พบผลลัพธ์ทั้งหมด 817 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แพทย์ประจำตำบลต้องขึ้นทะเบียนประกอบโรคศิลป์ แม้เคยเป็นพนักงานสาธารณสุข
แพทย์ประจำตำบล แม้จะเคยเป็นพนักงานสาธารณสุขมาแล้วเมื่อจะประกอบโรคศิลป์ก็ต้องขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลป์จากคณะกรรมการก่อน มิฉะนั้นมีความผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลป์ 2479 มาตรา 11,21
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การพิจารณาโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดตามมาตรา 301 วรรคสาม
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสาม ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญา: เลือกโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดหลายกระทง
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรถ 3 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 4) พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868-869/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาเบิกความเท็จในฟ้อง การฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุเวลาช่วงกลางวัน/กลางคืน
ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในศาลนั้น โจทก์ระบุเพียงวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุว่าเวลากลางวันหรือกลางคืนก็พอเข้าใจได้ว่าหมายถึงเวลากลางวันจึงถือว่าฟ้องเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868-869/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ การระบุเวลา และการเข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จในศาลนั้น โจทก์ระบุเพียงวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุว่าเวลากลางวันหรือกลางคืน ก็พอเข้าใจได้ว่าหมายถึงเวลากลางวัน จึงถือว่าฟ้องเช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับ เพราะศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นฟังวาจำเลยยิงขู่ไม่มีเจตนาจะยิงผู้เริ่ม+ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย แต่ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนทำเองไม่ร้ายแรงกระสุนก็ไม่ร้ายแรง ไม่อาจทำลายชีวิตได้ จึงพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254,60 ดังนี้ในข้อหาโจทก์ที่หาว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยเจตนานั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว โจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 (อ้างฎีกาที่ 1316/2493)
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย แต่ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนทำเองไม่ร้ายแรงกระสุนก็ไม่ร้ายแรง ไม่อาจทำลายชีวิตได้ จึงพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254,60 ดังนี้ในข้อหาโจทก์ที่หาว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยเจตนานั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว โจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 (อ้างฎีกาที่ 1316/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า ลดเหลือพยายามทำร้ายร่างกาย และข้อจำกัดในการฎีกา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยิงขู่ไม่มีเจตนาจะยิงผู้เสียหายจึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย แต่ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนทำเองไม่ร้ายแรงกระสุนก็ไม่ร้ายแรงไม่อาจทำลายชีวิตได้จึงพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,60 ดังนี้ ในข้อหาโจทก์ที่หาว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยเจตนานั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว โจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
(อ้างฎีกาที่ 1316/2493)
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย แต่ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนทำเองไม่ร้ายแรงกระสุนก็ไม่ร้ายแรงไม่อาจทำลายชีวิตได้จึงพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,60 ดังนี้ ในข้อหาโจทก์ที่หาว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยเจตนานั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว โจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
(อ้างฎีกาที่ 1316/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834-835/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินต้องทำที่หอทะเบียนที่ดินจึงสมบูรณ์
การทำสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีตราจองแล้ว ต้องทำกัน ณ ที่ หอทะเบียนที่ดิน จึงจะสมบูรณ์ จะทำกันที่อำเภอไม่ได้ตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834-835/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมีตราจองต้องทำที่หอทะเบียนที่ดิน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ และการได้สิทธิครอบครองปรปักษ์
การทำสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีตราจองแล้ว ต้องทำกัน ณ ที่หอทะเบียนที่ดิน จึงจะสมบูรณ์ จะทำกันที่อำเภอไม่ได้ตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมขายฝากแล้วไม่ไถ่ถอน ถือสละที่ดิน สิทธิคงเหลือเป็นผู้เช่า
เจ้าของที่ดินมือเปล่ายินยอมให้เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งเอาที่ดินไปขายฝากแก่เขาไว้ทั้งแปลง ครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาก็ไม่ไถ่ถอนทั้งตนและเจ้าของร่วมผู้ขายได้เช่าที่ดินนี้จากเขาทำกินดังนี้ ถือได้ว่าเจ้าของที่ดินสละที่ดินนั้นแล้ว ที่ยังคงครอบครองที่ดินอยู่ ก็เป็นเรื่องครอบครองในฐานะเป็นผู้เช่า