คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 32

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3213/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีลามกและการริบของกลาง: องค์ประกอบความผิดและทรัพย์สินที่ริบได้
แม้ศาลจะบันทึกคำฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แต่เพียงว่า จำเลย มีวีดีโอเทปภาพลามกไว้ในครอบครองเพื่อบริการแลกเปลี่ยนให้แก่ลูกค้าหรือสมาชิกด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่า แต่บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์ได้บรรยายไว้ชัดแจ้งว่าจำเลยมีวิดีโอเทปภาพยนตร์ลามกไว้ในความครอบครองเพื่อบริการให้เช่าแลกเปลี่ยนแก่ลูกค้าหรือสมาชิก ด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่า อันเป็นการบรรยายครบ องค์ประกอบความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา287(2) แล้ว เมื่อจำเลยรับสารภาพ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์ระบุแต่เพียงว่าเจ้าพนักงานตำรวจได้จับจำเลยพร้อมทั้งยึดของกลางจำนวน 2 รายการซึ่งได้แนบท้ายฟ้องและบัญชีของกลางระบุว่าเงิน570 บาทเป็นของกลางที่พบในสถานที่เกิดเหตุขณะจับกุมเท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่บรรยายให้ชัดแจ้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 เงินของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่พึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมสินค้าตามชายแดน: สินค้าไม่ใช่ทรัพย์สินที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินจำนวนหรือปริมาณที่กำหนด และนำเข้ามาในเขตควบคุมนั้นเกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา32 หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิดพ.ร.บ.ควบคุมสินค้าตามชายแดน ต้องพิจารณาความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินจำนวนหรือปริมาณที่กำหนด และนำเข้ามาในเขตควบคุมนั้น เกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา32 หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมิได้รับอนุญาตครอบครองสินค้าเกินประกาศควบคุม ไม่เป็นเหตุริบของกลาง
จำเลยมิได้รับอนุญาตให้มีผ้าของกลางไว้ในความครอบครองซึ่งมีจำนวนและปริมาณเกินตามประกาศควบคุมออกโดยอาศัยอำนาจตาม พระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดนฯ ผ้าของกลางมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดและที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ทั้งมิใช่ได้มาโดยการกระทำความผิด จึงไม่ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3121/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยเรื่องการริบของกลางและการพิพากษาความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องขอให้ริบเฮโรอีนของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยไม่มีคำสั่งในเรื่องของกลาง เมื่อจำเลยอุทธรณ์ แม้โจทก์จะไม่อุทธรณ์ในเรื่องของกลางศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจทำคำวินิจฉัยในเรื่องของกลางได้ เพราะมิใช่เป็นกรณีเพิ่มโทษจำเลย เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้และโจทก์ยังฎีกาขอให้ริบอยู่ ศาลฎีกาพิพากษาให้ริบของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายและครอบครองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต การริบของกลาง และการใช้บทกฎหมายที่ถูกต้อง
ใช้รถยนต์ขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาตขนแร่และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีแร่ไว้ในครอบครอง ศาลจึงต้องริบทั้งแร่และรถยนต์ของกลางขณะกระทำผิด พระราชบัญญัติ แร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ยังมิได้ใช้บังคับ ศาลจะนำ มาตรา 18,21,27แห่ง พระราชบัญญัติ แร่(ฉบับที่ 3)พ.ศ.2522 ซึ่งไม่เป็นคุณแก่จำเลยมาปรับบทลงโทษจำเลยหาได้ไม่ต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายเก่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2914/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดายหญ้าในเขตป่าสงวนฯ ถือเป็นการแผ้วถางป่า ผู้รับจ้างต้องรับผิดในฐานะตัวการ
การดายหญ้าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ่คือการก่อสร้างหรือแผ้วถางในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แม้จำเลยจะกระทำโดยรับจ้างหรือถูกใช้ให้กระทำ ก็ต้องถือว่าจำเลยเป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หาใช่จะถือว่าผู้รับจ้างไม่มีเจตนาที่จะแผ้วถางป่าไม้
จอบที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด ต้องริบตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2914/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดายหญ้าในเขตป่าสงวนฯ ถือเป็นการแผ้วถางป่า จำเลยต้องรับผิดแม้เป็นผู้รับจ้าง
การดายหญ้าในเขตป่าสงวนแห่งชาติคือการก่นสร้างหรือแผ้วถางในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม้จำเลยจะกระทำโดยรับจ้างหรือถูกใช้ให้กระทำ ก็ต้องถือว่าจำเลยเป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83หาใช่จะถือว่าผู้รับจ้างไม่มีเจตนาที่จะแผ้วถางป่าไม่
จอบที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดต้องริบตามมาตรา35แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนแร่ดีบุกของกลางแก่เจ้าของที่ไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.แร่
แม้จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบแร่ของผู้ร้องแล้วก็ตาม แต่เมื่อผู้ร้องได้ร้องขอแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องคืน โดยอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดซึ่งศาลฎีกาก็ได้พิพากษาชี้ขาดแล้วว่าคำพิพากษาที่ให้ริบแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด และตามพระราชบัญญัติแร่ฯ ก็มีข้อบัญญัติมิให้ริบทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด จึงต้องคืนแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องแก่ผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีฝิ่น: ม้าต่างไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการได้มาซึ่งของกลาง
ม้าต่างของกลางเป็นเพียงพาหนะที่จำเลยใช้ในการนำพาของกลางเท่านั้น มิได้ใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งการมีฝิ่นของกลางไว้ในความครอบครองแต่อย่างใด จึงไม่เป็นทรัพย์ที่พึงต้องริบตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 69
of 27