พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นโมฆะ เจ้าของมีสิทธิเรียกคืนและบังคับรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
บิดาเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร แล้วบิดาได้ทำสัญญากู้เงินจากผู้อื่นโดยนำที่ดินให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ และกล่าวว่าถ้าไม่นำต้นเงินมาส่งภายในกำหนดเวลายอมยกที่ดินให้เป็นสิทธิตลอดไปซึ่งในกรณีนี้มีเพียง 3 เดือน ดังนี้ย่อมเป็นการทำสัญญาซื้อขายเมื่อคู่สัญญามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว สัญญาย่อมเป็นโมฆะ ผู้ให้กู้จะอ้างสิทธิอย่างใดในที่ดินนั้นไม่ได้ บุตรย่อมเรียกร้องเอาที่ดินคืนได้
เมื่อผู้ครอบครองที่ดินของผู้อื่นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นแล้วปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกลงในที่ดินโดยอ้างว่าปลูกทำลงโดยสุจริตไม่ได้รูปคดีต้องด้วย มาตรา 1311 และเมื่อเจ้าของที่ดินแสดงได้ว่าตนมิได้ประมาทเลินเล่อ เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิบังคับให้ผู้ปลูกรื้อถอนไปได้ตาม มาตรา 1310
เมื่อผู้ครอบครองที่ดินของผู้อื่นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นแล้วปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกลงในที่ดินโดยอ้างว่าปลูกทำลงโดยสุจริตไม่ได้รูปคดีต้องด้วย มาตรา 1311 และเมื่อเจ้าของที่ดินแสดงได้ว่าตนมิได้ประมาทเลินเล่อ เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิบังคับให้ผู้ปลูกรื้อถอนไปได้ตาม มาตรา 1310
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นโมฆะ และสิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินของผู้อื่น
บิดาเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร แล้วบิดาได้ทำสัญญากู้เงินจากผู้อื่นโดยนำที่ดินให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ และกล่าวว่าถ้าไม่นำต้นเงินมาส่งภายในกำหนดเวลายอมยกที่ดินให้เป็นสิทธิตลอดไปซึ่งในกรณีนี้มีเพียง 3 เดือน ดังนี้ย่อมเป็นการทำสัญญาซื้อขาย เมื่อคู่สัญญามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว สัญญาย่อมเป็นโมฆะ ผู้ให้กู้จะอ้างสิทธิอย่างใดในที่ดินนั้นไม่ได้ บุตรย่อมเรียกร้องเอาที่ดินคืนได้
เมื่อผู้ครอบครองที่ดินของผู้อื่นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นแล้วปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกลงในที่ดินโดยอ้างว่าปลูกทำลงโดยสุจริตไม่ได้ รูปคดีต้องด้วย ม.1311 และเมื่อเจ้าของที่ดินแสดงได้ว่าตนมิได้ประมาทเลิ่นเล่อ เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิบังคับให้ผู้ปลูกรื้อถอนไปได้ตาม ม.1310
เมื่อผู้ครอบครองที่ดินของผู้อื่นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นแล้วปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกโรงเรือนและสิ่งเพาะปลูกลงในที่ดินโดยอ้างว่าปลูกทำลงโดยสุจริตไม่ได้ รูปคดีต้องด้วย ม.1311 และเมื่อเจ้าของที่ดินแสดงได้ว่าตนมิได้ประมาทเลิ่นเล่อ เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิบังคับให้ผู้ปลูกรื้อถอนไปได้ตาม ม.1310
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารมหาชน (ทะเบียนสมรส) และหน้าที่การหักล้างข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย
ทะเบียนสมรสเป็นเอกสารมหาชน เป็นหน้าที่ของคู่ความที่ถูกเอกสารนั้นยันจะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานว่าเอกสารนั้นไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารมหาชน (ทะเบียนสมรส) มีผลสันนิษฐานความถูกต้อง ผู้ถูกยันต้องพิสูจน์หักล้าง
ทะเบียนสมรสเป็นเอกสารมหาชนเป็นหน้าที่ของคู่ความที่ถูกเอกสารนั้นยันจะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานว่าเอกสารนั้นไม่บริสุทธิหรือไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การของผู้ต้องหาที่ถูกปล่อยตัวแล้ว ศาลรับฟังได้หากไม่มีกฎหมายห้าม
ในคดีอาญา พยานโจทก์ ที่ถูกจับเป็นผู้ต้องหาในคราวแรก เมื่อได้ตัวการที่แท้จริงแล้วปล่อยตัวไป คำพยานเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายห้าม มิให้ศาลรับฟังอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพยานผู้ต้องหาที่ถูกปล่อยตัว: ศาลรับฟังได้หากไม่มีกฎหมายห้าม
ในคดีอาญา พยานโจทก์ ที่ถูกจับเป็นผู้ต้องหาในคราวแรก เมื่อได้ตัวการที่แท้จริงแล้วปล่อยตัวไป คำพยานเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายห้าม มิให้ศาลรับฟ้องอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนำที่ดินก่อน ปพพ. แล้วทำจำนองภายหลัง สัญญาจำนองกลืนสัญญาจำนำเดิม
การจำนำที่ดินกันก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นั้น แม้พฤติการณ์จะฟังได้ว่าเป็นกิริยาขายฝาก แต่ปรากฏว่าคู่สัญญาจำนำกันได้ไม่ถึง 10 ปี แล้วได้มาทำจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยถูกต้อง ขึ้นเงินกันอีกในขณะที่ประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1,2,3 แล้ว ย่อมเป็นการจำนองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนำที่ดินก่อนป.พ.พ. ต่อมาทำจำนองใหม่ สิทธิของผู้จำนองเดิมยังคงมีอยู่
การจำนำที่ดินกันก่อนใช้ป.พ.พ.นั้นแม้พฤติการณ์จะฟังได้ว่าเป็นกิริยาขายฝาก แต่ปรากฏว่าคู่สัญญาจำนำกันได้ไม่ถึง 10 ปี แล้วได้มาทำจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยถูกต้อง ขึ้นเงินกันอีกในขณะที่ประกาศใช้ ป.พ.พ.บรรพ 1,2,3. แล้วยังเป็นการจำนองตาม ป.พ.พ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทบิดาอย่างร้ายแรง
บิดายกทรัพย์ให้แก่บุตรสาวโดยเสน่หาแล้ว ต่อมาบุตรสาวได้ด่าว่าบิดาว่าเอาบุตรสาวอีกคนหนึ่งเป็นเมีย จึงเป็นการหมิ่นประมาทบิดาผู้ให้อย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้เรียกถอนคืนการให้ เพราะผู้รับประพฤติเนรคุณได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคืนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทบิดา
บิดายกทรัพย์ให้แก่บุตรสาวโดยเสน่หาแล้วต่อมาบุตรสาวได้ด่าว่าบิดาว่าเอาบุตรสาวอีกคนหนึ่งเป็นเมีย จึงเป็นการหมิ่นประมาทบิดาผู้ให้อย่างร้างแรง เป็นเหตุให้เรียกถอนคืนหารให้ เพราะผู้รับประพฤติเนรคุณได้