คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 188 วรรคสาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดร่วมรับผิดในหนี้ห้างหุ้นส่วน และสิทธิยกอายุความ
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้าง-หุ้นส่วนจำกัด พ.ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เกี่ยวกับมูลหนี้ตามบันทึกรับสภาพหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พ.ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังผู้ร้อง ไม่ใช่ผู้ร้องยอมรับในส่วนของผู้ร้องว่าเป็นหนี้จำเลย บันทึกคำให้การของผู้ร้องไม่ใช่การรับสภาพ-ความรับผิดโดยสัญญาตาม ป.พ.พ. มาตรา 188 วรรคสาม (เดิม)
แม้ผู้ร้องต้องร่วมรับผิดในหนี้ของห้างโดยไม่จำกัดจำนวนตามป.พ.พ. มาตรา 1077 แต่ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะลูกหนี้ร่วมกับห้างซึ่งมีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 295 แม้ห้างถูกเจ้าพนักงาน-พิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้จนศาลได้ออกคำบังคับเพราะเป็นหนี้เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 119 แล้วก็ตาม เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังผู้ร้องให้ร่วมรับผิดในหนี้ของห้างเมื่อพ้น 2 ปี นับแต่ห้างผิดนัดชำระหนี้ในมูลหนี้ผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของ สิทธิเรียกร้องให้ผู้ร้องชำระหนี้ย่อมขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความ, การรับสภาพหนี้, และการฟ้องเรียกหนี้ค่าสินค้า: ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยได้สั่งซื้อสินค้าโจทก์รวมเป็นเงินเท่าใด จำเลยได้รับสินค้าแล้วไม่ชำระ โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระแล้ว ก็เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จำเลยจะเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว ส่วนวิธีการสั่งซื้อสินค้า การรับส่งสินค้า การชำระเงินค่าสินค้า และการทวงถามนั้นเป็นเพียงรายละเอียดที่นำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม มูลหนี้เดิมขาดอายุความ แต่ต่อมาจำเลยได้ทำหนังสือรับว่าเป็นหนี้โจทก์และจะชำระหนี้ให้นั้นเป็นหนังสือรับสภาพความรับผิดโดยสัญญาถือได้ว่าจำเลยละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความ จำเลยจะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์อีกหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5088/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้เป็นสัญญาใหม่ทำให้ขาดอายุความ ฟ้องไม่ขาดอายุความ
จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้และหนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ จำเลยมิต้องรับผิด ดังนั้น ที่จำเลยฎีกาว่า หนังสือรับสภาพหนี้มีจำเลยลงลายมือชื่อเพียงฝ่ายเดียว โดยโจทก์มิได้สนองตอบในข้อสัญญาและจำเลยเป็นหนี้โจทก์เพียง 3,827 บาท จึงเป็นการกล่าวอ้างยกข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลล่าง เป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
เมื่อมูลหนี้เดิมขาดอายุความแล้ว จำเลยได้ทำสัญญารับสภาพความรับผิด ถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียซึ่งอายุความที่ครบบริบูรณ์แล้วสัญญารับสภาพความรับผิดย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับ จึงต้องนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันทำสัญญารับสภาพความรับผิดเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5088/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ & อายุความ: การรับสภาพหนี้ใหม่ทำให้ระยะเวลาอายุความเริ่มต้นใหม่
จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้และหนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ จำเลยมิต้องรับผิด ดังนั้น ที่จำเลยฎีกาว่า หนังสือรับสภาพหนี้มีจำเลยลงลายมือชื่อเพียงฝ่ายเดียว โดยโจทก์มิได้สนองตอบในข้อสัญญาและจำเลยเป็นหนี้โจทก์เพียง 3,827 บาท จึงเป็นการกล่าวอ้างยกข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลล่าง เป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เมื่อมูลหนี้เดิมขาดอายุความแล้ว จำเลยได้ทำสัญญารับสภาพความรับผิด ถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียซึ่งอายุความที่ครบบริบูรณ์แล้วสัญญารับสภาพความรับผิดย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับ จึงต้องนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันทำสัญญารับสภาพความรับผิดเป็นต้นไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2220/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนสภาพหนี้และการกำหนดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
