มีสาเหตุกันเข้ามาห้าม จำเลยได้ชกผู้เสียหายไปหนึ่งทีเพราะความเมา พวกจำเลยคนหนึ่งได้ใช้สนับมือชกผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสจำเลยไม่ได้ซ้ำเติมอีก กรณีเป็นเรื่องต่างคนต่างทำ ไม่ใช้เรื่องสมคบกัน จะลงโทษจำเลยฐานสมคบกับพวกทำร้ายร่างกายสาหัสไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้สมคบกัน ศาลพิพากษาตามการกระทำของแต่ละคน
จำเลยกับพวกพากันไปท้าทายผู้มีชื่อผู้หนึ่งผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไม่มีสาเหตุกันเข้ามาห้ามจำเลยได้ชกผู้เสียหายไปหนึ่งทีเพราะความเมา พวกจำเลยคนหนึ่งได้ใช้สนับมือชกผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสจำเลยไม่ได้ซ้ำเติมอีกกรณีเป็นเรื่องต่างคนต่างทำ ไม่ใช่เรื่องสมคบกันจะลงโทษจำเลยฐานสมคบกับพวกทำร้ายร่างกายสาหัสไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - คำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายใช้ไม่ได้
คดีรับของโจร คำของจำเลยที่ 1 บอกตำรวจว่าซื้อของกลางจากจำเลยที่ 2 เป็นคำบอกเล่าและคำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายฟังยันจำเลยที่ 2 มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2097/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำขาดเจตนาดูหมิ่นธงชาติ แม้สวมใส่ถุงเท้าสีคล้ายธงชาติ ก็ไม่ถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.ธง
จำเลยซื้อถุงเท้าซึ่งวางขายโดยมิได้นึกคิดว่าคล้ายสีธงชาติไทยสรวมปรากฎตัวในที่สาธารณะสถาน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาดูหมิ่นต่อธงชาติไทยการกระทำของจำเลยขาดเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.43 จึงไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ. ธง