จำเลยที่ 1 เบียดบังยักยอกเงินโจทก์ไปแล้วจำเลยที่ 2 ทำหนังสือสัญญารับสภาพความรับผิดยอมผูกพันตนร่วมกับจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินแก่โจทก์ เป็นการเปลี่ยนสภาพแห่งหนี้ซึ่งเป็นสาระสำคัญของหนี้เดิมการที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ชดใช้เงินตามหนังสือสัญญาดังกล่าว ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2220/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนสภาพหนี้และอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 กรณีสัญญารับสภาพความรับผิด
จำเลยที่ 1 เบียดบังยักยอกเงินโจทก์ไปแล้วจำเลยที่ 2 ทำหนังสือสัญญารับสภาพความรับผิดยอมผูกพันตนร่วมกับจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินแก่โจทก์ เป็นการเปลี่ยนสภาพแห่งหนี้ซึ่งเป็นสาระสำคัญของหนี้เดิมการที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ชดใช้เงินตามหนังสือสัญญาดังกล่าว ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาผ่อนชำระหนี้หลังขาดอายุความ ถือเป็นการยอมรับสภาพหนี้ใหม่ และมีผลผูกพันตามกฎหมาย
ข้อความในเอกสารซึ่งโจทก์และจำเลยทั้งสองทำขึ้นไว้ที่สถานีตำรวจมีแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 ยอมผ่อนชำระเงินตามเช็คเป็นรายเดือนให้แก่โจทก์และมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันในการชำระเงิน ไม่มีข้อความว่าโจทก์ยอมถอนคำร้องทุกข์หรือยอมเลิกคดีอาญาที่ได้แจ้งความไว้นั้น เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ยอมผ่อนผันแต่ฝ่ายเดียวไม่มีลักษณะเป็นสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทให้เสร็จไป ด้วยการยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่มีลักษณะเป็นการที่จำเลยที่1รับสภาพความรับผิดโดยสัญญา และเป็นการที่จำเลยที่ 1 ให้ประกันแก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ไว้โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันความรับผิด จำเลยทั้งสองจึงมีความรับผิดต้องใช้หนี้ตามสัญญานั้น
เมื่อหนี้ตามเช็คที่จำเลยที่ 1 มีต่อโจทก์ได้ล่วงพ้นอายุความ 1 ปีไปแล้วจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญายอมรับสภาพความรับผิดต่อโจทก์ และมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ละเสียซึ่งอายุความที่ครบบริบูรณ์แล้ว สัญญาดังกล่าวย่อมสมบูรณ์ผูกพันจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 188 วรรคสาม, 192 วรรคแรก
ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่เพียงใด ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นดังกล่าวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาผ่อนผันหนี้ & อายุความ – สัญญาใหม่ทำให้หนี้เดิมไม่ขาดอายุความ
ข้อความในเอกสารซึ่งโจทก์และจำเลยทั้งสองทำขึ้นไว้ที่สถานีตำรวจมีแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 ยอมผ่อนชำระเงินตามเช็คเป็นรายเดือนให้แก่โจทก์และมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันในการชำระเงิน ไม่มีข้อความว่าโจทก์ยอมถอนคำร้องทุกข์หรือยอมเลิกคดีอาญาที่ได้แจ้งความไว้นั้นเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ยอมผ่อนผันแต่ฝ่ายเดียวไม่มีลักษณะเป็นสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทให้เสร็จไป ด้วยการยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่มีลักษณะเป็นการที่จำเลยที่1รับสภาพความรับผิดโดยสัญญา และเป็นการที่จำเลยที่ 1 ให้ประกันแก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ไว้โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันความรับผิด จำเลยทั้งสองจึงมีความรับผิดต้องใช้หนี้ตามสัญญานั้น
เมื่อหนี้ตามเช็คที่จำเลยที่ 1 มีต่อโจทก์ได้ล่วงพ้นอายุความ 1 ปีไปแล้ว จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญายอมรับสภาพความรับผิดต่อโจทก์ และมีจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกัน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ละเสียซึ่งอายุความที่ครบบริบูรณ์แล้ว สัญญาดังกล่าวย่อมสมบูรณ์ผูกพันจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 188 วรรคสาม, 192 วรรคแรก
ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่เพียงใด ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นดังกล่าวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ค่าซื้อเชื่อและการทำสัญญาปรานีประนอม
อายุความในมูลหนี้ค่าซื้อเชื่อสิ่งของย่อมกำหนด 2 ปี ซื้อของเชื่อไปแล้วทำ สัญญากับผู้ขายผัดใช้หนี้โดยผู้เป็นฝ่ายในสัญญาได้เข้าระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยุ่ในหนี้ และทั้งสองฝ่ายต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันดังนี้เป็นสัญญาปราณีประนอมหาใช่เป็นสัญญารับสภาพความรับผิดไม่ สัญญาปราณีประนอมมีอายุความ10 ปี